เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
หน้าตา
เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก | |
---|---|
เขตพัฒนาพิเศษ | |
Eastern Special Development Zone | |
ตามเข็มนาฬิกาจากซ้ายบน; ทิวทัศน์ของพัทยาเส้นขอบฟ้า, พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร, ปราสาทสัจธรรม, พระอภัยมณีกับนางเงือกที่เกาะเสม็ด, และพระพิฆเนศวัดสมานรัตนาราม | |
คำขวัญ: เชื่อมโลก ให้ไทยแล่น[1] | |
ประเทศ | ไทย |
ภาค | ภาคตะวันออก |
จังหวัด | 3 จังหวัด
|
เมืองใหญ่สุด ตามประชากร | ศรีราชา |
ก่อนก่อตั้ง | ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก |
คำสั่งหัวหน้า คสช. | 17 มกราคม 2560 |
พ.ร.บ. อีอีซี | 15 พฤษภาคม 2561 |
การปกครอง | คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก |
การปกครอง | |
• ประเภท | เขตพัฒนาพิเศษ |
• เลขาธิการ | คณิศ แสงสุพรรณ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 13,266 ตร.กม. (5,122 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2561) | |
• ทั้งหมด | 2,973,770 คน |
• ความหนาแน่น | 220 คน/ตร.กม. (580 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+07:00 (เวลามาตรฐานไทย) |
เว็บไซต์ | www |
เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อังกฤษ: Eastern Special Development Zone; ESDZ) รู้จักกันในชื่อ อีอีซี (EEC) มีชื่อเดิมว่า ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อังกฤษ: Eastern Economic Corridor)[2] เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมติคณะรัฐมนตรีใน พ.ศ. 2558 ตั้งอยู่บริเวณในชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของอ่าวไทยซึ่งถือเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัดได้แก่จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในระเบียงเศรษฐกิจนี้ มีมูลค่าราว 14% ของทั้งประเทศไทย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Corporate Identity". Eastern Economic Corridor Office. www.eeco.or.th. สืบค้นเมื่อ 15 December 2019.
- ↑ EEC คืออะไร คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว