เซอริวาสแตติน
![]() | |
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
ช่องทางการรับยา | การรับประทาน |
รหัส ATC | |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย |
|
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 2–3 ชั่วโมง |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS | |
PubChem CID | |
IUPHAR/BPS | |
DrugBank | |
ChemSpider | |
UNII | |
KEGG | |
ChEBI | |
ChEMBL | |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C26H34FNO5 |
มวลต่อโมล | 459.55 g/mol g·mol−1 |
แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
| |
| |
![]() ![]() | |
![]() |
เซอริวาสแตติน (อังกฤษ: Cerivastatin) (ชื่อการค้า: Baycol, Lipobay) เป็นยาลดระดับไขมันในกระแสเลือดกลุ่มสแตตินที่ได้จากการสังเคราะห์ โดยมีข้อบ่งใช้เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและเพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันเซอริวาสสแตตินถูกถือลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาโดยบริษัทยาที่มีชื่อ เบเย่อร์ เอ.จี. (Bayer A.G.) ตั้งแต่ช่วงท้ายทศวรรษ 1990 โดยในตลาดของยาลดไขมันในกระแสเลือดชนิดใหม่ในขณะนั้น เซอริวาสแตตินของเบเยอร์นั้นถือเป็นคู่แข่งสำคัญของอะโทวาสแตติน ซึ่งเป็นยากลุ่มเดียวกันจากบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในวงการตลาดยา ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 เบเย่อร์ เอ.จี. ได้ยกเลิกการจำหน่ายและถอนเซอริวาสแตตินออกจากตลาดยาทั่วโลกด้วยความสมัครใจ เนื่องจากพบการเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง คือ การเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อลายสลาย (fatal rhabdomyolysis)
การศึกษาและเฝ้าระวังติดตามการใช้ยาหลังการวางตลาด
[แก้]ในระหว่างการศึกษาและเฝ้าระวังติดตามการใช้ยาเซอริวาสแตตินหลังจากยาออกวางจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว (post marketing surveillance: PMS) พบรายงานผู้ป่วยจำนวน 52 รายเสียชีวิตขณะอยู่ระหว่างการใช้เซอริวาสแตติน โดยมีสาเหตุหลักมาจากกล้ามเนื้อลายสลายและไตวายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเกิดโรคกล้ามเนื้อลายสลายต่อหนึ่ง [1] โดยความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติดังกล่าวจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้ที่ใช้เซอริวาสแตตินร่วมกับยาลดไขมันในเลือดไฟเบรต โดยเฉพาะเจ็มไฟโบรซิล (Gemfibrozil; ชื่อการค้า Lopid) รวมไปถึงผู้ที่ใช้เซอริวาสแตตินในขนาดสูง (0.8 mg/day) ด้วย หลังจากพบรายงานการเกิดความผิดปกติดังกล่าว 18 เดือน บริษัทเบเย่อร์ เอ.จี. ได้พิจารณาเพิ่มข้อห้ามใช้เพิ่มเติมลงบนบรรจุภัณฑ์ของเซอริวาสแตติน โดยห้ามใช้เซอริวาสแตตินร่วมกับเจ็มไฟโบรซิล [2]
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบอุบัติการณ์การเกิดโรคกล้ามเนื้อลายสลายระหว่างเซอริวาสแตตินกับยาสแตตินชนิดอื่น พบว่า อุบัติการณ์การเกิดความผิดปกติดังกล่าวของผู้ที่ใช้เซอริวาสแตตินสูงกว่าผู้ที่ได้รับสแตตินชนิดอื่นถึง 16-80 เท่า[3] ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบผู้ป่วยที่เกิดโรคกล้ามเนื้อลายสลายที่ไม่ก่อให้เกิดการเสียชีวิต (nonfatal rhabdomyolysis) ระหว่างการใช้เซอริวาสแตตินประมาณ 385 คน ซึ่งสูงกว่าสแตตินชนิดอื่น 5-10 เท่า นอกจากนี้แล้วเซอริวาสแตตินยังสามารถเหนี่ยวนำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myopathy) ซึ่งความรุนแรงอาการดังกล่าวมีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรงกับขนาดยาที่ผู้ป่วยได้รับ แต่การเกิดอุบัติการณ์ดังกล่าวนั้นถูกเปิดเผยออกมาโดยเบเย่อร์ภายหลังที่บริษัทถูกฟ้องร้องและมีการเปิดเผยเอกสารของบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นดังกล่าวแต่ไม่เคยตีพิมพ์ชี้แจงมาก่อน [4]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Furberg CD, Pitt B. Withdrawal of cerivastatin from the world market. Curr Control Trials Cardiovasc Med 2001;2:205-207. PMID 11806796.
- ↑ Psaty BM, Furberg CD, Ray WA, Weiss NS (2004). "Potential for conflict of interest in the evaluation of suspected adverse drug reactions: use of cerivastatin and risk of rhabdomyolysis". JAMA. 292 (21): 2622–31. doi:10.1001/jama.292.21.2622. PMID 15572720.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Zeitlinger M, Müller M (2003). "[Clinico-pharmacologic explanation models of cerivastatin associated rhabdomyolysis]". Wien Med Wochenschr (ภาษาเยอรมัน). 153 (11–12): 250–4. doi:10.1046/j.1563-258X.2003.03029.x. PMID 12879633.
- ↑ Saito M, Hirata-Koizumi M, Miyake S, Hasegawa R (2005). "[Withdrawal of cerivastatin revealed a flaw of post-marketing surveillance system in the United States]". Kokuritsu Iyakuhin Shokuhin Eisei Kenkyusho Hokoku (ภาษาญี่ปุ่น) (123): 41–5. PMID 16541751.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)