เงือกน้อยผจญภัย (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2566)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เงือกน้อยผจญภัย
ภาพประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ (ประเทศไทย)
กำกับร็อบ มาร์แชลล์
บทภาพยนตร์
สร้างจาก
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพไดออน บีบี
ตัดต่อยาตต์ สมิธ
ดนตรีประกอบอลัน เม็นเค็น
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์
วันฉาย26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (สหรัฐอเมริกา)
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (ประเทศไทย)
ความยาว135 นาที[1]
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง250–265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]
ทำเงิน569.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3][4]

เงือกน้อยผจญภัย (อังกฤษ: The Little Mermaid) เป็นภาพยนตร์แนวจินตนิมิตดนตรีของอเมริกาในปี พ.ศ. 2566 กำกับและร่วมอำนวยการสร้างโดยร็อบ มาร์แชลล์ เขียนบทภาพยนตร์โดยเดวิด มาจี ร่วมอำนวยการสร้างโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์, ลูคามาร์โพรดักชันส์ และมาร์กแพลตโพรดักชันส์ เป็นภาพยนตร์คนแสดง/ซีจีไอที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อเดียวกันของดิสนีย์ในปี พ.ศ. 2532 ซึ่งมีเนื้อเรื่องอิงมาจากเทพนิยายเรื่อง เงือกน้อย โดยฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยแฮลลี เบลีย์ในบทแอเรียล ร่วมด้วยโจนาห์ ฮาวเออร์-คิง, ฆาบิเอร์ บาร์เดม, เมลิสซา แม็กคาร์ธี, เจสสิก้า อเล็กซานเดอร์, ดาวีด ดิกส์, อควาฟินา, จาค็อบ เทร็มเบลย์, โนมา ดูเมซเวนี ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงแอเรียลที่ทำข้อตกลงกับแม่มดเออร์ซูลา เพื่อแลกเสียงของเธอกับขามนุษย์เพื่อไปหาเจ้าชายอีริค ชายที่เธอรักและช่วยชีวิตไว้จากเหตุเรืออัปปาง

แผนการนำภาพยนตร์แอนิเมชันในปี พ.ศ. 2535 เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย กลับมาสร้างใหม่รูปแบบภาพยนตร์คนแสดง ได้รับการยืนยันในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 มาร์แชลล์ได้รับการติดต่อจากดิสนีย์ให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 และนักแสดงหลักส่วนใหญ่เซ็นสัญญาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เดิมคาดว่าจะเริ่มการผลิตในลอนดอนระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 แต่เกิดความล่าช้าเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในที่สุดการถ่ายทำจึงเกิดขึ้นที่ไพน์วูดสตูดิโอส์ในอังกฤษตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ลิน-มานูเอล มิรันดาร่วมเขียนเพลงใหม่สำหรับการภาพยนตร์สร้างใหม่ในฐานะผู้แต่งเนื้อร้อง อลัน เม็นเค็นกลับมาทำหน้าที่ผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์

เงือกน้อยผจญภัย ออกฉายในสหรัฐในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดย วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ และออกฉายในประเทศไทยในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 หนึ่งวันก่อนการฉายในสหรัฐ ภาพยนตร์ได้รับความชื่นชมในด้านของนักแสดงอย่าง เบลีย์, ฮาวเออร์-คิง, แม็กคาร์ธี และ อเล็กซานเดอร์ รวมถึงฉากและการเรียบเรียงเพลงประกอบ แต่วิจารณ์ถึงงานสร้างและการออกแบบตัวละคร[5]

แม้ว่าก่อนการฉาย แฟนหลายคนของแอนิเมชันต้นฉบับจะวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของดิสนีย์ที่ให้นักแสดงผิวดำ เบลีย์ รับบทเป็น แอเรียล และรณรงค์ให้คว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งในโลกโซเชี่ยลและกระแสสังคม จนส่งผลกระทบต่อภาพยนตร์ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย[6] แต่ภาพยนตร์ก็ประสบความสำเร็จ[7] ทำเงินถึงจุดคุ้มทุน 560 ล้านเหรียญ[8] โดยทำรายได้ทั่วโลก 569 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ช่วงวันรำลึกของสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่ประสบความสำเร็จในช่วงภาพยนตร์หน้าร้อน ร่วมกับ สไปเดอร์-แมน: ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม โดยภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับที่ 9 ของปี 2023

ภาพยนตร์ยังติดอันดับภาพยนตร์ขายดีอันดับ 1 ทางระบบวีดิทัศน์ตามคำขอในสองสัปดาห์และติดอยู่ต้น ๆ ในสัปดาห์หลังจากนั้น ความนิยมดังกล่าวทำให้มีการนำกลับมาฉายซ้ำโดยเพิ่มเนื้อเพลงขณะตัวละครร้องในวันที่ 25 สิงหาคม สื่อถือให้ภาพยนตร์เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สามเรื่องของดิสนีย์ประจำปี 2023 ที่ไม่ประสบความล้มเหลวร่วมกับ เมืองอลวนธาตุอลเวง และ รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 3

เงือกน้อยผจญภัย ลงบริการสตรีมมิ่ง ดิสนีย์+ ฮอตสตาร์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2566 ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น โดยทำลายสถิติการเป็นหนึ่งในภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่มีผู้ชมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนดิสนีย์+ รองจาก เมืองอลวนธาตุอลเวง และ อิทธิฤทธิ์แม่มดตกกระป๋อง 2 และมียอดผู้ชมสูงสุดอันดับสองประจำปี อนิเมชั่นสำหรับเด็กก่อนเรียนที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ "แอเรียล" มีกำหนดออกอากาศในช่องดิสนีย์จูเนียร์ปี 2024 และภาคต่อกำลังอยู่ในกระบวนการหารือ

เนื้อเรื่อง[แก้]

เจ้าหญิงแอเรียลเป็นพระธิดาองค์สุดท้องของราชาไตรตัน กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรใต้น้ำ แอตแลนติกา เธอรู้สึกทึ่งกับโลกมนุษย์แม้จะไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากไตรตันห้ามมิให้เงือกทั้งหมดขึ้นสู่ผิวน้ำหลังจากที่แม่ของแอเรียลถูกฆ่าโดยมนุษย์ แอเรียลรวบรวมวัตถุมนุษย์โดยได้รับการสนับสนุนจากปลาเพื่อนรักของเธอ ฟลาวน์เดอร์ และสกัตเติ้ล นกกาน้ำทางเหนือ วันหนึ่ง แอเรียลพลาดการประชุม พระจันทร์ปะการัง ที่เธอควรจะเข้าร่วมกับพี่สาวทั้ง 6 ของเธอ เนื่องจากเธอไปสำรวจซากเรืออับปาง จึงถูกไตรตันต่อว่า แอเรียลนั้นมีความใฝ่ฝันที่จะได้เป็นมนุษย์เพื่อได้เรียนรู้และใช้ชีวิตเหนือผิวน้ำ คืนหนึ่ง เธอได้เห็นดอกไม้ไฟเหนือมหาสมุทร จึงว่ายโผล่พ้นน้ำเพื่อดูมันอย่างใกล้ชิด ดอกไม้ไฟนั้นมาจากเรือของอีริค เจ้าชายแห่งอาณาจักรเกาะแคริบเบียนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แอเรียลเข้าไปได้ยินอีริคบอกกับ นายกรัฐมนตรีกริมสบี้ คนรับใช้คนสนิทเกี่ยวกับความปรารถนาของเขาที่จะสำรวจน่านน้ำที่ไร้แผนที่ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในอาณาจักรของเขา

พายุโหมใส่เรือขณะเลี้ยงฉลอง แม้อีริคพยายามจะคุมเรือต้านพายุ เรือได้กระแทกกับหินขนาดใหญ่จนแตกหัก ทำให้ทุกคนต้องสละเรือ ในขณะที่ทุกคนพยายามหนีขึ้นเรือพายอยู่นั้นเอง อีริคพลาดท่าจมน้ำขณะช่วย แม็กซ์ สุนัขของเขา แอเรียลได้เข้าช่วยอีริคซึ่งหมดสติและพาเขาขึ้นฝั่ง ซึ่งเธอร้องเพลงด้วยเสียงไซเรนของเธอเพื่อฟื้นสติเขา แอเรียลรีบหนีไปเมื่อทหารรับใช้ของเจ้าชายอีริครีบเข้ามาช่วยเหลือ นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงมนุษย์ ด้วยความใฝ่ฝันได้บรรจบกับหัวใจที่โหยหาในอีริค หลังจากอีริคฟื้น ราชินีเซลีน่า แม่บุญธรรมของเขา ภรรยาของ กษัตริย์แม็กซิมิริอุสแห่งอาณาจักรเกาะแคริบเบียน ก็สั่งห้ามไม่ให้เขาออกเรืออีก เซบาสเตียนพยายามโน้มน้าวใจให้แอเรียลเลิกคิดเรื่องการเป็นมนุษย์ แต่เธอกลับไม่สนใจ

เหล่าพี่สาวของเธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมคลั่งรักของแอเรียล เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ไตรตันจึงตั้งคำถามกับเซบาสเตียน ปูที่ปรึกษาคนสนิทของเขา จนได้รู้ว่าเธอช่วยชีวิตมนุษย์คนหนึ่งไว้ ไทรทันเดินทางไปยังถ้ำของแอเรียล เมื่อเธอปฏิเสธที่จะสาบานว่าจะไม่ขึ้นไปบนผิวน้ำอีก ไตรตันจึงทำลายของสะสมเกี่ยวกับมนุษย์ของเธอ หวังทำให้เธออยู่ในคำสั่ง แต่หลังจากที่ไตรตันจากไป ก็มีปลาไหลมอเรย์คู่หนึ่งชื่อ ฟลอตแซม กับเจตแซม เข้ามาหาแอเรียล ซึ่งแสดงภาพแม่มดแห่งท้องทะเล เออร์ซูล่า น้องสาวที่ห่างเหินของไตรตัน และอาของแอเรียล ที่ถูกเนรเทศจากแอตแลนติกา เนื่องจากนางเป็นผู้เปิดศึกครั้งใหญ่ระหว่างเงือกกับมนุษย์ เพราะคิดว่า การที่มนุษย์นั้นจับสัตว์ทะเลไปกินเป็นสิ่งที่โหดร้ายสำหรับชาวมหาสมุทร ซึ่งทำให้แม่ของแอเรียลเสียชีวิตด้วยฝีมือมนุษย์ในการต่อสู้ เมื่อ 15 ปีก่อน เออร์ซูล่ายื่นข้อเสนอที่จะช่วยแอเรียล โดยที่แอเรียลไม่รู้ว่า เธอถูกจับตามองมาตลอด จากเออร์ซูลาผู้แค้นใจในตัวพี่ชายที่ได้สิทธิ์ครอบครองทุกอย่างโดยที่นางไม่ได้อะไรทั้งสิ้น

แอเรียลตามปลาไหลคู่นั้นไปยังถ้ำของเออร์ซูล่า ซึ่งนางเสนอข้อตกลงว่าเธอจะแปลงร่างแอเรียลให้เป็นมนุษย์เป็นเวลาสามวัน ในระหว่างนั้นแอเรียลจะต้องได้รับ "จุมพิตจากรักแท้" จากอีริคเพื่อคงความเป็นมนุษย์ไว้อย่างถาวร หากทั้งสองมิได้จุมพิตกัน เธอจะเปลี่ยนกลับเป็นนางเงือกตามเดิมและต้องตกอยู่ใต้อำนาจของเออร์ซูล่า เพื่อให้กลายเป็นมนุษย์ แอเรียลต้องยอมสละหาง ความสามารถในการหายใจใต้น้ำ และเสียงไซเรนของเธอ ซึ่งเออร์ซูลาจะเก็บเสียงนั้นไว้ในเปลือกหอยโข่ง แอเรียลยอมรับข้อตกลงและได้รับขามนุษย์ เธอถูกพาตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยมีฟลาวน์เดอร์และเซบาสเตียนตามมาดูแล โดยได้รับการช่วยเหลือจากชาวประมง ผู้ซึ่งพาเธอไปยังอาณาจักรบนเกาะและปราสาทของอีริค อีริคซึ่งตามหาผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาอย่างแข็งขันโดยความไม่พอใจของราชินีเซลิน่า รีบไปพบแอเรียลเมื่อเขาได้ยินการมาถึงของเธอ แอเรียลรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบ แต่การไม่มีเสียงของเธอทำให้อีริคเบือนหน้าหนีทันที แต่ต่อมาในเย็นวันนั้น แอเรียล สำรวจปราสาทและได้พบของสะสมของเจ้าชายเอริคที่เขาสะสมจากการเดินทางล่องเรือ อีริคเข้ามาพบและทั้งคู่สามารถเข้าใจในความต้องการของตัวเอง จึงได้ใช้เวลาร่วมกันในการดูของสะสมและเดินทางสำรวจดินแดน โดยมีกริมสบี้ มองดูทั้งคู่ด้วยความสุข

วันต่อมา อีริคพาแอเรียลไปทั่วอาณาจักรพาชมชีวิตผู้คนในพื้นที่ เซบาสเตียนที่ติดตามแอเรียลบนบก ได้ตระหนักว่าเออร์ซูลาใช้คาถาหลอกลวง ทำให้แอเรียลลืมไปว่าเธอต้องจูบอีริค เซบาสเตียน, สกัตเติ้ล และฟลาวน์เดอร์พยายามทำให้ทั้งคู่จุมพิตกัน ซึ่งเกือบจะประสบความสำเร็จ แต่ถูกขัดขวางโดยปลาไหลของเออร์ซูลาที่ตามจับตามอง อีริคที่มั่นใจว่าตัวเองตกหลุมรักแอเรียลด้วยคำแนะนำของกริมสบี้ และตั้งใจจะสารภาพรักกับเธอ แต่ เออร์ซูล่าโกรธมากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด มองว่าแผนกำลังจะล้มเหลว จึงแปลงร่างตัวเองเป็นหญิงสาวสวยชื่อวาเนสซ่า และใช้เสียงเพลงของแอเรียลเข้าสะกดจิตอีริค เช้าวันรุ่งขึ้น แอเรียลและเพื่อน ๆ ของเธอพบว่า อีริคจะประกาศหมั้นกับ วาเนสซ่า ในตอนเย็น แอเรียลเสียใจจนหนีไปอย่างสิ้นหวัง สกัตเติ้ล เซบาสเตียน และฟลาวน์เดอร์ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของวาเนสซ่า และรีบไปบอกให้แอเรียลทราบ เธอจึงรีบไปงานหมั้นและเผชิญหน้ากับวาเนสซ่า ทำลายเปลือกหอยโข่งที่คอของเธอ เสียงของแอเรียลกลับมาหาเธอและความลุ่มหลงในตัวอีริคก็พังทลายลง ท่ามกลางช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยที่จะได้จุมพิตกัน พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไป และแอเรียลก็กลับคืนร่างเป็นนางเงือก ทุกคนตื่นตกใจ แต่อีริคกลับกอดเธอไว้แน่นและเผชิญหน้ากับเออร์ซูล่าที่กลับคืนสู่ร่างเดิม ก่อนจะพาแอเรียลดำดิ่งลงสู่มหาสมุทร

เออร์ซูล่าเผชิญหน้ากับไตรตันที่ทราบเรื่องราวและตามมาช่วยแอเรียลโดยเข้าโจมตีนาง โดยเออร์ซูล่าได้เผยให้เห็นว่าข้อตกลงที่เธอทำกับแอเรียลนั้นไม่มีทางถูกทำลายได้ โดยไตรตันต้องยอมแลกตรีศูลตัวเองเพื่อแลกกับอิสรภาพของแอเรียล เออร์ซูล่าใช้เวทมนตร์สาปไตรตันให้เป็นฝุ่นผง จากนั้นก็สวมมงกุฎยืนยันสิทธิ์ครอบครองทะเล เออร์ซูล่าอ้างสิทธิ์ในตรีศูลของไตรตันและพยายามจะครอบครองแอเรียลเป็นพวกของตน แต่อีริคนั้นได้ดำน้ำตามลงมาช่วย ในระยะประชิดเออร์ซูล่าถูกแอเรียลใช้ตรีศูลฆ่าปลาไหลคู่ของนาง ซึ่งนางรักสองปลาไหลคู่นี้มาก เออร์ซูล่าจึงโกรธจัดใช้ตรีศูลขยายขนาดให้ใหญ่มหึมาและเรียกพายุฝนฟ้าคะนองมาคุกคามแอเรียลและอีริค ในขณะที่ทั้งสองกำลังตกอยู่ในอันตรายนั้นเอง แอเรียลดึงตัวเองขึ้นไปบนเรือที่โผล่ขึ้นมา และหันหางเสือในเวลาที่เหมาะสมจนแทงเข้าที่ท้องของเออร์ซูลาจนสิ้นชีวิต แล้วจมลงใต้สมุทร

เมื่อเออร์ซูลาเสียชีวิต ไตรตันได้ฟื้นคืนเป็นเงือกเช่นเดิม เขาและแอเรียลรับรู้ถึงการเสียสละของอีกฝ่ายเพื่อกันและกัน แต่ไตรตันยืนกรานที่จะให้แอเรียลกลับไปพร้อมกับเขา อีริคสามารถกลับขึ้นมาบนฝั่ง และพยายามจะตามลงไปหาแอเรียล ซึ่งเซลิน่ายอมรับว่าความรักของอีริคและแอเรียลเป็นเรื่องจริง แต่บอกเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ อีริคยอมรับด้วยความใจสลาย แต่ในที่สุดไตรตันก็สามารถยอมรับความจริงแม้ว่าแอเรียลจะไม่ได้กลับมาที่บ้านตามที่เขาต้องการ แต่เธอก็ไม่มีความสุขหากไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับอีริค ชายที่เธอรัก ตามคำแนะนำของเซบาสเตียน ไตรตันใช้ตรีศูลเสกแอเรียลให้เป็นมนุษย์อย่างถาวร แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับพระธิดา แต่เขาจะคอยอยู่ดูแลเธอเสมอ แอเรียลได้พบกับอีริคอีกครั้ง ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางล่องสมุทรที่ไม่เคยไปด้วยกัน โดยได้รับพรจากไตรตันและราชินีเซลิน่า และการสนับสนุนจากผู้คนจากโลกของพวกเขาทั้งสอง ไตรตันได้เปิดทางให้มนุษย์และชาวเงือกสามัคคีกัน เป็นจุดเริ่มต้นของความสงบสุขและความสัมพันธ์อันเป็นตำนานความรักระหว่างมนุษย์หนุ่มและเงือกสาว

นักแสดง[แก้]

ผู้แสดง[แก้]

ตัวละคร นักแสดง ผู้ให้เสียงไทย
แอเรียล (Ariel) แฮลลี เบลีย์ (Halle Bailey)[9] 'โบกี้ไลอ้อน' พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ
เจ้าชายอีริค (Prince Eric) โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง (Jonah Hauer-King)[10] ธนทัต ชัยอรรถ
เออร์ซูลา (Ursula) เมลิสซา แม็กคาร์ธี (Melissa McCarthy) [11] นนทิยา จิวบางป่า
วาเนสซ่า (Vanessa) เจสสิก้า อเล็กซานเดอร์ (Jessica Alexander) ทัศน์เพลิน ตันเสรีสกุลภัช (พูด),

'โบกี้ไลอ้อน' พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ (ร้อง)

ราชาไตรตัน (King Triton) ฆาบิเอร์ บาร์เดม (Javier Bardem)[12][13] เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง
ราชินีเซลินา (Queen Selina) โนมา ดูเมซเวนี (Noma Dumezweni) โสภิตา รังสิโยทัย
มาล่า (Mala) คาโรรินา คอนเชท (Kalorina Conchet) กชนิภา รัชเวทย์
อินดิรา (Indira) ซีโมน แอชลีย์ (Simone Ashley) มนชิสา มงคลนารา
แคสเปีย (Caspia) นาธาลี ซอร์เรลล์ (Nathalie Sorrell) ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์
ทามิกา (Tamika) ซิเอนนา คิง (Sienna King) นัทนลัลน์ กิติทวีเกียรติ
คาริน่า (Karina) คาชสา โมฮามมาร์ (Kajsa Mohammar) 'ว่าน วันวาน' รัชยาวีร์ วีระสุทธิมาศ
เพอร์ลา (Perla) ลอเรนา แอนเดรีย (Lorena Andrea) บุญยพัชร อุ่นจิตติกุล
นายกรัฐมนตรีกริมสบี (Sir Grimsby) อาร์ต มาลิก (Art Malic) สิทธิสม มุทธานุกูลวงศ์

ผู้ให้เสียง[แก้]

ตัวละคร ผู้ให้เสียง ผู้ให้เสียงไทย
เซบาสเตียน (Sebastian) ดาวีด ดีกส์ (Daveed Diggs)[14] สรรเสริญ โภคสมบัติ
ฟลาวน์เดอร์ (Flounder) จาค็อบ เท็มเบลย์ (Jacob Temblay)[15] ปุณญพัฒน์ อภิกเศวต
สกัตเติ้ล (Scuttle) 'อควาฟินา' นอรา ลุม (Awkwafina)[11] พิมพิดา พิทักษ์สงคราม

อ้างอิง[แก้]

  1. "The Little Mermaid (PG)". British Board of Film Classification. 2023-05-10. สืบค้นเมื่อ 2023-05-10.
  2. Rubin, Rebecca (May 24, 2023). "Box Office: 'The Little Mermaid' Swimming to $120 Million-Plus Over Memorial Day Weekend". Variety. สืบค้นเมื่อ May 24, 2023.
  3. "The Little Mermaid (2023)". Box Office Mojo. IMDb. สืบค้นเมื่อ September 18, 2023.
  4. "The Little Mermaid (2023)". The Numbers. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 27, 2023. สืบค้นเมื่อ September 18, 2023.
  5. Bryant, Zoe Rose (2023-05-22). ""THE LITTLE MERMAID" - Review". Next Best Picture (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  6. "'The Little Mermaid' Tanks In China and South Korea Box Office Amid Racist Backlash | THR News". Yahoo Life (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). June 6, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 8, 2023. สืบค้นเมื่อ June 8, 2023.
  7. "'The Little Mermaid' Budget Breakdown: How Successful Is the Live-Action Remake?". Collider (ภาษาอังกฤษ). 2023-06-26.
  8. https:eweb.com/the-little-mermaid-box-office-success/#:~:text=With%20The%20Little%20Mermaid%20finally,domestically%20and%20%24569%20million%20worldwide.
  9. Kroll, Justin (July 3, 2019). "Disney's Live-Action 'Little Mermaid' Casts Halle Bailey as Ariel". Variety. สืบค้นเมื่อ July 3, 2019.
  10. "'Little Mermaid' Live-Action Remake Finds Its Prince Eric in Jonah Hauer-King". The Hollywood Reporter. November 12, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2019. สืบค้นเมื่อ November 13, 2019.
  11. 11.0 11.1 Geisinger, Gabriella (July 2, 2019). "The Little Mermaid cast: These stars in talks for the Disney remake – who will be in it?". Express.co.uk. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 3, 2019. สืบค้นเมื่อ July 3, 2019.
  12. N'Duka, Amanda (July 17, 2019). "Javier Bardem In Talks For Disney's 'The Little Mermaid' Remake". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 17, 2019. สืบค้นเมื่อ July 17, 2019.
  13. "Daveed Diggs in Talks to Play Sebastian in Disney's Live-Action 'Little Mermaid'". The Hollywood Reporter. October 8, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2019. สืบค้นเมื่อ October 8, 2019.
  14. Ong-Pizarro, Abigail (August 29, 2021). "Little Mermaid Has The Craziest Filmmaking Sebastian Actor Has Ever Seen". Screen Rant.
  15. Hipes, Patrick; D'Alessandro, Anthony (September 24, 2019). "'The Little Mermaid': 'Krypton's Cameron Cuffe, Jonah Hauer-King Testing For Prince Eric Role". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2019. สืบค้นเมื่อ September 28, 2019.