ข้ามไปเนื้อหา

เซ็นทรัล พระราม 9

พิกัด: 13°45′30″N 100°33′58″E / 13.758357°N 100.566093°E / 13.758357; 100.566093
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เซ็นทรัล พระราม 9
แผนที่
ที่ตั้งแขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร[1]
พิกัด13°45′30″N 100°33′58″E / 13.758357°N 100.566093°E / 13.758357; 100.566093
ที่อยู่9/9 ถนนพระราม 9
เปิดให้บริการ14 ธันวาคม 2554 (2554-12-14)[2]
ผู้พัฒนาเซ็นทรัลพัฒนา
ผู้บริหารงานโอฬาร วัยอุดมวุฒิ[1]
เจ้าของเซ็นทรัลพัฒนา
จำนวนร้านค้า184[3]
จำนวนผู้เช่า7[4]
พื้นที่ชั้นขายปลีก84,697 ตารางเมตร (911,670 ตารางฟุต)[3]
จำนวนชั้น7 ชั้น, 2 ใต้ดิน[5]
ที่จอดรถ2,400 คัน[6]
เว็บไซต์www.centralrama9.com

เซ็นทรัล พระราม 9 (อังกฤษ: Central Rama 9; ชื่อเดิม เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9) เป็นศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานโดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ตรงข้ามฟอร์จูนทาวน์ ติดทางแยกพระราม 9 ในพื้นที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร บนที่ดินของโครงการเซ็นทรัลแกรนด์ ของถนนพระราม 9 โดยถือเป็นโครงการระยะที่สองที่จะเป็นจุดรวมของอาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า, โรงแรม, อาคารชุด และจะพัฒนาต่อไปเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจในอนาคต

ประวัติ

[แก้]

ในอดีตเซ็นทรัล พระราม 9 ถือเป็นโครงการรวมระหว่างพันธมิตร และบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) โดยเซ็นทรัลพัฒนาถือหุ้นของโครงการอยู่ร้อยละ 60 จากทั้งหมด แต่เนื่องจากหาข้อสรุปในการสร้างโรงแรมและโรงมหรสพในพื้นที่ของเซ็นทรัลพลาซาไม่ได้ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) จึงใช้พื้นที่ฝั่งที่ติดกับถนนรัชดาภิเษกในการก่อสร้างโครงการขึ้นมา โดยเริ่มต้นการก่อสร้างเมื่อปี 2551 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 3 ปี และหลังจากนั้นเซ็นทรัลพัฒนาจึงดำเนินการเช่าอาคารทั้งหมดจากแกรนด์ คาแนล แลนด์ มาดำเนินการในกรอบระยะเวลา 30 ปี และสามารถต่ออายุเพิ่มได้หลังจากหมดสัญญาอีก 10 ปี

จากนั้นในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด ได้ประกาศทำสัญญากับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในการเปิดทางเชื่อมต่อระหว่างชั้น B กับชั้นร้านค้าของสถานีพระราม 9 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเอื้อการสัญจรของจำนวนผู้โดยสารของทั้งสองโครงการ คือผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครก็สามารถเข้าสู่ตัวศูนย์การค้าได้โดยตรง และผู้ที่อยู่ในศูนย์การค้าก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้ามหานครได้เช่นกัน เป็นการสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนเน้นใช้บริการระบบขนส่งมวลชนเป็นหลักแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว และนับเป็นอาคารอสังหาริมทรัพย์จากภาคเอกชนหลังแรกที่สามารถเชื่อมต่อการสัญจรกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เป็นโครงการใต้ดินได้สำเร็จ และก่อให้เกิดการเชื่อมต่อโครงการกับโครงการอื่น ๆ ในเวลาต่อมา

แต่เดิมเซ็นทรัล พระราม 9 มีกำหนดเปิดทำการในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 แต่เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดเหตุการณ์อุทกภัยในเขตกรุงเทพมหานคร จึงเลื่อนการเปิดศูนย์การค้าออกไปเป็นวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งช่วงดังกล่าวการก่อสร้างและตกแต่งศูนย์การค้าก็ถูกหยุดชะงักลง ด้วยสาเหตุว่าผู้รับเหมาไม่สามารถลำเลียงวัสดุในการก่อสร้างเข้ามาที่โครงการได้ จนกระทั่งเหตุการณ์คลี่คลายลงในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ผู้รับเหมาจึงได้เริ่มงานก่อสร้างและเก็บงานภายในต่อจนกระทั่งวันเปิดให้บริการ ภาพรวมงานการก่อสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จดี ทำให้มีเสียงติเตียนจากประชาชนในช่วงเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องของสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นและกลิ่นสีซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้บริการ แม้มีเสียงติมากมาย แต่ตัวศูนย์การค้ากลับได้รับเสียงตอบรับจากภาคประชาชนที่สูงมาก มีผู้ใช้บริการหนาแน่นตั้งแต่เปิดให้บริการวันแรกจนถึงปัจจุบัน

ในช่วงแรกเปิดทำการ เซ็นทรัล พระราม 9 ถือเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาแรกในกรุงเทพมหานครที่ใช้ชื่อศูนย์การค้าว่า เซ็นทรัลพลาซา แต่ด้านในไม่มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นห้างสรรพสินค้าหลัก แต่มีห้างสรรพสินค้าโรบินสันเป็นห้างสรรพสินค้าหลักแทน ในลักษณะเดียวกันกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาต่างจังหวัดหรือตัวแบบเซ็นทรัลทาวน์ เนื่องจากสาขาแห่งนี้เป็นการย้ายสำนักงานถาวรของโรบินสันซึ่งแต่เดิมตั้งอยู่ติดทางแยกเทียมร่วมมิตร ห่างจากเซ็นทรัล พระราม 9 ออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ด้วยสัญญาเช่าอาคารและที่ดินได้สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2556 เซ็นทรัลพัฒนาและเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จึงตกลงที่จะย้ายห้างสรรพสินค้าโรบินสันรวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ของเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ทั้งหมด คือบีทูเอส ท็อปส์ ออฟฟิศเมท ซูเปอร์สปอร์ต และเพาเวอร์บาย มาเปิดสาขาทดแทนที่เซ็นทรัล พระราม 9 ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในพ.ศ. 2567 เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ได้เริ่มแผนการปรับปรุงร้านค้าบางส่วนเพื่อให้เหมาะสมกับตลาดลูกค้าที่มาใช้บริการในปัจจุบัน โดยเริ่มจากการปรับปรุงและขยายในส่วนของท็อปส์ให้กลายเป็น ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ โดยใช้พื้นที่เดิมของออฟฟิศเมทในการขยายสาขาทั้งหมด ก่อนดำเนินการปรับปรุงห้างสรรพสินค้าให้กลายเป็น "ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล" ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2568

ภาพรวม

[แก้]

ตัวอาคารศูนย์การค้าเป็นแบบตอนเดียวความสูง 10 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และบริเวณทิศใต้ (มุ่งหน้าไปอโศก) มีอาคารสำนักงานเซ็นทรัล พระราม 9 ออฟฟิเซส ความสูง 9 ชั้นต่อขึ้นไปอีก โดย 5 ชั้นแรกเปิดให้บริการเป็นรีเทลทาวเวอร์ แบบเดียวกับอาคารเซ็นทรัล ลาดพร้าว ออฟฟิเซส ประกอบด้วยโซนลิตเติล แคมปัส 2 ชั้น สถาบันความงาม 3 ชั้น และส่วนสำนักงานย่อยของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และส่วนงานอสังหาริมทรัพย์โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ 4 ชั้น

ร้านค้าหลัก

[แก้]

ในบทความนี้จะระบุเฉพาะร้านค้าภายในตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 9 เท่านั้น สำหรับพื้นที่อื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงในกลุ่มโครงการเดียวกัน ดูที่ เซ็นทรัลแกรนด์

  • ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล (ปรับปรุงจากห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซึ่งย้ายมาจากสาขารัชดาภิเษก ใกล้แยกเทียมร่วมมิตร)
    • ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์
  • พาวเวอร์บาย
  • ซูเปอร์สปอร์ต
  • บีทูเอส ธิงค์สเปซ
  • ศูนย์อาหารฟู้ดพาทิโอ
  • สถานออกกำลังกายฟิตเนส เฟิร์สท์
  • สวนสนุกจอยลิเดย์
  • สวนสนุกฮาร์เบอร์แลนด์
  • โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า จำนวน 11 โรง โดยมีโรงภาพยนตร์ซิกมา ซีเนสเตเดียม บาย ซีทู เป็นโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่สุดในสาขา (เดิมใช้ชื่อว่า โรงภาพยนตร์ไทยประกันชีวิต คริสตัล ซีเนมา เป็นโรงภาพยนตร์ระบบดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มเอสเอฟ ซีเนม่า และใช้ระบบฉาย RealD 3D เป็นแห่งที่สองของกลุ่มเอสเอฟ ซีเนม่า) และโรงภาพยนตร์เอ็นที เฟิร์สคลาส รูปแบบละ 1 โรง
    • ร้านกาแฟ CINECAFE สาขาแรกในโรงภาพยนตร์แบรนด์เอสเอฟเอ็กซ์ (เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567)

โดยมีทางเชื่อมไปยัง เดอะชอปเปส แอท จี ทาวเวอร์ ที่ชั้น B, G, 2 และทางเชื่อมไปยัง สถานีพระราม 9 ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคลที่ชั้น B นับเป็นอาคารอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนหลังแรกที่สามารถเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินได้

การคมนาคม

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 Annual Report 2011, p. 254.
  2. Central Pattana. "Central Plaza Grand Rama 9". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2012. สืบค้นเมื่อ 24 May 2012.
  3. 3.0 3.1 Annual Report 2011, p. 57.
  4. Annual Report 2011, p. 51, 57.
  5. Form 56-1 2011, p. 46.
  6. Annual Report 2011, p. 51.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]