เดอะเอ็มไพร์บรูไน
เดอะเอ็มไพร์บรูไน | |
---|---|
![]() เดอะเอ็มไพร์บรูไนในปี ค.ศ. 2023 | |
![]() | |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | เปิดบริการ |
ประเภท | โรงแรมหรู |
ที่ตั้ง | กำปงเจรูดง, บีจี3122, ประเทศบรูไน |
พิกัด | 4°58′6″N 114°51′13″E / 4.96833°N 114.85361°E |
เริ่มสร้าง | 1994 |
แล้วเสร็จ | 2000 |
เปิดใช้งาน | 16 ตุลาคม 2000 |
ค่าก่อสร้าง | $1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ |
เจ้าของ | สำนักงานการลงทุนบรูไน |
พื้นที่ชั้นล่าง | 180 เฮกตาร์ (440 เอเคอร์) |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
บริษัทออกแบบ | แม็คเคอร์เรน ลินช์ |
ผู้ออกแบบผู้อื่น | แจ็ค นิคลอส |
ข้อมูลอื่น | |
จำนวนห้อง | 532 ห้อง |
เว็บไซต์ | |
theempirebrunei | |
อ้างอิง | |
[1][2][3] |
เดอะเอ็มไพร์บรูไน (อังกฤษ: The Empire Brunei) เป็นโรงแรมหรูหราที่ตั้งอยู่ในกัมปงเจรูดง ใกล้กับเมืองหลวงบันดาร์เซอรีเบอกาวัน ในเขตบรูไน-มัวราของประเทศบรูไน[4] เดิมทีได้รับเงินทุนจากเจ้าชายเจอฟรี โบลเกียห์ ซึ่งสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2000 โรงแรมประสบปัญหาทางการเงินซึ่งส่งผลให้รัฐบาลเข้าลงทุนและโอนกรรมสิทธิ์[5] โรงแรมเปิดตัวอีกครั้งในปี ค.ศ. 2019 พร้อมกับการปรับปรุงห้องพักใหม่[6] โดยเสนอห้องพักหลากหลายประเภท รวมถึง "เอ็มเพอร์เรอสูท"[7] โรงแรมนี้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงมีสนามกอล์ฟ และเป็นเจ้าภาพจัดงานอาเซียนหลากหลายงาน
ประวัติ
[แก้]ในช่วงทศวรรษ 1990 เจ้าชายเจอฟรี โบลเกียห์ พระราชทานทุนสนับสนุนการก่อสร้างโรงแรมมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] วิกฤตทางการเงินของทรัพยากรภายในรัฐทำให้รัฐบาลต้องลงทุนในสิ่งที่เดิมตั้งใจให้เป็นวิสาหกิจเอกชน[8] การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1994 และใช้ระยะเวลานานถึง 6 ปี โดยมีสถาปนิกและนักออกแบบ 220 คนจากบริษัทแม็คเคอร์เรน ลินช์จากประเทศออสเตรเลียเข้าร่วมสร้าง[3] เดิมทีเป็นของบริษัทอาเมเดโอเดเวลอปเมนต์[9] ซึ่งพระองค์เองทรงเป็นผู้นำ[1] ต่อมาถูกโอนกรรมสิทธิ์ไปยังสำนักงานการลงทุนบรูไนหลังจากการปืดกิจการของบริษัทในปี ค.ศ. 1998[1]
โรงแรมแห่งนี้เดิมรู้จักกันในนามว่า โรงแรมเจรูดงพาร์ค[10] โรงแรมเอ็มไพร์และคันทรีคลับได้รับการพัฒนาในช่วงเวลาหกปีด้วยความร่วมมือของนักออกแบบ นักเทคโนโลยี และช่างฝีมือประมาณ 300 คน พร้อมกับเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2000[5] โรงแรมมีกำหนดเปิดตัวก่อนการประชุมสุดยอดเอเปคของบรูไนดารุสซาลาม 2000 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพื้นที่โรงแรมในบันดาร์เซอรีเบอกาวัน[10]
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2019 โรงแรมแห่งนี้ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น เดอะเอ็มไพร์บรูไน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 19 ปี การเปลี่ยนชื่อนี้เกิดจากการบริหารโดยแอนด์สมิท (& SMITH) ซึ่งยังคงใช้ชื่อเดิม "เดอะเอ็มไพร์" และเพิ่มคำว่า "บรูไน" เพื่อเน้นย้ำถึงสถานที่ตั้ง ตราเพิ่มใหม่นี้ใช้ดอกไม้ประจำชาติ กล่าวคือ ดอกส้านชะวา ล้อมรอบด้วยดอกลิลลี่ และใช้โทนสีทองและสีน้ำเงินอมเขียวเพื่อเป็นตัวแทนของท้องทะเลและป่าไม้[6]
การออกแบบและตกแต่ง
[แก้]โรงแรมตั้งอยู่บนพื้นที่ริมชายหาดขนาด 180 เฮกตาร์ (445 เอเคอร์) สามารถมองเห็นทะเลจีนใต้ได้[11] โรงแรมมีทั้งห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุม[2] โรงแรมถือเป็นโรงแรมระดับ "หกดาว"[12]
สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ อาทิ สนามกอล์ฟ 18 หลุมที่ออกแบบโดยแจ็ค นิคลอส[13][14] สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาอื่น ๆ รวมถึงชายหาดส่วนตัวสองแห่ง[15] ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์สามจอ[2] "เอ็มเพอเรอร์สูท" ซึ่งเป็นห้องชุดที่แพงที่สุดในโรงแรม[7] มีพื้นที่ 665 หรือ 675 ตารางเมตร (7,160 หรือ 7,270 ตารางฟุต)[16][3] ของชั้นที่เจ็ด[17] และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น พื้นที่รับประทานอาหารส่วนตัว สระว่ายน้ำ เปียโนแกรนด์ ซาวน่า จาคุซซี่ ลิฟต์ส่วนตัว และโรงภาพยนตร์[18] รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย อาทิ กระจกกันกระสุน[18] ราคามีตั้งแต่ 16,600 ถึง 23,000 เหรียญสหรัฐต่อคืน[19][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] ห้องชุดนี้มักสงวนไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติเท่านั้น[18] แขกคนแรกคือประธานาธิบดี บิล คลินตัน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งพำนักในระหว่างการประชุมเอเปค ที่บรูไนดารุสซาลาม ค.ศ. 2000 อดีตแขกรับเชิญคนอื่น ๆ อย่างเจ้าชายชาร์ลส์แห่งสหราชอาณาจักรในขณะนั้น[7]
กิจกรรม
[แก้]การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 25 จัดขึ้นที่โรงแรมเอ็มไพร์เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2015 ในห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรม[20]
กระทรวงวัฒนธรรม เยาวชน และกีฬาได้จัดการประชุมประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนที่โรงแรมตั้งแต่วันที่ 28 ถึง 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2024[21] ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2024 โรงแรมได้จัดการประชุมกรอบการประชุมอาเซียนว่าด้วยเรื่องข้าราชการพลเรือน (ACCSM)[22]
สนามกอล์ฟของโรงแรมได้จัดการแข่งขันบรูไนโอเพน[23]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 WainStaff, Barry (13 August 2001). "Auction of Assets of Brunei's Amadeo Offers Little Solace to Most Creditors". The Wall Street Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 The Report: Brunei Darussalam 2010 (ภาษาอังกฤษ). Oxford Business Group. 2010. p. 213. ISBN 978-1-907065-29-3.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 Berthelsen, John (1 September 2006). "A Stately Pleasure Dome". Asia Sentinel. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ Martin, Keith (24 October 2017). Strange But True Tales of Car Collecting: Drowned Bugattis, Buried Belvederes, Felonious Ferraris and Other Wild Stories of Automotive Misadventure (ภาษาอังกฤษ). Motorbooks. pp. 107. ISBN 978-0-7603-5360-8.
- ↑ 5.0 5.1 "The Empire Hotel & Country Club, Brunei". Royal on the Park (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 September 2024. สืบค้นเมื่อ 13 September 2024.
- ↑ 6.0 6.1 "'The Empire Brunei' unveiled". Darussalam Assets (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 30 October 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 September 2024. สืบค้นเมื่อ 13 September 2024.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 Nicholson, Sarah (12 September 2015). "Palatial Emporer Suite at Brunei's Empire Hotel has hosted Bill Clinton and Prince Charles". www.escape.com.au. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ The Rough Guide to Malaysia, Singapore and Brunei (Travel Guide eBook) (ภาษาอังกฤษ). Apa Publications (UK) Limited. 1 June 2018. ISBN 978-1-78919-418-0.
- ↑ Far Eastern Economic Review (ภาษาอังกฤษ). Review Publishing Company Limited. 2001. p. 27.
- ↑ 10.0 10.1 "Brunei's Empire Hotel to open before APEC". Travel Weekly Asia. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
- ↑ Henderson, John (16 January 2008). "Brunei's $23,000-a-night hotel room blows minds as much as budgets". johnhendersontravel.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ Megan Flamer (1 March 2012). "Six-star hotel offers luxury surrounds, shame about the service". The Sydney Morning Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
- ↑ "Sultan of bling". The Sunday Times. 25 January 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ Footprint Borneo (ภาษาอังกฤษ). Footprint. 2006. pp. 259. ISBN 978-1-904777-60-1.
- ↑ Rajna, Lisa Niver; Rajna, George (14 July 2013). Traveling in Sin: Eleven Months, Twelve Countries, Sixty Pounds and One Proposal (ภาษาอังกฤษ). Lisa Niver Rajna. ISBN 978-0-9897119-0-6.
- ↑ Jenkins, Keith. "Inside the most opulent suite I've ever seen!". velvetescape.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ Nick Boulos (18 January 2014). "Brunei: A kingdom of gold and green". The Independent. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
- ↑ 18.0 18.1 18.2 Nowell, Iris (28 June 2004). Generation Deluxe: Consumerism and Philanthropy of the New Super-Rich (ภาษาอังกฤษ). Dundurn. pp. 196–197. ISBN 978-1-55002-972-7.
- ↑ Scher, Brent (22 May 2015). "The Clintons and the Sultan of Brunei Have a History". The Washington Free Beacon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ Gilmore, Mike (28 February 2014). Levels of Power: The Diplomat (ภาษาอังกฤษ). AuthorHouse. p. 176. ISBN 978-1-4918-6658-0.
- ↑ "Meeting focuses on climate change, biodiversity". Borneo Bulletin. 30 May 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
- ↑ "Brunei outlines strategies and activities". Borneo Bulletin. 6 August 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.
- ↑ "Luxury Golf Escapes at Brunei's Luxurious Empire Hotel & Country Club". Luxury Travel Magazine. 21 August 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2024. สืบค้นเมื่อ 25 September 2024.