เทเลซีน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เทเลซีน เป็นกระบวนการถ่ายโอนภาพเคลื่อนไหวจากฟิล์มลงสู่วิดิโอ และหมายรวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลังการผลิตด้วย โดยการฉายฟิล์มลงบนอุปกรณ์วิดิโอทั่วไป อาทิโทรทัศน์ หรือเครื่องบันทึกเทปวิดิโอ(วีซีอาร์) หรือคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้มักใช้ในการแปลงภาพยนตร์เพื่อจัดจำหน่ายในรูปแบบของสื่อวิดิโอ หรือพื่อเข้ากระบวนการจัดทำภาพยนตร์ที่ต้องใช้เครื่องมือวิดิโอในการดำเนินการ สำหรับในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เรียกโดยย่อว่า TK เนื่องจาก TC ถูกใช้เรียกรหัสกำหนดเวลาไปแล้ว.

ประวัติ[แก้]

เมื่อการออกอากาศทางโทรทัศน์เริ่มได้รับความนิยม ผู้ผลิตรายการต้องการมากกว่าการออกอากาศสด โดยการกลับไปใช้เครื่องมือภาพยนตร์ ที่สามารถใช้เครื่องมือที่มีอาทิกล้องภาพยนตร์ ทำให้สามารถบันทึกรายการได้ก่อนเวลาออกอากาศได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอัตราการเคลื่อนไหวที่ต่างการของฟิล์มภาพยนตร์ (โดยทั่วไปจะเป็น 24 เฟรมต่อวินาที) กับโทรทัศน์ (30 หรือ 25 เฟรมต่อวินาที) ทำให้การฉายภาพยนตร์เข้าสู่กล้องโทรทัศน์โดยตรงจะเกิดปัญหาภาพกะพริบบนเฟรมของโทรทัศน์

แต่เดิม คิเนสโคปถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหานี้ โดยปรับความเร็วในการฉายให้สัมพันธ์กับความเร็วในการสแกนของโทรทัศน์ ทำให้สามารถฉายซ้ำเข้าสู่กล้องโทรทัศน์ได้โดยตรง ทำให้รายการที่ไม่ออกอากาศสดสามารถใช้กล้องภาพยนตร์ในการบันทึก และใช้อุปกรณ์ภาพยนตร์ในการปรับปรุงได้ตามปกติ และฉายกลับเข้าสู่โทรทัศน์ได้ ทำให้ปัญหาภาพกะพริบถูกกำจัดออก นอกจากนี้ยังสามารถใช้สไลด์หรือเครื่องฉายภาพได้ จึงมีการใช้การเลื่อนกระจกหรือปริซึมในการสลับภาพได้ ยิ่งไปกว่านั้นภาพสียังสามารถใช้ปริซึม หลอดภาพวิดิโอหลายตัว และฟิลเตอร์ในการแบ่งสีและจ่ายสีแดง เขียว และน้ำเงินเข้าสู่หลอดภาพแต่ละหลอดเพื่อการออกอากาศภาพสีได้

อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาด้วยวิธีดังกล่าวก็ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา การเร่งความเร็วให้สัมพันธ์กับความเร็วการฉายขของโทรทัศน์ จะเกิดปัญหาเสียงเร็วจนฟังไม่เข้าใจ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในระบบโทรทัศน์แบบ NTSC ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยาก โดยการเลือกฉายภาพสองเฟรมบนฟิล์มเป็นระยะ ในระบบโทรทัศน์แบบ NTSC ปัญหาอัตราเร็วไม่สัมพันธ์แก้ไขได้โดยการฉาย 2 เฟรมภาพยนตร์บน 4 เฟรมโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จำเป็นต้องแก้ปัญหาเสียงกระโดอันเนื่องมาจากการฉายนิ่งเป็นระยะ วิธีนี้ได้รับการยอมรับและเรียกว่า "2:3 pulldown" สำหรับระบบโทรทัศน์แบบ PAL ที่ใช้การฉายทุกๆ 2 เฟรมภาพยนตร์สู่ 3 เฟรมโทรทัศน์ ซึ่งทำให้ได้ภาพที่นุ่มนวลกว่า เรียกว่า "2:2 pulldown" ปัญหาก็คือ ภาพและเสียงก็จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวมทั้งระยะเวลาในการฉายลดลงเล็กน้อย

อ้างอิง[แก้]