ข้ามไปเนื้อหา

เขตพย็องช็อน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เขตพย็องช็อน
เขตของเปียงยาง
การถอดเสียงภาษาเกาหลี
 • ฮันกึล평천구역
 • ฮันจา區域
 • อาร์อาร์Pyeongcheon-guyeok
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนเปียงยางในเขตพย็องช็อน
ที่ตั้งของเขตพย็องช็อนในเปียงยาง
ที่ตั้งของเขตพย็องช็อนในเปียงยาง
ประเทศเกาหลีเหนือ
นครปกครองโดยตรงเปียงยาง
เขตการปกครอง17 ย่าน (ทง)
พื้นที่
 • ทั้งหมด8.4 ตร.กม. (3.2 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2008)[1]
 • ทั้งหมด181,142 คน
 • ความหนาแน่น22,000 คน/ตร.กม. (56,000 คน/ตร.ไมล์)

เขตพย็องช็อน (เกาหลี평천구역)[2] เป็นหนึ่งใน 19 เขต (กูย็อก) ของเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับแม่น้ำแทดงทางทิศใต้และคลองโพทงกังทางทิศเหนือและแม่น้ำโพทงทางทิศตะวันตก และเขตชุงทางทิศตะวันออก ซึ่งถูกแบ่งด้วยพื้นที่ลานของสถานีรถไฟเปียงยาง

ประวัติศาสตร์

[แก้]

ชื่อของเขตนี้ สืบทอดมาจากพย็องชอน-มย็อนเดิม หมายถึงพื้นที่ราบ ซึ่งมีน้ำไหลผ่าน[3]

ถูกสถาปนาขึ้นใหม่ในฐานะเขต (กูย็อก) เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1960 โดยคณะกรรมาธิการประชาชนนครเปียงยางผ่านคำสั่งของคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี[3]

ใน ค.ศ. 1963 ส่วนหนึ่งของย่านพย็องช็อนถูกแยกออกไปเพื่อก่อตั้งย่านแฮอุน ส่วนหนึ่งของย่านคันซ็องถูกแยกออกไปเพื่อก่อตั้งย่านรยุกกโย และส่วนหนึ่งของย่านพุกซ็องและย่านพงจีถูกแบ่งแยกออกไปเพื่อก่อตั้งย่านพงนัมและย่านอันซัน

ใน ค.ศ. 1967 ย่านรยุกกโยถูกแบ่งออกเป็นสองย่าน และส่วนหนึ่งของย่านพย็องช็อนถูกแยกออกเพื่อสร้างย่านแซมาอึล

ใน ค.ศ. 1972 ย่านพย็องช็อนและย่านแซมาอึลต่างถูกแบ่งออกเป็นสองย่าน

ใน ค.ศ. 1989 ย่านพุกซ็องและย่านแฮอุนต่างถูกแบ่งออกเป็นสองย่าน[3]

เหตุอาคารถล่ม ค.ศ. 2014

[แก้]

เมื่อ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 อาคาร 23 ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในย่านอันซัน 1 พังถล่มลงมา โดยการเก็บกวาดซากปรักหักพังดูเหมือนจะกินเวลาอย่างมากที่สุด 4 วัน จากภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวที่ถ่ายจากหอคอยชูเช อาคารดังกล่าวหายไปจากภาพที่ถ่ายในช่วงกลางวันของวันที่ 13 พฤษภาคม และเวลา 9:35 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม เป็นการยืนยันรายงานที่จัดทำโดยโรดงชินมุน[4] ขณะที่ในวันที่ 13 พฤษภาคม องค์กรเอกชนแห่งหนึ่งได้รับการติดต่อเพื่อให้จัดหาที่พักพิงชั่วคราว[5] ก่อนการพังถล่ม ภาพถ่ายของอาคารที่ถ่ายในเดือนเมษายนและพฤษภาคมเผยให้เห็นว่าอาคารมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าอาคารถูกทิ้งร้าง เมื่ออาคารถล่มลงมา อาคารดังกล่าวไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารใกล้เคียง เผยให้เห็นว่าอาคารน่าจะถล่มลงมาในแนวดิ่ง ซึ่งตามที่ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสัมภาษณ์โดยเอ็นเคนิวส์กล่าวไว้ อาจบ่งชี้ถึงการรื้อถอนอาคารที่ดูเหมือนถูกทิ้งร้าง[4]

แหล่งข่าวเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าการนำเสนอข่าวเหตุการณ์ตึกถล่มนั้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของรัฐบาล ตรงกันข้ามกับเหตุการณ์ภัยพิบัติเรือเซวอล[6] ขณะที่เอ็นเคนิวส์ในตอนแรกอ้างว่ารัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปิดเผยอุบัติเหตุดังกล่าวเนื่องจากชาวต่างชาติทราบเรื่องแล้ว[7] แต่ทว่าอุบัติเหตุนั้นไม่เป็นที่ทราบจนกระทั่งสื่อของรัฐรายงาน และการดำเนินการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวมของสื่อของรัฐในการรายงานเหตุการณ์เชิงลบเพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความรับผิดชอบต่อปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น[8][9] ภายหลังเหตุการณ์ คิม จ็อง-อึนเดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลแทซ็องซัน ซึ่งอาจเป็นคนงานก่อสร้างจากเหตุตึกถล่ม[10]

ข้อกล่าวอ้างที่ไม่ได้รับการยืนยันจากผู้แปรพักตร์ระบุว่าอาคารดังกล่าวอาจมีความสูงเกินกว่ากำหนดสำหรับพื้นที่นั้นและส่วนผสมคอนกรีตที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาเพิ่มเติมว่ามีน้ำรั่วลงสู่ชั้นใต้ดินขณะที่ 'หินโผล่และแทงทะลุคอนกรีต'[11] และผู้จัดการโรงงานบางคนยักยอกวัสดุเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว นำไปสู่คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ลดลง[12] จากการสัมภาษณ์ของแอสโซซิเอเต็ดเพรสระบุว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก 'พวกเขาละเมิดกฎและวิธีการก่อสร้าง'[13] ในวารสารเศรษฐศาสตร์เกาหลีเหนือ คย็องเจย็อนกู (Kyongje Yongu) ระบุว่า 'ข้อกำหนดทางเทคนิคและวิธีการก่อสร้างถูกละเลยเมื่อโครงการถูกเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ซึ่งมักถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าให้ตรงกับวันหยุดหรือวันครบรอบ' และเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้วยตนเอง จึงมีการใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน[12]

การแบ่งเขตการปกครอง

[แก้]

เขตพย็องช็อนแบ่งออกเป็น 17 ย่าน หรือทง (dong)[14]

โซซ็อนกึล ฮันจา โชซ็อนกึล ฮันจา
ย่านอันซัน 1 안산1동 1 ย่านพงนัม 봉남동
ย่านอันซัน 2 안산2동 2 ย่านพุกซ็อง 1 북성1동 1
ย่านช็องพย็อง 정평동 ย่านพุกซ็อง 2 북성2동 2
ย่านแฮอุน 1 해운1동 1 ย่านพย็องช็อน 1 평천1동 1
ย่านแฮอุน 2 해운2동 2 ย่านพย็องช็อน 2 평천2동 2
ย่านคันซ็อง 간성동 ย่านรยุกกโย 1 륙교1동 1
ย่านพงจี 봉지동 ย่านรยุกกโย 2 륙교2동 2
ย่านพงฮัก 봉학동 ย่านแซมาอึล 1 새마을1동 새마을1
ย่านแซมาอึล 2 새마을2동 새마을2

เศรษฐกิจ

[แก้]

การผลิตไฟฟ้า

[แก้]

เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในฐานะที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนเปียงยาง ในเขตย่านแซมาอึล[15] ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าและความร้อนสำหรับย่านใจกลางเปียงยางและภูมิภาคโดยรอบ[16] โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีกำลังการผลิตตามแบบ 700 เมกะวัตต์และกำลังการผลิตโดยประมาณ 500 เมกะวัตต์[17] แม้ในสถิติที่เผยแพร่ใน ค.ศ. 2009 จะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 227 เมกะวัตต์[18] การคว่ำบาตรได้จำกัดปริมาณเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอยู่ แต่พวกเขาก็ได้พัฒนาพลังงานทางเลือกอื่น ๆ[19] โรงไฟฟ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1960 ด้วยความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียต แม้ใน ค.ศ. 1960 เนื่องจากปริมาณน้ำฝนสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้มีไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนบนแม่น้ำยาลู่เพียงพอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนและดังนั้นจึงไม่แน่นอนในบางครั้ง[16]

ขณะที่อุปกรณ์ในโรงไฟฟ้าเริ่มเก่าลง แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการจัดหาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใหม่สองเครื่องจากจีนใน ค.ศ. 2018 ตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา ส่วนต่าง ๆ ของโรงไฟฟ้าได้รับการปรับปรุง รวมถึงลานหม้อแปลง การขยายโรงบำบัดน้ำ พื้นที่คลังเชื้อเพลิง บ่อตกตะกอน และสิ่งอำนวยความสะดวกทางราง[17] ใน ค.ศ. 2020 โรงไฟฟ้าได้รับการยกเครื่องครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูขีดความสามารถการผลิตเดิม[20] และใน ค.ศ. 2021 มีการนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้หม้อไอน้ำทำงานเต็มกำลังการผลิต[21]

อุตสาหกรรมอื่น ๆ

[แก้]

อุตสาหกรรมที่น่าสังเกตอื่น ๆ ในเขต ได้แก่ โรงงานปุ๋ยอินทรีย์โพทงกังในย่านช็องพย็อง[22] และโรงงานแบตเตอรี่แทดงกังในย่านแซมาอึล[15]

โรงงานรถไฟฟ้าล้อยางเปียงยางตั้งอยู่ในเขตพย็องช็อน[23] แม้ที่อยู่จะระบุว่าอยู่ในเขตโพทงกัง[24]

การศึกษา

[แก้]

นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนและสตูดิโอศิลปะมันซูแด มหาวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์เปียงยางชัง ช็อล-กู [ko] และมหาวิทยาลัยศิลปะอุตสาหกรรมการพิมพ์เปียงยาง

การท่องเที่ยว

[แก้]

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงแรมโพทงและเรือนรับรองอันซันโชแดโซ (안산초대소)

แหล่งปฏิวัติพย็องช็อนในย่านพย็องช็อน 1 เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงสถานที่ที่คิม อิล-ซ็องเลือกเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตกระสุนแห่งแรกที่สร้างขึ้นหลังการปลดปล่อยเกาหลี[25]

การขนส่ง

[แก้]

ทางรถไฟแห่งรัฐเกาหลีมีเส้นทางแยกของสายพย็องนัมในเขตนี้ โดยมีลานจัดขบวนที่พย็องยังโชชาจังในย่านช็องพย็อง และสถานีพย็องช็อนสำหรับขนส่งเฉพาะสินค้าในย่านแฮอุน 1 ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าทางรางแก่โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในพื้นที่นั้น[26]

เขตนี้มีสถานีพูฮึง สถานีปลายทางของสายช็อลลีมา รถรางสาย 3 รถไฟฟ้าล้อยางสาย 5 เส้นทางรถประจำทางต่าง ๆ และทางน้ำ[27]

อ้างอิง

[แก้]
  1. North Korea: Administrative Division
  2. "Walled City of Pyongyang". Pyongyang Times. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  3. 3.0 3.1 3.2 "북한지역정보넷". www.cybernk.net. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  4. 4.0 4.1 nknews (2014-07-03). "EXCLUSIVE: Photos confirm date of North Korea building collapse | NK News". NK News - North Korea News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  5. "North Korea requested NGO assistance on day of building collapse | NK News". NK News - North Korea News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2014-07-17. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  6. "NK Media Reports Pyongyang Apartment Collapse". Unification Media Group. 2014-05-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-28.
  7. "Major construction accident occurs in Pyongyang, state media reports | NK News". NK News - North Korea News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2014-05-18. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  8. "Phyongchon-gate and what it means for North Korean propaganda". Choson Exchange - Visit North Korea & Teach Entrepreneurs! (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  9. "Guidance on weeds". koreatimes (ภาษาอังกฤษ). 2012-05-14. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  10. "Pyongyang building collapse identified (UPDATED)". nkeconwatch. 2014-05-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-31.
  11. nknews (2016-10-13). "Defector reveals causes of 2014 Pyongyang apartment collapse | NK News". NK News - North Korea News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  12. 12.0 12.1 "Competition rises among factories and department stores in North Korea: Delivery services now available". North Korean Economy Watch (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  13. "BUILDING FAIL SHEDS LIGHT ON N. KOREAN PRIORITIES". AP. 2014-08-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-21.
  14. "평천구역 (平川區域) PYONGCHONKUYOK". nk.joins.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-18.
  15. 15.0 15.1 Dormels, Rainer (2014). "Profiles of the cities of DPR Korea - Pyongyang" (PDF). Universität Wien. สืบค้นเมื่อ 17 December 2016.
  16. 16.0 16.1 "When the Lights Went Out: Electricity in North Korea and Dependency on Moscow". International Journal of Korean Unification Studies. 29 (1, 2020).
  17. 17.0 17.1 "Powering the Korean Peninsula: Economic and Strategic Considerations". Beyond Parallel (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2021-03-17. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  18. "Pyongyang's Perpetual Power Problems". 38 North (ภาษาอังกฤษ). 2014-11-25. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  19. "Options limited, North Korea lit by flashlights, creaky grid". AP NEWS (ภาษาอังกฤษ). 2021-04-20. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  20. "North Korea recovering power plants, state media says". UPI (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  21. "Rodong Sinmun". rodong.rep.kp. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  22. "5th National Report on Biodiversity of DPR Korea" (PDF). สืบค้นเมื่อ 17 December 2016.
  23. "The Pyongyang Trolley Bus Factory manufactures new model". North Korean Economy Watch (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.
  24. "Trolley-Buses". Foreign Trade of the DPRK. 1974. p. 235.
  25. "Phyongchon Revolutionary Site". KCNA. 1 December 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 October 2014.
  26. Kokubu, Hayato, 将軍様の鉄道 (Shōgun-sama no Tetsudō), ISBN 978-4-10-303731-6
  27. "북한지역정보넷". www.cybernk.net. สืบค้นเมื่อ 2021-09-19.