เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์
เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ | |
---|---|
![]() | |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ | |
ดำรงตำแหน่ง 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2480 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 13 เมษายน พ.ศ. 2441 จังหวัดแพร่ ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 (72 ปี) ประเทศลาว |
คู่สมรส | เจ้าน้อย แสนศิริพันธุ์ (สกุลเดิม บุตรรัตน์) |
ศาสนา | พุทธ |
เจ้านายฝ่ายเหนือ |
เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ หรือ เจ้าโว้ง แสนศิริพันธุ์[1] เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของจังหวัดแพร่[2] และเป็นอดีตสมาชิกขบวนการเสรีไทย[3]
ประวัติ[แก้]
เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ เป็นบุตรชายคนเล็กของพระวิไชยราชา(เจ้าหนานขัติ แสนศิริพันธุ์) พระวิไชยราชานครแพร่ และอดีตเสนาคลังเมืองนครแพร่ สืบเชื้อสายมาจากเจ้าแสนเสมอใจ พระญาติเจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นตอง เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่19 และเจ้าคำป้อ(ธิดาพญาประเสริฐชนะสงครามราชภักดี) มีเจ้าพี่ร่วมมารดา 1 คน คือเจ้าสุคันธา ไชยประวัติ และต่างมารดาอีก 4 คน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ ท่านเป็นศิษย์เอกของภราดา ฟ.ฮีแลร์ และมีความสามารถในการพูด อ่านภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 สิริอายุรวม 72 ปี
ครอบครัว[แก้]
เจ้าวงศ์ สมรสกับเจ้าน้อย แสนศิริพันธุ์ (สกุลเดิม บุตรรัตน์) (ธิดาเจ้าน้อยจุ๋งแก้ว และแม่นายมา บุตรรัตน์) มีบุตรชาย 1 คนคือ เจ้าสุนทร แสนศิริพันธุ์ วิศวกรจากมหาวิทยาลัยชิคาโก้ ซึ่งได้รวบรวมช้างจำนวนหนึ่งข้ามไปทำป่าที่ประเทศลาว และได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น จนลาวเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงได้กลับเมืองไทย ท่านเป็นผู้จัดการโรงงานกระดาษบางประอิน
และนอกจากนี้เจ้าวงศ์ ยังมีบุตร ธิดา กับภรรยาอื่นๆอีกหลายคน ได้แก่
- นางศรีทอง อารีย์วงศ์
- นายสุทิน แสนศิริพันธุ์
- นางทิพยวรรณ สุวรรณช่าง
- นายสุเทพ แสนศิริพันธุ์
- นายสุทัศน์ แสนศิริพันธุ์
- นายสุวิทย์ แสนศิริพันธุ์ ภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย นางเฝื่อ แสนศิริพันธุ์ เชื้อสายลาว สัญชาติไทย
- นายสมคิด แสนศิริพันธุ์
- นายทวีศักดิ์ แสนศิริพันธุ์
- นายสุภาพ แสนศิริพันธุ์
- นายสุพจน์ แสนศิริพันธุ์
- นางวงศ์สวาท แสนศิริพันธุ์
- นางศริวัฒนา แสนศิริพันธุ์
- นายสุทีพ แสนศิริพันธุ์
- นางถนอมศรี แสนศิริพันธุ์
การทำงาน[แก้]
กิจการไม้สัก[แก้]
เจ้าวงศ์ เริ่มทำงานเป็นสมุหบัญชีที่ห้างอิสต์เอเชียทีค บริษัทที่ได้รับสัมปทานป่าไม้เขตภาคเหนือ เมื่อศึกษาวิธีการทำงานและบริหารงานจนชำนาญแล้วจึงได้ลาออกมาประกอบอาชีพค้าไม้สัก เป็นผู้รับเหมางานจากห้างอิสต์เอเชียทีค และห้างบอมเบย์เบอร์มา อาชีพทำสัปทานไม้ท่านทำให้มีช้างใช้ในงานถึง 100 เชือก และรถลากไม้ไม่น้อยกวา 40 คัน ทำสัปทานไม้สักทั้งในจังหวัดแพร่และจังหวัดใกล้ จนร่ำรวยมหาศาล
ต่อมาท่านได้เลิกกิจการค้าไม้สักแล้วหันมาทำธุรกิจโรงบ่มใบยาสูบและไร่ยาสูบ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จจึงได้เลิกกิจการ แล้วหันมาประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ เช่น ปลูกทุเรียน เงาะ มังคุด ซึ่งเป็นสวนผลไม้รสดีแห่งเดียวในจังหวัดแพร่
งานการเมือง[แก้]
ในปี พ.ศ. 2476 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2476 ซึ่งให้ราษฎรเลือกตัวแทนตำบลละ 1 คน จากนั้นก็ให้ตัวแทนตำบลมาเลือกกันเอง ปรากฏว่าเจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของจังหวัดแพร่[4][5][1] ขณะอายุได้ 32 ปี
กิจการสาธารณะ[แก้]
เจ้าวงศ์ มิได้แตกต่างจากบิดาของท่านในเรื่องการศาสนา ท่านได้บริจาครถยนต์ให้วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร บริจาคไม้สัก เงินทอง สร้างวัด โรงเรียน ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร อยู่อย่างสม่ำเสมอ ท่านเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาจึงสนับสนุนลูกหลานให้เรียนชั้นสูงสุดถึงมหาวิทยาลัยทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนโรงเรียนวนศาสตร์ (โรงเรียนป่าไม้) เป็นจำนวนมาก
บั้นปลายชีวิต[แก้]
เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ และครอบครัวต้องประสบชะตากรรม สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งคุ้มวิชัยราชาเพราะถูกรัฐยึด เนื่องจากมาตรการชำระภาษีในยุคนั้นจากการศึกษาวิเคราะห์หาสาเหตุที่เจ้าวงค์ต้องมีอันเป็นไปนี้ เป็นไปได้ว่า คงเป็นเพราะความสัมพันธ์แนบแน่นกับท่านปรีดี พนมยงค์ จึงทำให้ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับแกนทำขบวนการเสรีไทยคนอื่นๆ ที่ใกล้ชิดกับหัวหน้าที่ผิดเพี้ยนไปคือไม่ได้โดนฆ่าแบบนายเลียง ไชยกาล นายเตียง ศิริขันธ์ หรือนายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ ฯลฯ ชีวิตในช่วงที่เหลือของท่านค่อนข้างอับเฉา ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในประเทศลาว จนวาระสุดท้ายที่เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2513 จนมีบางคนกล่าวว่า ถ้าโดนฆ่าตายแบบคนอื่นจะดีกว่า เพราะไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน
ลำดับสาแหรก[แก้]
พงศาวลีของเจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่. ประวัติศาสตร์เมืองแพร่ 2550. แพร่ : เมืองแพร่การพิมพ์. 2550
- ↑ สถาบันพระปกเกล้า. นักการเมืองถิ่นจังหวัดแพร่ กรุงเทพ : สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า. 2555
- ↑ คุ้มวิชัยราชา[ลิงก์เสีย]
- ↑ อาร์วายทีไนน์,สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งครั้งแรก
- ↑ ประกาศสภาผู้แทนราษฎร รายนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปรเภทที่ 1