เคมีโอลิมปิกระดับชาติ ประเทศไทย
การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ (อังกฤษ: Thailand Chemistry Olympiad: TChO) เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับชาติของประเทศไทย เริ่มต้นจาก การแข่งขันเคมีโอลิมปิก สอวน. (POSN Chemistry Olympiad) ครั้งที่ 1 และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ในภายหลัง การแข่งขันจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมของแต่ละปี[1]และศูนย์ สอวน. ต่าง ๆ ทั่วประเทศเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.)
ประวัติ
[แก้]ก่อนหน้านี้ การคัดเลือกตัวแทนไปแข่งเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศดำเนินการโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โดยมีค่ายต่าง ๆ จัดที่ สสวท. กรุงเทพมหานคร โดยใช้ข้อสอบกลางใช้สอบทั่วประเทศ รอบแรก เป็นข้อสอบแบบปรนัย รอบสอง เป็นข้อสอบแบบอัตนัย เพื่อคัดเลือกนักเรียนไปเข้าค่ายอบรม สสวท. ค่ายที่ 1 ต่อไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 ได้มีการจัดตั้งโครงการโอลิมปิก สอวน. ขึ้นโดยให้แต่ละศูนย์คัดเลือกนักเรียนในพื้นที่รับผิดชอบโดยดำเนินการออกข้อสอบเอง จัดค่ายอบรม และคัดนักเรียนตัวแทนศูนย์ละ 3 คน เข้าสอบแข่งขันในรอบที่ 2 ของ สสวท. โดยไม่ต้องผ่านการสอบรอบแรก
แนวคิดเรื่องการจัดแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2544 ได้มีการใช้ข้อสอบกลางที่ทุกศูนย์ร่วมกันออกสำหรับการคัดเลือกนักเรียน สอวน. ในค่ายที่ 2 ไปแข่งขันภาคปฏิบัติที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังโดยเป็นข้อสอบแบบอัตนัย ขณะนั้นมีปัญหาคือศูนย์ภูมิภาคหลาย ๆ แห่งไม่มีนักเรียนที่สอบผ่านข้อเขียนและข้อสอบภาคปฏิบัติเป็นข้อสอบที่นอกเหนือจากเนื้อหาที่ได้อบรมในหลักสูตรค่าย 1 และ 2 ของส่วนภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2545-2547 จึงกลับไปใช้ระบบเดิม กล่าวคือ ให้แต่ละศูนย์ดำเนินการคัดเลือกตัวแทนศูนย์ละ 3 คน ไปแข่งขันกับนักเรียนที่สอบผ่านรอบแรกของ สสวท. ในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ณ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในขณะที่สาขาวิชาอื่นเริ่มต้นการแข่งขันระดับชาติ
การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ เดิมเรียกว่า การแข่งขันเคมีโอลิมปิก สอวน. (อังกฤษ: POSN Chemistry Olympiad: POSN-ChO) จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนของแต่ละปี การแข่งขันการแข่งขันเคมีโอลิมปิก สอวน. ครั้งแรกจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก โดยใช้ภาษาไทยในการแข่งขัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 5 (อังกฤษ: The Fifth Thailand Chemistry Olympiad: 5th TChO) และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ในการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 8 (TChO08) ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นต้นมา ได้ใช้ข้อสอบภาคทฤษฎีหัวข้อเคมีอินทรีย์และชีวเคมีเป็นภาษาอังกฤษ
ในปี พ.ศ. 2555 มูลนิธิ สอวน. ได้เพิ่มนักเรียนนอกโครงการพิเศษ จำนวน 3 คน รวมทั้งสิ้น 99 คน มาสอบแข่งขันโดยใช้ข้อสอบมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งออกโดยคณะกรรมการวิชาการกลางและมีอาจารย์พร้อมครูสังเกตการณ์ของแต่ละศูนย์ร่วมพิจารณาคัดเลือกข้อสอบ เกณฑ์การให้คะแนนตลอดจนประเมินผลและตัดสินผลการแข่งขันด้วยมาตรฐานเดียวกับการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศ (International Chemistry Olympiad: IChO) จัดรางวัลให้เป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง และประกาศเกียรติคุณ จากนั้นจึงคัดเลือกนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์จำนวน 50 คน เพื่อเข้าค่ายเคมีโอลิมปิก ค่ายที่ 1 ของ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ต่อไป [2]
ปัจจุบัน ศูนย์ สอวน. ที่เข้าร่วมการแข่งขันส่งได้หนึ่งทีม ประกอบด้วยนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกของแต่ละศูนย์ จำนวน 6 คน ยกเว้น ศูนย์ สอวน. กรุงเทพมหานคร ส่งนักเรียนเข้าแข่งขันได้ 3 ทีม ทีมละ 6 คน รวม 18 คน ใช้ผลการแข่งขันเพื่อคัดเลือกนักเรียนจำนวนหนึ่งเข้าอบรมที่ สสวท. เพื่อคัดเลือกผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศต่อไป[1]
กติกาและรูปแบบการแข่งขัน
[แก้]การสอบใช้เวลา 2 วัน หนึ่งวันสำหรับการสอบภาคทฤษฎี และอีกหนึ่งวันสำหรับการสอบภาคปฏิบัติ เวลาที่ใช้สำหรับทำข้อสอบแต่ละภาคกำหนดให้ภาคละ 5 ชั่วโมง ข้อสอบภาคทฤษฎี จะมีเนื้อหาครอบคลุมสาขาต่าง ๆ ในวิชาเคมี ได้แก่ เคมีอนินทรีย์ เคมีอินทรีย์ เคมีเชิงฟิสิกส์ และเคมีวิเคราะห์ (การปรับปรุงหลักสูตร สอวน. ปี พ.ศ.2567 ได้ตัดเนื้อหา ชีวเคมี ออกจากหลักสูตร) ส่วนข้อสอบภาคปฏิบัติจะเน้นกระบวนการและทักษะเกี่ยวกับการทดลองในวิชาเคมี เดิมศูนย์ สอวน. ที่รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจะต้องจัดเตรียมข้อสอบตัวอย่าง (Preparatory Problems) ผู้ออกข้อสอบ ตรวจข้อสอบ และจัดทำข้อสอบสำหรับการแข่งขัน ปัจจุบันการเตรียมข้อสอบตัวอย่างและข้อสอบภาคทฤษฎีจะเป็นหน้าที่ของกรรมการกลางวิชาเคมี มูลนิธิ สอวน.
ธรรมนูญการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติกำหนดให้ศูนย์เจ้าภาพรับผิดชอบการเตรียมงานและการจัดสอบแข่งขัน โดยสามารถเสนอผู้แทนเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการกลางวิชาเคมี มูลนิธิ สอวน. ได้ไม่เกินสามคนในปีที่เป็นเจ้าภาพ ภาษาที่ใช้ในการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ คือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ศูนย์เจ้าภาพเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการดำเนินการเกี่ยวกับการออกข้อสอบ ตรวจข้อสอบ และจัดทำข้อสอบสำหรับการแข่งขัน โดยมีคณะกรรมการกลางวิชาเคมี มูลนิธิ สอวน. เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจข้อสอบร่วมกับศูนย์เจ้าภาพ[1] ข้อสอบที่ใช้ในการแข่งขันต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการกลางวิชาเคมี มูลนิธิ สอวน. และอาจารย์ฝ่ายวิชาการจากทุกศูนย์ที่เข้าร่วมแข่งขัน การตัดสินของที่ประชุมใช้เสียงข้างมาก หากคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานคณะกรรมการมีสิทธิ์ออกเสียงชี้ขาด ส่วนกรณีการปฏิเสธข้อสอบต้องได้รับเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่าสองในสามของที่ประชุม คณะกรรมการเคมีโอลิมปิกระดับชาติมีหน้าที่กำกับดูแลให้การแข่งขันเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ พิจารณาและให้ความเห็นชอบต่อข้อสอบ เฉลย และแนวทางการให้คะแนนของทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมีสิทธิ์ปรับแก้หรือปฏิเสธข้อสอบที่เสนอได้ แต่ไม่สามารถเสนอข้อสอบใหม่ ทั้งนี้ การแก้ไขใด ๆ ต้องไม่กระทบต่ออุปกรณ์การทดลองที่ใช้ในการสอบภาคปฏิบัติ คณะกรรมการต้องจัดให้มีการตัดสินขั้นสุดท้ายในเรื่องข้อสอบและแนวทางการให้คะแนน และสมาชิกทุกคนต้องรักษาความลับของข้อสอบ รวมถึงไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าแข่งขัน[1] คณะกรรมการยังมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและความยุติธรรมในการจัดลำดับรางวัล โดยไม่เปิดเผยคะแนนของผู้ที่ไม่ได้รับรางวัล และเป็นผู้พิจารณาผลการแข่งขันรวมถึงการมอบรางวัลต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นที่สิ้นสุด
การแข่งขันใช้สัดส่วนคะแนนภาคทฤษฎีต่อภาคปฏิบัติเท่ากับ 60 : 40 ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับรางวัลเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงตามลำดับคะแนนที่ทำได้ ผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจะได้รับ รางวัลพิเศษ และศูนย์เจ้าภาพสามารถมอบ รางวัลเพิ่มเติม อื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสม[1]
การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 17 ปี พ.ศ. 2564
[แก้]การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 17 ปี พ.ศ. 2564 เดิมจะจัดแบบทั่วไป ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา แต่เนื่องจากมีการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา-2019 จึงได้ปรับการแข่งขันเป็นรูปแบบ การสอบเข้าถึงระยะไกล (Remote Access Exam) ณ สนามสอบศูนย์ สอวน. ต่าง ๆ ทั่วประเทศแทน และยกเลิกการสอบภาคปฏิบัติ
การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติในอนาคต
[แก้]| TChO | เมืองที่จัดการแข่งขัน | ศูนย์เจ้าภาพ [3] | ปี พ.ศ.ที่จัดการแข่งขัน |
|---|---|---|---|
| การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ | |||
| 22 | พัทลุง | มหาวิทยาลัยทักษิณ | 3-7 เมษายน พ.ศ. 2569[4] |
| 23 | กรุงเทพมหานคร | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี | 2570 |
| 24 | สงขลา | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | 2571 |
| 25 | กรุงเทพมหานคร | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ | 2572 |
| 26 | อุบลราชธานี | มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 2573 |
| 27 | ชลบุรี | มหาวิทยาลัยบูรพา | 2574 |
| 28 | นครปฐม | มหาวิทยาลัยศิลปากร | 2575 |
| 29 | นครศรีธรรมราช (รอยืนยัน) | มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (รอยืนยัน) | 2576 |
| 30 | เชียงใหม่ | มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | 2577 |
การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติที่ผ่านมา
[แก้]ศูนย์ สอวน.ที่เข้าร่วมการแข่งขัน
[แก้]โดยธรรมนูญการแข่งขันกำหนดให้แต่ละศูนย์ฯสามารถส่งนักเรียนผู้แทนเข้าร่วมการแข่งขันได้ทั้งหมด 6 คน และอาจารย์ผู้แทนศูนย์ 2 คน ยกเว้นศูนย์กรุงเทพ (โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี)) ที่สามารถส่งนักเรียนผู้แทนได้ 3 ทีม ทีมละ 6 คน รวม 18 คน และกรรมการทีมละ 2 คน รวม 6 คน[1]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- 1 2 3 4 5 6 ธรรมนูญการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2568) รับรองโดยที่ประชุมคณะกรรมการวิชาเคมี วันที่ 27 มิถุนายน 2568
- ↑ โครงการการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 11 The Eleventh Thailand Chemistry Olympiad (11th TChO) มูลนิธิ สอวน. คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ↑ รายงานการประชุมสรุปผลการดำเนินงานศูนย์ สอวน. ประจำปีการศึกษา 2567 วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม Palladium Hall ชั้น 10 โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร
- ↑ "การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 22 มหาวิทยาลัยทักษิณ".