ข้ามไปเนื้อหา

เดอะเอ็มไพร์บรูไน

พิกัด: 4°58′6″N 114°51′13″E / 4.96833°N 114.85361°E / 4.96833; 114.85361
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดอะเอ็มไพร์บรูไน
เดอะเอ็มไพร์บรูไนในปี ค.ศ. 2023
แผนที่
ข้อมูลทั่วไป
สถานะเปิดบริการ
ประเภทโรงแรมหรู
ที่ตั้งกำปงเจรูดง, บีจี3122, ประเทศบรูไน
พิกัด4°58′6″N 114°51′13″E / 4.96833°N 114.85361°E / 4.96833; 114.85361
เริ่มสร้าง1994; 31 ปีที่แล้ว (1994)
แล้วเสร็จ2000; 25 ปีที่แล้ว (2000)
เปิดใช้งาน16 ตุลาคม 2000; 24 ปีก่อน (2000-10-16)
ค่าก่อสร้าง$1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เจ้าของสำนักงานการลงทุนบรูไน
พื้นที่ชั้นล่าง180 เฮกตาร์ (440 เอเคอร์)
การออกแบบและการก่อสร้าง
บริษัทออกแบบแม็คเคอร์เรน ลินช์
ผู้ออกแบบผู้อื่นแจ็ค นิคลอส
ข้อมูลอื่น
จำนวนห้อง532 ห้อง
เว็บไซต์
theempirebrunei.com
อ้างอิง
[1][2][3]

เดอะเอ็มไพร์บรูไน (อังกฤษ: The Empire Brunei) เป็นโรงแรมหรูหราที่ตั้งอยู่ในกัมปงเจรูดง ใกล้กับเมืองหลวงบันดาร์เซอรีเบอกาวัน ในเขตบรูไน-มัวราของประเทศบรูไน[4] เดิมทีได้รับเงินทุนจากเจ้าชายเจอฟรี โบลเกียห์ ซึ่งสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2000 โรงแรมประสบปัญหาทางการเงินซึ่งส่งผลให้รัฐบาลเข้าลงทุนและโอนกรรมสิทธิ์[5] โรงแรมเปิดตัวอีกครั้งในปี ค.ศ. 2019 พร้อมกับการปรับปรุงห้องพักใหม่[6] โดยเสนอห้องพักหลากหลายประเภท รวมถึง "เอ็มเพอร์เรอสูท"[7] โรงแรมนี้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงมีสนามกอล์ฟ และเป็นเจ้าภาพจัดงานอาเซียนหลากหลายงาน

ประวัติ

[แก้]

ในช่วงทศวรรษ 1990 เจ้าชายเจอฟรี โบลเกียห์ พระราชทานทุนสนับสนุนการก่อสร้างโรงแรมมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] วิกฤตทางการเงินของทรัพยากรภายในรัฐทำให้รัฐบาลต้องลงทุนในสิ่งที่เดิมตั้งใจให้เป็นวิสาหกิจเอกชน[8] การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1994 และใช้ระยะเวลานานถึง 6 ปี โดยมีสถาปนิกและนักออกแบบ 220 คนจากบริษัทแม็คเคอร์เรน ลินช์จากประเทศออสเตรเลียเข้าร่วมสร้าง[3] เดิมทีเป็นของบริษัทอาเมเดโอเดเวลอปเมนต์[9] ซึ่งพระองค์เองทรงเป็นผู้นำ[1] ต่อมาถูกโอนกรรมสิทธิ์ไปยังสำนักงานการลงทุนบรูไนหลังจากการปืดกิจการของบริษัทในปี ค.ศ. 1998[1]

โรงแรมแห่งนี้เดิมรู้จักกันในนามว่า โรงแรมเจรูดงพาร์ค[10] โรงแรมเอ็มไพร์และคันทรีคลับได้รับการพัฒนาในช่วงเวลาหกปีด้วยความร่วมมือของนักออกแบบ นักเทคโนโลยี และช่างฝีมือประมาณ 300 คน พร้อมกับเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2000[5] โรงแรมมีกำหนดเปิดตัวก่อนการประชุมสุดยอดเอเปคของบรูไนดารุสซาลาม 2000 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพื้นที่โรงแรมในบันดาร์เซอรีเบอกาวัน[10]

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2019 โรงแรมแห่งนี้ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น เดอะเอ็มไพร์บรูไน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 19 ปี การเปลี่ยนชื่อนี้เกิดจากการบริหารโดยแอนด์สมิท (& SMITH) ซึ่งยังคงใช้ชื่อเดิม "เดอะเอ็มไพร์" และเพิ่มคำว่า "บรูไน" เพื่อเน้นย้ำถึงสถานที่ตั้ง ตราเพิ่มใหม่นี้ใช้ดอกไม้ประจำชาติ กล่าวคือ ดอกส้านชะวา ล้อมรอบด้วยดอกลิลลี่ และใช้โทนสีทองและสีน้ำเงินอมเขียวเพื่อเป็นตัวแทนของท้องทะเลและป่าไม้[6]

การออกแบบและตกแต่ง

[แก้]

โรงแรมตั้งอยู่บนพื้นที่ริมชายหาดขนาด 180 เฮกตาร์ (445 เอเคอร์) สามารถมองเห็นทะเลจีนใต้ได้[11] โรงแรมมีทั้งห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุม[2] โรงแรมถือเป็นโรงแรมระดับ "หกดาว"[12]

สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ อาทิ สนามกอล์ฟ 18 หลุมที่ออกแบบโดยแจ็ค นิคลอส[13][14] สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาอื่น ๆ รวมถึงชายหาดส่วนตัวสองแห่ง[15] ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์สามจอ[2] "เอ็มเพอเรอร์สูท" ซึ่งเป็นห้องชุดที่แพงที่สุดในโรงแรม[7] มีพื้นที่ 665 หรือ 675 ตารางเมตร (7,160 หรือ 7,270 ตารางฟุต)[16][3] ของชั้นที่เจ็ด[17] และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น พื้นที่รับประทานอาหารส่วนตัว สระว่ายน้ำ เปียโนแกรนด์ ซาวน่า จาคุซซี่ ลิฟต์ส่วนตัว และโรงภาพยนตร์[18] รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย อาทิ กระจกกันกระสุน[18] ราคามีตั้งแต่ 16,600 ถึง 23,000 เหรียญสหรัฐต่อคืน[19][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] ห้องชุดนี้มักสงวนไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติเท่านั้น[18] แขกคนแรกคือประธานาธิบดี บิล คลินตัน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งพำนักในระหว่างการประชุมเอเปค ที่บรูไนดารุสซาลาม ค.ศ. 2000 อดีตแขกรับเชิญคนอื่น ๆ อย่างเจ้าชายชาร์ลส์แห่งสหราชอาณาจักรในขณะนั้น[7]

กิจกรรม

[แก้]

การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 25 จัดขึ้นที่โรงแรมเอ็มไพร์เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2015 ในห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรม[20]

กระทรวงวัฒนธรรม เยาวชน และกีฬาได้จัดการประชุมประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนที่โรงแรมตั้งแต่วันที่ 28 ถึง 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2024[21] ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2024 โรงแรมได้จัดการประชุมกรอบการประชุมอาเซียนว่าด้วยเรื่องข้าราชการพลเรือน (ACCSM)[22]

สนามกอล์ฟของโรงแรมได้จัดการแข่งขันบรูไนโอเพน[23]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 WainStaff, Barry (13 August 2001). "Auction of Assets of Brunei's Amadeo Offers Little Solace to Most Creditors". The Wall Street Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  2. 2.0 2.1 2.2 The Report: Brunei Darussalam 2010 (ภาษาอังกฤษ). Oxford Business Group. 2010. p. 213. ISBN 978-1-907065-29-3.
  3. 3.0 3.1 3.2 Berthelsen, John (1 September 2006). "A Stately Pleasure Dome". Asia Sentinel. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  4. Martin, Keith (24 October 2017). Strange But True Tales of Car Collecting: Drowned Bugattis, Buried Belvederes, Felonious Ferraris and Other Wild Stories of Automotive Misadventure (ภาษาอังกฤษ). Motorbooks. pp. 107. ISBN 978-0-7603-5360-8.
  5. 5.0 5.1 "The Empire Hotel & Country Club, Brunei". Royal on the Park (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 September 2024. สืบค้นเมื่อ 13 September 2024.
  6. 6.0 6.1 "'The Empire Brunei' unveiled". Darussalam Assets (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 30 October 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 September 2024. สืบค้นเมื่อ 13 September 2024.
  7. 7.0 7.1 7.2 Nicholson, Sarah (12 September 2015). "Palatial Emporer Suite at Brunei's Empire Hotel has hosted Bill Clinton and Prince Charles". www.escape.com.au. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  8. The Rough Guide to Malaysia, Singapore and Brunei (Travel Guide eBook) (ภาษาอังกฤษ). Apa Publications (UK) Limited. 1 June 2018. ISBN 978-1-78919-418-0.
  9. Far Eastern Economic Review (ภาษาอังกฤษ). Review Publishing Company Limited. 2001. p. 27.
  10. 10.0 10.1 "Brunei's Empire Hotel to open before APEC". Travel Weekly Asia. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
  11. Henderson, John (16 January 2008). "Brunei's $23,000-a-night hotel room blows minds as much as budgets". johnhendersontravel.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  12. Megan Flamer (1 March 2012). "Six-star hotel offers luxury surrounds, shame about the service". The Sydney Morning Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
  13. "Sultan of bling". The Sunday Times. 25 January 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  14. Footprint Borneo (ภาษาอังกฤษ). Footprint. 2006. pp. 259. ISBN 978-1-904777-60-1.
  15. Rajna, Lisa Niver; Rajna, George (14 July 2013). Traveling in Sin: Eleven Months, Twelve Countries, Sixty Pounds and One Proposal (ภาษาอังกฤษ). Lisa Niver Rajna. ISBN 978-0-9897119-0-6.
  16. Jenkins, Keith. "Inside the most opulent suite I've ever seen!". velvetescape.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  17. Nick Boulos (18 January 2014). "Brunei: A kingdom of gold and green". The Independent. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
  18. 18.0 18.1 18.2 Nowell, Iris (28 June 2004). Generation Deluxe: Consumerism and Philanthropy of the New Super-Rich (ภาษาอังกฤษ). Dundurn. pp. 196–197. ISBN 978-1-55002-972-7.
  19. Scher, Brent (22 May 2015). "The Clintons and the Sultan of Brunei Have a History". The Washington Free Beacon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  20. Gilmore, Mike (28 February 2014). Levels of Power: The Diplomat (ภาษาอังกฤษ). AuthorHouse. p. 176. ISBN 978-1-4918-6658-0.
  21. "Meeting focuses on climate change, biodiversity". Borneo Bulletin. 30 May 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
  22. "Brunei outlines strategies and activities". Borneo Bulletin. 6 August 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
  23. "Luxury Golf Escapes at Brunei's Luxurious Empire Hotel & Country Club". Luxury Travel Magazine. 21 August 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]