เค้กอาโวคาโด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เค้กอาโวคาโด
มอคาอัลมอนด์ฟัดจ์บนเค้กอาโวคาโดที่เป็นชั้น ซึ่งมีอาโวคาโดอยู่ในชั้นของเค้ก
ประเภทเค้ก
มื้อของหวาน
อุณหภูมิเสิร์ฟเย็นหรืออุ่น
ส่วนผสมหลักอาโวคาโดและแป้งเค้ก
จานอื่นที่คล้ายกันเค้กผลไม้

เค้กอาโวคาโด เป็นเค้กที่ปรุงโดยใช้อาโวคาโดเป็นส่วนประกอบหลักร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ทั่วไปสำหรับเค้ก อาโวคาโดอาจเป็นส่วนประกอบในแป้งหรือในเครื่องโรยหน้าเค้กชนิดนี้ก็ได้

ภาพรวม[แก้]

อาโวคาโดเป็นวัตถุดิบหลักในเค้กอาโวคาโด

อาโวคาโดเป็นวัตถุดิบหลักในเค้กอาโวคาโด ร่วมกันกับส่วนผสมแบบฉบับอื่น ๆ ของเค้ก[1] อาโวคาโดสามารถใช้ได้หลากหลายพันธุ์ ซึ่งอาจให้กลิ่นรสอาโวคาโดที่ละเอียดอ่อนอบอวลอยู่ในนั้น[2] สามารถใช้อาโวคาโดบดเป็นส่วนประกอบในแป้ง ไอซิง หรือโรยหน้าเค้กได้[1][3][4] หรือใช้อาโวคาโดหั่นบาง ๆ วางประกอบด้านบนหรือวางตกแต่ง[3] และยังสามารถใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ผิวของผลไม้รสเปรี้ยว[5]

ส่วนผสมเพิ่มเติมสามารถใช้โยเกิร์ต บัตเตอร์มิลก์ ลูกเกด อินทผาลัม วอลนัต เฮเซลนัต ออลสไปซ์ อบเชย และลูกจันทน์เทศ[1][6] และอื่น ๆ อีกทั้ง น้ำมะนาวสามารถใช้เพื่อป้องกันเกิดสีน้ำตาลขึ้นแก่อาโวคาโดได้[5] เค้กอาโวคาโดยังสามารถปรุงเป็นอาหารมังสวิรัติและอาหารวีกันได้[4][7] นอกจากนี้ยังสามารถปรุงช็อกโกแลตเค้กและแพนเค้กโดยใช้อาโวคาโดลงไปผสมในแป้งได้อีกด้วย[4][6]

รูปแบบต่าง ๆ[แก้]

เค้กอาโวคาโดดิบ[แก้]

เค้กอาโวคาโดสามารถปรุงเป็นเค้กดิบได้โดยใช้อาโวคาโดสด และวัตถุดิบอื่น ๆ ซึ่งผสมเข้าด้วยกันเป็นเนื้อเนียนละเอียดแล้วนำไปแช่เย็น[5] ซึ่งสามารถนำเครื่องเตรียมอาหารมาใช้ในการปั่นส่วนผสมได้[5] เค้กอาโวคาโดดิบที่ปรุงกับอาโวคาโดจำนวนมากมักมีวิตามินสูงและมีกรดไขมันที่จำเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มาจากผลอาโวคาโด[a]

บราวนีอาโวคาโด[แก้]

บราวนีอาโวคาโด คือบราวนีที่ปรุงโดยใช้อาโวคาโดเป็นวัตถุดิบหลัก[8] การใช้อาโวคาโดที่สุกงอมอาจมีส่วนทำให้เนื้อบราวนีชุ่มฉ่ำเหมือนฟัดจ์[8] นอกจากนี้ ยังสามารถนำถั่วดำมาใช้ปรุงในจานและใช้แทนที่แป้งได้[9]

อาโวคาโดชีสเค้ก[แก้]

อาโวคาโดชีสเค้ก เป็นรูปแบบของชีสเค้กที่ปรุงโดยใช้อาโวคาโดเป็นส่วนประกอบหลัก[10] ซึ่งสามารถใช้อาโวคาโดดิบได้[11] อาโวคาโดชีสเค้กอาจมีเนื้อสัมผัสเป็นครีมและมีความคงตัว[12] อาหารจานนี้ยังปรากฏในตอนหนึ่งของรายการโทรทัศน์ มาสเตอร์เชฟ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015[10]

บันทึก[แก้]

  1. "เค้กชนิดนี้เต็มไปด้วยวิตามินอี และกรดไขมันที่จำเป็นซึ่งช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และรู้สึกนุ่มนวล เนื่องจากมีปริมาณอาโวคาโดสูง"[5]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 Darley, J.J. (1993). Know and Enjoy Tropical Fruit: Tropical Fruit and Nuts: a Cornucopia. P & S Publishing. p. 9. ISBN 978-0-646-13539-7.
  2. Daza, Sandy (March 5, 2015). "Take a bite–new cake discoveries in the city". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ December 12, 2015.
  3. 3.0 3.1 Castella, K. (2010). A World of Cake. Storey Pub. p. 255. ISBN 978-1-60342-576-6.
  4. 4.0 4.1 4.2 Hornby, Jane (April 1, 2015). "Chocolate avocado cake". BBC Good Food. สืบค้นเมื่อ March 8, 2016.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 "Raw avocado super-cake". The Independent. December 12, 2015. สืบค้นเมื่อ December 12, 2015.
  6. 6.0 6.1 "10 Unexpected Ways To Eat Avocados". The Huffington Post. July 29, 2013. สืบค้นเมื่อ December 12, 2015.
  7. Kumai, Candice (July 17, 2015). "Vegan Dark Chocolate-Avocado Cake". Yahoo! Style. สืบค้นเมื่อ 12 December 2015.
  8. 8.0 8.1 Shreeves, Robin (May 6, 2015). "Don't toss that overripe avocado! 7 ways to salvage it". Mother Nature Network. สืบค้นเมื่อ March 8, 2016.
  9. Morelan, Jeanette (February 1, 2016). "Unsuspecting Sweets: Most Shared Black Bean Dessert Recipes". The Kansan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-02. สืบค้นเมื่อ March 8, 2016.
  10. 10.0 10.1 Daly, Emma (March 11, 2015). "MasterChef: Avocado cheesecake doesn't hit the right notes". Radio Times. สืบค้นเมื่อ March 8, 2016.
  11. Marshall, Kate (October 21, 2015). "How to grow avocados". Stuff.co.nz. สืบค้นเมื่อ March 8, 2016.
  12. Stachelski, Deborah (October 23, 2015). "Austin's Most Innovative Executive Chefs". The Huffington Post. สืบค้นเมื่อ March 8, 2016.

อ่านเพิ่มเติม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]