ข้ามไปเนื้อหา

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ค.ศ. 1973–2001)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
กลุ่มอาคารเดิมในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2001 อาคารด้านซ้ายที่มีเสาอากาศคือ 1 WTC ส่วนอาคารด้านขวาคือ 2 WTC อาคารทั้งเจ็ดหลังของกลุ่มอาคาร WTC สามารถมองเห็นได้บางส่วน อาคารที่หุ้มด้วยหินแกรนิตสีแดงด้านซ้ายของอาคารแฝดคือ 7 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในพื้นหลังคือแม่น้ำอีสต์
แผนที่
สถิติความสูง
เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก
ตั้งแต่ 1970 ถึง 1973[I]
ก่อนหน้านี้ตึกเอ็มไพร์สเตต
หลังจากนี้เซียส์ทาวเวอร์
ข้อมูลทั่วไป
สถานะถูกทำลาย
สถาปัตยกรรม
ที่ตั้งโลเวอร์แมนแฮตตัน รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
พิกัด40°42′42″N 74°00′45″W / 40.71167°N 74.01250°W / 40.71167; -74.01250
ลงเสาเข็ม5 สิงหาคม ค.ศ. 1966 (1966-08-05)
18 มกราคม ค.ศ. 1967 (อาคารใต้)
เริ่มสร้าง
  • 1 WTC: 6 สิงหาคม ค.ศ. 1968
  • 2 WTC: มกราคม ค.ศ. 1969
  • 3 WTC: มีนาคม ค.ศ. 1979
  • 4 WTC: ค.ศ. 1974
  • 5 WTC: ค.ศ. 1970
  • 6 WTC: ค.ศ. 1969
  • 7 WTC: 2 ตุลาคม ค.ศ. 1984
วางยอด
  • 1 WTC: 23 ธันงาคม ค.ศ. 1970
  • 2 WTC: 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1971
แล้วเสร็จ
  • 1 WTC: ค.ศ. 1972
  • 2 WTC: ค.ศ. 1973
  • 3 WTC: 1 เมษายน ค.ศ. 1981
  • 4 WTC: ค.ศ. 1975
  • 5 WTC: ค.ศ. 1972
  • 6 WTC: ค.ศ. 1973
  • 7 WTC: มีนาคม ค.ศ. 1987
เปิดใช้งาน
  • 1 WTC: 15 ธันวาคม ค.ศ. 1970
  • 2 WTC: กันยายน ค.ศ. 1971
  • 3 WTC: 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1981[1]
  • 4 WTC: มกราคม ค.ศ. 1977
  • 5 WTC: มีนาคม ค.ศ. 1972
  • 6 WTC: มกราคม ค.ศ. 1974
  • 7 WTC: พฤษภาคม ค.ศ. 1987
พิธีเปิด4 เมษายน ค.ศ. 1973 (1973-04-04)[2]
ถูกทำลาย11 กันยายน ค.ศ. 2001
(28 ปี 5 เดือน 7 วัน หลังพิธีเปิด)
เจ้าของการท่าเรือนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์
Other information
ความสูง
เสาอากาศ1 WTC: 1,728 ฟุต (526.7 เมตร)
หลังคา
  • 1 WTC: 1,368 ฟุต (417.0 เมตร)
  • 2 WTC: 1,362 ฟุต (415.1 เมตร)
  • 3 WTC: 250 ฟุต (76.2 เมตร)
  • 4 และ 5 WTC: 120 ฟุต (36.6 เมตร)
  • 6 WTC: 110 ฟุต (33.5 เมตร)
  • 7 WTC: 610 ฟุต (185.9 เมตร)
ชั้นบนสุด
  • 1 WTC: 1,355 ฟุต (413 เมตร)
  • 2 WTC: 1,348 ฟุต (411 เมตร)
ข้อมูลทางเทคนิค
จำนวนชั้น
  • 1 และ 2 WTC: 110 ชั้น
  • 3 WTC: 22 ชั้น
  • 4 และ 5 WTC: 9 ชั้น
  • 6 WTC: 8 ชั้น
  • 7 WTC: 47 ชั้น
พื้นที่แต่ละชั้น
  • 1 และ 2 WTC: 4,300,000 ตารางฟุต (400,000 ตารางเมตร) แต่ละอาคาร
  • 4, 5, และ 6 WTC: 500,000 ตารางฟุต (50,000 ตารางเมตร) แต่ละอาคาร
  • 7 WTC: 1,868,000 ตารางฟุต (170,000 ตารางเมตร)
ลิฟต์
  • 1 WTC: 99
  • 2 WTC: 95
การออกแบบและการก่อสร้าง
สถาปนิก
ผู้พัฒนาโครงการการท่าเรือนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์
วิศวกรเวิร์ทิงตัน, สกิลลิง, เฮลเลแอนด์แจ็กสัน,[3] เลสลี อี. รอเบิร์ตสันแอสโซซิเอตส์
ผู้รับเหมาก่อสร้างทิชแมนรีแอลทิแอนด์คอนสตรักชันคอมพานี
เว็บไซต์
panynj.gov/wtc/wtcfram.HTM
(เก็บถาวร)
อ้างอิง
I. ^ [4][5]

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (อังกฤษ: World Trade Center; ย่อ: WTC) เดิมเป็นกลุ่มอาคารเจ็ดหลังในย่านไฟแนนเชียลดิสทริกต์ของโลเวอร์แมนแฮตตันในนครนิวยอร์ก อาคารส่วนใหญ่สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1966 ถึง ค.ศ. 1975 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1973 ก่อนจะถูกทำลายในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 กลุ่มอาคารนี้ประกอบด้วย อาคารแฝด (Twin Towers) ที่มีความสูง 110 ชั้น ซึ่งในช่วงที่สร้างเสร็จเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก โดย 1 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เดิม (อาคารเหนือ) มีความสูง 1,368 ฟุต (417 เมตร) และ 2 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (อาคารใต้) มีความสูง 1,362 ฟุต (415.1 เมตร) อาคารแฝดดังกล่าวยังเป็นตึกระฟ้าแฝดที่สูงที่สุดในโลกจนกระทั่ง ค.ศ. 1996 เมื่อเปโตรนาสทาวเวอร์ (Petronas Towers) ในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเปิดใช้งาน อาคารอื่น ๆ ในกลุ่มประกอบด้วยแมริออทเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (3 WTC), 4 WTC, 5 WTC, 6 WTC และ 7 WTC โดยรวมแล้ว กลุ่มอาคารนี้มีพื้นที่สำนักงานรวม 13,400,000 ตารางฟุต (1,240,000 ตารางเมตร) และก่อนการก่อสร้างแล้วเสร็จ มีการคาดการณ์ว่าจะรองรับผู้คนได้ประมาณ 130,000 คน[6]

โครงการแกนกลางมีค่าใช้จ่ายประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ (เทียบเท่า 2.00 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024)[7] เดวิด รอกกีเฟลเลอร์ เป็นผู้เสนอให้สร้างกลุ่มอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเมืองในโลเวอร์แมนแฮตตัน และเนลสัน รอกกีเฟลเลอร์ ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กคนที่ 49 ได้ลงนามในกฎหมายเพื่อก่อสร้างอาคารนี้[8][9] อาคารต่าง ๆ ในกลุ่มได้รับการออกแบบโดยมิโนรุ ยามาซากิ[10] ใน ค.ศ. 1998 การท่าเรือนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ตัดสินใจแปรรูปโดยให้บริษัทเอกชนเช่าอาคารเพื่อบริหารจัดการ และได้มอบสัญญาเช่าให้กับซิลเวอร์สไตน์พรอพเพอร์ทีส์ (Silverstein Properties) ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2001[11] ในช่วงที่มีอยู่ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นสัญลักษณ์ของโลกาภิวัตน์และอำนาจทางเศรษฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองของสหรัฐ[12] แม้ว่าการออกแบบจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในตอนแรกโดยชาวนิวยอร์กและนักวิจารณ์สถาปัตยกรรม[13] แต่อาคารแฝดก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของนครนิวยอร์ก[14] มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมประชานิยม และตามการประเมินหนึ่งได้ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ถึง 472 เรื่อง อาคารแฝดนี้ยังถูกใช้ในการแสดงเดินไต่เชือกของฟิลิปป์ เปอตีต์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1974[15] หลังวินาศกรรม 11 กันยายน การกล่าวถึงกลุ่มอาคารนี้ในสื่อต่าง ๆ ได้ถูกแก้ไขหรือลบออก และมีการสร้าง "ภาพยนตร์อนุสรณ์" หลายสิบเรื่อง[16]

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนครนิวยอร์กและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เคยเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมและเหตุการณ์ก่อการร้ายที่สำคัญหลายครั้ง รวมถึงเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1975[17] เหตุระเบิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993[18] และการปล้นธนาคารเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1998[19] ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 กลุ่มสลัดอากาศในเครือข่ายอัลกออิดะฮ์ได้จี้เครื่องบินโบอิง 767 สองลำ พุ่งชนอาคารแฝดทีละลำ ห่างกันสิบเจ็ดนาที โดยมีผู้คนระหว่าง 16,400 ถึง 18,000 คนอยู่ในอาคารแฝดเมื่อถูกโจมตี[20] ไฟที่ลุกไหม้จากการชนรุนแรงขึ้นจากเชื้อเพลิงไอพ่นที่ลุกไหม้ ซึ่งประกอบกับความเสียหายเบื้องต้นต่อเสาโครงสร้างของอาคาร ทำให้ในที่สุดอาคารทั้งสองก็ถล่มลงมา[21] การโจมตีคร่าชีวิต 2,606 คนในและรอบอาคาร รวมถึงผู้โดยสารทั้งหมด 147 คนบนเครื่องบินทั้งสองลำ (ไม่รวมสลัดอากาศ 10 คน)[22] เศษที่ตกลงมาจากอาคาร ประกอบกับไฟที่ลุกลามในอาคารรอบข้างที่เกิดจากเศษที่ตกลงมา นำไปสู่การถล่มบางส่วนหรือทั้งหมดของอาคารทั้งหมดในกลุ่มเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ รวมถึง 7 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่ออาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ อีก 10 แห่งในพื้นที่โดยรอบ

กระบวนการเก็บกวาดและฟื้นฟูพื้นที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใช้เวลาแปดเดือน ซึ่งในระหว่างนั้นซากอาคารอื่น ๆ ก็ถูกรื้อถอน ในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 เหล็กชิ้นสุดท้ายของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถูกนำออกอย่างเป็นทางการ[23] ปัจจุบันมีการสร้างกลุ่มอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใหม่ขึ้นมาพร้อมกับตึกระฟ้าใหม่หกหลังและอาคารอื่น ๆ อีกหลายหลัง ซึ่งหลายแห่งสร้างเสร็จแล้ว มีการเปิดอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์สำหรับผู้เสียชีวิตในการโจมตี ศูนย์คมนาคมด่วนใหม่ และสวนลอยฟ้า อนุสรณ์สถานมีสระน้ำสะท้อนแสงสี่เหลี่ยมสองสระอยู่ตรงกลางเพื่อระบุตำแหน่งที่อาคารแฝดเคยตั้งอยู่[24] วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ อาคารที่สูงที่สุดในซีกโลกตะวันตกด้วยความสูง 1,776 ฟุต (541 เมตร) และเป็นอาคารหลักสำหรับกลุ่มอาคารใหม่นี้ สร้างเสร็จในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2013 และเปิดใช้งานในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2014

ข้อมูลทั่วไป

[แก้]

เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2509 (อาคาร 1 สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2513 และอาคาร 2 เมื่อ พ.ศ. 2515 เริ่มทำพิธีเปิดอาคารวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2516 แต่ละวันจะมีพนักงานทำงานในอาคารนี้มากกว่า 50,000 คน และนักท่องเที่ยวมากกว่า 200,000 คน เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์มีรหัสไปรษณีย์ของตัวเอง คือ 10048

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นสัญลักษณ์ของนครนิวยอร์ก และปรากฏตัวในภาพยนตร์จำนวนมาก เช่น เรื่อง The Godfather III, World Trade Center, MIB, United 93, Oliver and Company , The Walk (ไต่ขอบฟ้าท้านรก)

อาคาร

[แก้]

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ประกอบด้วย 7 อาคาร ดังต่อไปนี้

  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 (อาคารเหนือ) มี 110 ชั้น
  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 (อาคารใต้) มี 110 ชั้น
  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 3 (โรงแรมมาร์ริออทท์) มี 22 ชั้น
  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 4 (อาคารพลาซ่าเหนือ) มี 9 ชั้น
  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 5 (อาคารพลาซ่าใต้) มี 9 ชั้น
  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 6 (U.S. Customs House) มี 8 ชั้น
  • เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 7 มี 47 ชั้น

อาคารแฝด

[แก้]

อาคารแฝดหมายเลข 1–2 เป็นอาคารที่สูงที่สุด มี 110 ชั้น โดยอาคารเหนือ มีความสูง 530 เมตร (รวมเสาอากาศ) และอาคารใต้ มีความสูง 417 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2515 และ พ.ศ. 2516 ตามลำดับ แซงตึกเอ็มไพร์สเตตขึ้นเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอาคารเซียร์ทาวเวอร์ในชิคาโก และสูงที่สุดในนครนิวยอร์ก

แต่ละอาคารมีพื้นที่ใช้สอย 3.8 ล้านตารางฟุต (350,000 ตร.ม.) ถ้านับรวมอาคารทั้งหมดจะมีพื้นที่ใช้สอยรวม 11.2 ล้านตารางฟุต (1.04 ล้าน ตร.ม.) โครงสร้างอาคารทั้งคู่เป็นแบบโครงเหล็กกล้า ผนังกระจกคล้ายกำแพงม่านแก้ว บางส่วนของสำนักงานเป็นกำแพงปูนปาสเตอร์ เพื่อประหยัดน้ำหนักของแต่ละชั้น

คนทั่วไปสามารเข้าชมทัศนียภาพจากอาคารได้ในส่วนของภัตตาคารบนยอดอาคาร (ชั้น 107) ของอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 ชื่อ "วินโดว์ออฟดิเวิลด์" ("Windows on the World") และจากอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 ชื่อ "ท็อปออฟดิเวิลด์" ("Top of the World")

รายชื่อการก่อวินาศกรรม

[แก้]

การก่อวินาศกรรมใน พ.ศ. 2536

[แก้]

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 เวลา 12:18 น. ตามเวลาท้องถิ่น รถบรรทุกที่มีระเบิดน้ำหนัก 1,500 ปอนด์ ได้ระเบิดบริเวณที่จอดรถใต้ดินของอาคาร 1 ทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 100 เมตร มีผู้เสียชีวิต 6 คนและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ผู้ก่อการร้าย 6 คนถูกจับใน พ.ศ. 2540 และ พ.ศ. 2541

การก่อวินาศกรรมใน พ.ศ. 2544

[แก้]

เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ได้มีการปล้นเครื่องบินพาณิชย์และพุ่งเข้าชนอาคารแฝดซึ่งได้แก่ อเมริกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 ชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 บริเวณชั้นที่ 90-95 และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 ชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 บริเวณชั้นที่ 75-90 ส่งผลให้ทั้งสองอาคารถล่มในเวลาต่อมา โดยอาคารแรกที่ถล่ม คือ อาคารสอง ถล่มหลังจากถูกชน 1 ชั่วโมงเศษ และอาคารหนึ่งได้ถล่มหลังอาคารสอง 45 นาที (หรือหลังจากถูกชน 1 ชั่วโมง 45 นาที) หลังจากนั้น อาคาร 7 ได้ถล่มในวันถัดมา เนื่องจากการถล่มของอาคารทั้งคู่ทำให้รากฐานของอาคาร 7 ไม่มั่นคง ประกอบกับตัวอาคารเกิดไฟไหม้ ทำให้โครงเหล็กค้ำยันของอาคาร 7 ถล่มลง แต่โชคดีที่มีการอพยพคนออกจากอาคารนี้ก่อนที่จะถล่ม ส่วนอาคารที่เหลืออีก 4 อาคาร ได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากถูกอาคาร 1 และอาคาร 2 ถล่มทับ มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการรวม 2,749 คน

สาเหตุที่อาคารถล่ม เกิดจากแรงปะทะของเครื่องบินโบอิง 767 ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 170 ตัน พุ่งเข้าชนตัวอาคารแบบเฉือนจุดกึ่งกลางภายในอาคารด้วยความเร็ว 570 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นแรงกระทำต่ออาคารสูงขณะอยู่กับที่ (Dynamic Lode) ชิ้นส่วนบางส่วนของเครื่องบินเช่น เครื่องยนต์โบอิง 767 ได้หลุดออกจากตัวอาคาร แต่ส่วนใหญ่ชิ้นส่วนของเครื่องบินกระจายฝังอยู่ในตัวอาคาร ประกอบกับแรงระเบิดมหาศาลจากการลุกไหม้ของน้ำมันเครื่องบินที่บรรจุมาเต็มถังน้ำมัน ส่งผลให้เสาหลักและช่องลิฟท์ของอาคารเสียหาย ทำให้การกระจายน้ำหนักของอาคารต้องกระจายอ้อมส่วนที่เสียหาย แต่การชนนี้ยังไม่ทำให้ตัวอาคารถล่มลงทันที เนื่องจากอาคารถูกออกแบบให้ทนต่อการชนของเครื่องบินขนาด โบอิง 707 โครงสร้างหลักของอาคารเป็นแกนเหล็กตรงกลางอาคาร (Steel Framed Tuble) และมีโครงเหล็กถัก (Truss) จากแกนหลักไปยังผนังอาคาร เพลิงที่ไหม้ในอาคารมีอุณหภูมิสูงถึง 800 องศาเซลเซียส ส่งผลให้โครงเหล็กถักสูญเสียความแข็งแรง เกิดการงอตัวจากน้ำหนักอาคารและหลุดออกจากจุดยึด ทำให้อาคารแต่ละชั้นถล่มลงด้วยน้ำหนักของแต่ละชั้นเอง (Self Weight) หลังจากการชน 1 ชั่วโมง

การก่อสร้างใหม่ (นิวเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์)

[แก้]

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์มีแผนการก่อสร้างใหม่ในชื่อ Memory Foundations ซึ่งประกอบด้วยอาคารดังต่อไปนี้

  • อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 (ชื่อเดิม คือ ฟรีดอมทาวเวอร์: Freedom Tower) สูง 1,776 ฟุต (541.3 ม.) มี 104 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2550 และแล้วเสร็จในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 โดยมีการปรับปรุงแบบหลายครั้ง จนในที่สุดได้แบบสุดท้ายโดยสถาปนิกชื่อลิเบสกินด์ (Libeskind) และภูมิสถาปนิกชื่อ ปีเตอร์ วอล์คเกอร์ (Peter Walker) ผู้ออกแบบลานอนุสรณ์สถาน อ้างอิงเว็บไซต์การประกวดแบบ เก็บถาวร 2020-02-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  • อาคาร 2 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (200 ถนนกรีนวิช) สูง 1,350 ฟุต (410.5 ม.) มี 90 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี พ.ศ. 2567
  • อาคาร 3 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (175 ถนนกรีนวิช) สูง 1,079 ฟุต (329 ม.) มี 69 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2553 ก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2561
  • อาคาร 4 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (150 ถนนกรีนวิช) สูง 978 ฟุต (298 ม.) มี 78 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2552 และแล้วเสร็จในวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
  • อาคาร 5 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (130 ถนนลิเบอร์ที) สูง 910 ฟุต (280 ม.) มี 80 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554
  • อาคาร 7 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ มีความสูง 743 ฟุต (226 เมตร) มี 52 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ก่อสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
  • อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 11 กันยายนแห่งชาติ มีความสูง 20 - 23 เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 แล้วเสร็จในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554 (Memorial) และ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 (Museum)

อ้างอิง

[แก้]
  1. "The city's newest hotel, the Vista International, officially opened..." UPI. July 1, 1981. สืบค้นเมื่อ May 23, 2018.
  2. Prial, Frank J. (April 5, 1973). "Governors Dedicate Trade Center Here; World Role Is Cited". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). p. 1. สืบค้นเมื่อ October 13, 2021.
  3. Nalder, Eric (February 27, 1993). "Twin Towers Engineered To Withstand Jet Collision". The Seattle Times. สืบค้นเมื่อ September 6, 2021.
  4. "World Trade Center". Emporis. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 30, 2015.{{cite web}}: CS1 maint: unfit URL (ลิงก์)
  5. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ PANYNJ
  6. Ferretti, Fred (October 28, 1970). "Its Ambiance Will Go From Snack to Posh". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ January 24, 2023.
  7. Johnston, Louis; Williamson, Samuel H. (2023). "What Was the U.S. GDP Then?". MeasuringWorth. สืบค้นเมื่อ November 30, 2023. United States Gross Domestic Product deflator figures follow the MeasuringWorth series.
  8. "David and Nelson Rockefeller | American Experience". www.pbs.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ October 3, 2021.
  9. Dunlap, David W. (March 26, 2017). "What David Rockefeller Wanted Built Got Built". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ October 3, 2021.
  10. "Minoru Yamasaki designed World Trade Center as "beacon of democracy"". Dezeen (ภาษาอังกฤษ). September 10, 2021. สืบค้นเมื่อ October 3, 2021.
  11. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ cuozzo
  12. "9/11 FAQs | National September 11 Memorial & Museum". www.911memorial.org. สืบค้นเมื่อ October 14, 2021.
  13. Stewart, Henry (September 8, 2016). "Why New Yorkers Couldn't Stand The Twin Towers". Gothamist (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ August 3, 2023.
  14. Gillespie (1999), p. 162.
  15. Lichtenstein, Grace (August 8, 1974). "Stuntman, Eluding Guards, Walks a Tightrope Between Trade Center Towers". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ October 14, 2021.
  16. Langmead (2009), p. 353.
  17. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ nyt 19750214
  18. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ reeve p10
  19. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ mafia 2007
  20. "What year was 9/11 – and what happened during terror attacks?". Nationalworld (ภาษาอังกฤษ). September 8, 2021. สืบค้นเมื่อ October 14, 2021.
  21. "Why Did the World Trade Center Collapse? Science, Engineering, and Speculation". www.tms.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2020. สืบค้นเมื่อ October 14, 2021.
  22. "Man's death from World Trade Center dust brings Ground Zero toll to 2,753". NY Daily News. Associated Press. June 18, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 13, 2019. สืบค้นเมื่อ September 1, 2011.
  23. Leduff, Charlie (May 29, 2002). "Last Steel Column From the Ground Zero Rubble Is Cut Down". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ October 14, 2021.
  24. Handwerker, Haim (November 20, 2007). "The politics of remembering Ground Zero". Haaretz – Israel News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 20, 2009. สืบค้นเมื่อ November 21, 2007.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
ก่อนหน้า เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ค.ศ. 1973–2001) ถัดไป
ตึกเอ็มไพร์สเตต
ตึกที่สูงที่สุดในโลก
(พ.ศ. 2513–2517)
วิลลิสทาวเวอร์