ข้ามไปเนื้อหา

เหตุโจมตีในปหัลคาม พ.ศ. 2568

พิกัด: 34°00′13″N 75°20′01″E / 34.00361°N 75.33361°E / 34.00361; 75.33361
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เหตุโจมตีในปหัลคาม พ.ศ. 2568
เป็นส่วนหนึ่งของ การก่อความไม่สงบในชัมมูและกัศมีร์
ภาพหุบเขาซึ่งเป็นสถานที่โจมตี
สถานที่หุบเขาไบสะรัน, ปหัลคาม, อำเภออนันตนาค, ดินแดนสหภาพชัมมูและกัศมีร์
พิกัด34°00′13″N 75°20′01″E / 34.00361°N 75.33361°E / 34.00361; 75.33361
วันที่22 เมษายน ค.ศ. 2025
เป้าหมายนักท่องเที่ยว[1]
ประเภทการกราดยิงหมู่
ฆาตกรรมหมู่
การก่อการร้ายอิสลาม
อาวุธเอ็ม 4 คาร์บิน, เอเค 47
ตาย28[2]
เจ็บ20
ผู้ก่อเหตุ แนวร่วมต่อต้าน (อ้างความรับผิดชอบ, ภายหลังได้ถอนความรับผิดชอบ)
จำนวนก่อเหตุ5
เหตุจูงใจ
  • การคัดค้านการออกใบอนุญาตการพำนักอาศัยของรัฐอินเดียในกัศมีร์
  • การต่อต้านการตั้งถิ่นฐานนอกท้องถิ่นในกัศมีร์และการเปลี่ยนแปลงของประชากร

เมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2025 ผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ 5 คนได้โจมตีนักท่องเที่ยวชายในดินแดนสหภาพชัมมูและกัศมีร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28[3] ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในอินเดียนับตั้งแต่เหตุโจมตีในมุมไบ พ.ศ. 2551[4][5] เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หุบเขาไบสะรัน (Baisaran) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กับเมืองปหัลคาม เหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู[5][6]

แนวร่วมต่อต้าน (TRF) หน่วยย่อยของกองทัพแห่งความชอบธรรม[7][4] อ้างความผิดชอบในตอนแรก โดยระบุว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นความขัดแย้งต่อนโยบายของรัฐบาลอินเดียที่อนุญาตให้พลเมืองอินเดียอาศัยและทำงานในกัศมีร์ ซึ่งส่งผลให้มีการตั้งถิ่นฐานของบุคคลนอกพื้นที่ในภูมิภาคนี้[8][9] แต่สี่วันต่อมากลับปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง[10]

ผู้ก่อการร้ายพร้อมกับเอ็ม 4 คาร์บิน และ เอเค 47 เข้าไปในแหล่งท่องเที่ยวซึ่งล้อมรอบไปด้วยป่าสนหนาทึบ[11] ตามคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิต คนร้ายได้แยกผู้หญิงกับเด็กออกจากกัน และไต่ถามถึงศาสนาของกลุ่มผู้ชายก่อนที่จะยิงพวกเขา[12][13] นักท่องเที่ยวบางคนบอกว่าพวกเขาถูกขอให้ท่องบทกาลีเมาะห์ 6 บท[13] โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 26 รายนั้น 25 รายเป็นนักท่องเที่ยว ส่วนอีก 1 รายเป็นคนขับม้าในท้องถิ่นซึ่งเป็นชาวมุสลิมที่พยายามแย่งปืนจากผู้ก่อเหตุ[14][15] นักท่องเที่ยว 24 รายเป็นชาวฮินดู[6] มีนักท่องเที่ยวเพียงหนึ่งรายที่นับถือศาสนาคริสต์[16]

การโจมตีดังกล่าวทำให้ความตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานทวีความรุนแรงขึ้นและส่งผลให้เกิดวิกฤตทางการทูต อินเดียกล่าวหาปากีสถานว่าสนับสนุนการก่อการร้ายข้ามพรมแดน และระงับสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุ ขับไล่ทูตของปากีสถานและปิดพรมแดน[17] ปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหาของอินเดียและตอบโต้ด้วยการระงับข้อตกลงศิมลา จำกัดการค้า และปิดน่านฟ้า[18][19] การปะทะบริเวณชายแดนระหว่างกองกำลังอินเดียและปากีสถานเริ่มขึ้นตามแนวควบคุมในวันที่ 24 เมษายน

แหล่งอ้างอิง

[แก้]
  1. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ CNN 23 Apr
  2. Pahalgam attack 28 dead several injured in target firing survivors recall horrendous act as govt mulls action plan
  3. Pahalgam attack 28 dead several injured in target firing survivors recall horrendous act as govt mulls action plan
  4. 4.0 4.1 Shilpa Jamkhandikar (23 April 2025). "What is The Resistance Front, the militant group linked to Pahalgam attack?". Reuters.
  5. 5.0 5.1 "Pahalgam: Rage and grief after 26 killed in Indian-administered Kashmir". www.bbc.com. 23 April 2025. Most of the victims were Hindu men
  6. 6.0 6.1 Mashal, Mujib; Raj, Suhasini (23 April 2025). "India Takes Aim at Pakistan After Slaughter of Civilians in Kashmir". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 28 April 2025. A list of the victims circulating online, which was verified by local officials in Kashmir, showed that 25 of the 26 killed were Hindus.
  7. "LASHKAR-E-TAYYIBA". un.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 November 2024.
  8. Sharma, Yashraj (23 April 2025). "What is The Resistance Front, the group claiming the deadly Kashmir attack?". Al Jazeera. opposed the granting of residency permits to “outsiders”, who critics say could help India change the demography of the disputed region
  9. "'Act of war': What happened in Kashmir attack that killed 26 tourists?". Al Jazeera English. 23 April 2025.
  10. "'False, hasty & part of an orchestrated campaign': LeT terror proxy TRF backtracks; denies responsibility of Pahalgam attack". The Economic Times. 26 April 2025. ISSN 0013-0389.
  11. "Terrorists were wearing camouflage outfits, carried M4 carbine, AK-47s, fired 70 rounds: Initial probe". The Indian Express. 23 April 2025.
  12. Singh, Vijaita (23 April 2025). "Pahalgam terror attack: Terrorists asked name and religion of male tourists, shot them, says survivor". The Hindu.
  13. 13.0 13.1 Bukhari, Fayaz (23 April 2025). "Militants in Indian Kashmir segregate men from women and children before opening fire". Reuters. When the militants reached their tent, Asavari said they asked her father, Santosh Jagdale, to come out and recite an Islamic verse.
  14. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ NDTV-Victims
  15. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ BS-Pony
  16. ""Said He Was Christian, Shot Dead": How Indore Man Was Killed In Pahalgam". www.ndtv.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 28 April 2025.
  17. "Statement by Foreign Secretary on the decision of the Cabinet Committee on Security (CCS)". mea.gov.in.
  18. Masood, Salman. "Crisis Deepens for India and Pakistan Over Kashmir Attack". The New York Times. The New York Times.
  19. "Pakistan closes air space for Indian airlines, warns against water treaty violation as ties plummet". Reuters. Asif Shahzad, Ariba Shahid and Fayaz Bukhari.