เรือลาดตระเวนเยอรมัน บลึชเชอร์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บลึชเชอร์ ในขณะที่ทำการทดสอบเดินเรือ
| |
ประวัติ | |
---|---|
นาซีเยอรมนี | |
ชื่อ | บลึชเชอร์ |
ตั้งชื่อตาม | เก็พฮาร์ท ฟ็อน บลึชเชอร์ |
ปล่อยเรือ | 15 สิงหาคม ค.ศ. 1936 |
เดินเรือแรก | 8 มิถุนายน ค.ศ. 1937 |
เข้าประจำการ | 20 กันยายน ค.ศ. 1939 |
ความเป็นไป | ถูกจมลงโดยกองปืนใหญ่ชายฝั่งนอร์เวย์ในยุทธการที่ Drøbak Sound เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1940 |
ลักษณะเฉพาะ | |
ชั้น: | Admiral Hipper-class cruiser |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): | |
ความยาว: | 203.20 m (666 ft 8 in) overall |
ความกว้าง: | 22 m (72 ft 2 in) |
กินน้ำลึก: | Full load: 7.20 m (23.6 ft) |
ระบบพลังงาน: | |
ระบบขับเคลื่อน: |
|
ความเร็ว: | 32 นอต (59 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 37 ไมล์ต่อชั่วโมง) |
อัตราเต็มที่: |
|
ยุทโธปกรณ์: |
|
เกราะ: |
|
อากาศยาน: | 3 aircraft |
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: | 1 catapult |
บลึชเชอร์ เป็นเรือลาดตระเวนหนักลำที่สองในห้าลำของกลุ่มเรือลาดตระเวนชั้นแอดมิรัลฮิปเปอร์ (Admiral Hipper-class) ของครีคส์มารีเนอของนาซีเยอรมนี ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายหลังการเถลิงอำนาจของพรรคนาซี และการเพิกเฉยสนธิสัญญาแวร์ซาย ชื่อนี้ถูกตั้งชื่อมาจากเก็พฮาร์ท ฟ็อน บลึชเชอร์ จอมพลแห่งปรัสเซียผู้มีชัยเหนือจักรพรรดินโปเลียนในยุทธการที่วอเตอร์ลู เรือได้ถูกปล่อยในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1936 และเดินเรือครั้งแรกในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1937 เธอได้ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 ไม่นานภายหลังการปะทุของสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังจากได้เสร็จสิ้นจากหนึ่งในชุดของการทดสอบเดินเรือและการฝึกซ้อมรบทางทะเล เรือก็ได้เตรียมพร้อมแล้วสำหรับการปฏิบัติหน้าที่กับกองเรือในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1940 เธอได้ถูกติดตั้งอาวุธด้วยกระบอกปืนใหญ่หลักทั้งแปดกระบอกซึ่งมีขนาด 20.3 ซม (8.0 นิ้ว) และแม้ว่าตามตัวเลขจะอยู่ภายใต้ขีดจำกัดอยู่ที่ 10,000-ลองตัน (10,000 ตัน) ที่ถูกกำหนดโดยข้อตกลงกองทัพเรืออังกฤษ-เยอรมัน แท้จริงแล้วได้ถูกแทนที่โดยมากกว่า 16,000-ลองตัน (16,000 ตัน)
ทันทีที่ได้เข้ามาประจำการ บลึชเชอร์ได้รับมอบหมายให้เป็นกองเรือเฉพาะกิจในการสนับสนุนการรุกรานนอร์เวย์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1940 บลึชเชอร์ได้ทำหน้าที่เป็นเรือธงของ Konteradmiral (พลเรือตรี) Oskar Kummetz ผู้บัญชาการของกลุ่มที่ 5 เรือได้นำกองเรือรบแล่นเรือเข้าสู่ Oslofjord ในช่วงคืนของวันที่ 8 เมษายน เพื่อเข้ายึดออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ปืนใหญ่ชายฝั่งสองกระบอกที่เก่าแก่ซึ่งมีขนาด 28 ซม. (11 นิ้ว) ในป้อมปราการ Oscarsborg ทำการจ่อเล็งไปที่เรือในระยะที่ใกล้มากซึ่งทำการยิงสองนัด รวมทั้งปืนขนาดเล็กหลายกระบอกในกองปืนใหญ่อื่น ๆ ตอร์ปิโดสองลูกที่ถูกยิงด้วยอาวุธยิงตอร์ปิโดในป้อมปราการได้พุ่งเข้าชนเรือ ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เกิดเพลิงไหม้โหมกระหน่ำบนเรือบลึชเชอร์ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ ไฟได้ลุกลามไปยังรังกระสุนปืนต่อต้านอากาศยานของเธอ ทำให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ และจากนั้นไฟได้ลุกลามไปยังบังเกอร์ที่เก็บเชื้อเพลิงของเรือ บลึชเชอร์จึงเกิดการพลิกคว่ำและจมลงพร้อมกับการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก
ซากเรืออัปปางที่อยู่บนก้นทะเลของ Oslofjord และใน ค.ศ. 2016 ได้ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกสงครามเพื่อปกป้องซากเรือดังกล่าวจากพวกปล้นสะดม มีสิงประดิษฐ์หลายอย่างที่ถูกหยิบขึ้นมาจากซากเรืออัปปาง รวมทั้งหนึ่งในนั้นคือเครื่องบินลอยน้ำรุ่นอาร์โด เออาร์ 196 ซึ่งได้รับการกู้คืนในช่วงปฏิบัติการเพื่อสูบน้ำมันเชื้อเพลิงที่รั่วไหลออกมาจากเรือใน ค.ศ. 1994