ข้ามไปเนื้อหา

เกสรเพศผู้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกสรเพศผู้ของ Hippeastrum พร้อมก้านชูอับเรณูสีขาวและอับเรณูที่เด่นชัดซึ่งบรรจุละอองเรณูอยู่

เกสรเพศผู้ (อังกฤษ: stamen) เป็นส่วนที่ประกอบด้วยอวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้ของดอก เมื่อรวมกันแล้ว เกสรเพศผู้จะเรียกว่า วงเกสรเพศผู้ (androecium)[1]

โดยทั่วไปเกสรเพศผู้จะประกอบด้วยก้านที่เรียกว่า ก้านชูอับเรณู (filament) และอับเรณู (anther) ซึ่งภายในมีอับไมโครสปอร์อยู่ ส่วนใหญ่อับเรณู จะมีสองพู แต่ละพูเรียกว่า ช่อง (locule) และจะติดอยู่กับก้านชูอับเรณูที่บริเวณฐานหรือบริเวณตรงกลางของอับเรณู เนื้อเยื่อที่เป็นหมัน (คือไม่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์) ที่อยู่ระหว่างพูจะเรียกว่า แกนอับเรณู (connective) ซึ่งเป็นส่วนที่ยื่นต่อออกมาจากก้านชูอับเรณู และมีท่อลำเลียงอยู่ภายใน สามารถมองเห็นได้เป็นส่วนที่ยื่นออกมาทางด้านหลังของอับเรณู ละอองเรณูจะพัฒนาจากไมโครสปอร์ในอับไมโครสปอร์ และภายในประกอบด้วยแกมีโตไฟต์เพศผู้ ขนาดของอับเรณูจะแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ส่วนเล็ก ๆ เพียงเสี้ยวของมิลลิเมตรในพืชสกุล Wolfia ไปจนถึง 5 นิ้ว (13 เซนติเมตร) ในพืช Canna iridiflora และ Strelitzia nicolai

เกสรเพศผู้ในดอกไม้จะเรียกรวมกันว่าวงเกสรเพศผู้ วงเกสรเพศผู้อาจประกอบด้วยเกสรเพศผู้เพียงครึ่งเดียว (เช่น มีเพียงช่องเดียว) อย่างในพืชสกุล Canna หรืออาจมีมากถึง 3,482 เกสรเพศผู้ ตามที่นับได้ในกระบองเพชรซากัวโร (Carnegiea gigantea)[2] วงเกสรเพศผู้ในพืชหลายชนิดมีรูปแบบที่หลากหลายมาก ซึ่งบางรูปแบบก็มีความซับซ้อนสูง[3][4][5][6] โดยทั่วไปจะอยู่ล้อมรอบวงเกสรเพศเมีย (gynoecium) และถูกล้อมรอบด้วยวงกลีบรวม อย่างไรก็ตาม มีพืชบางชนิดในวงศ์ Triuridaceae โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Lacandonia schismatica และ Lacandonia brasiliana[7] รวมถึงพืชบางชนิดในสกุล Trithuria (วงศ์ Hydatellaceae) ที่เป็นข้อยกเว้น คือวงเกสรเพศเมียของพืชเหล่านี้จะอยู่ล้อมรอบวงเกสรเพศผู้แทน

อ้างอิง

[แก้]
  1. Beentje, Henk (2010). The Kew Plant Glossary. Richmond, Surrey: Royal Botanic Gardens, Kew. ISBN 978-1-84246-422-9., p. 10
  2. Charles E. Bessey in SCIENCE Vol. 40 (November 6, 1914) p. 680.
  3. Sattler, R. 1973. Organogenesis of Flowers. A Photographic Text-Atlas. University of Toronto Press. ISBN 0-8020-1864-5.
  4. Sattler, R. 1988. A dynamic multidimensional approach to floral morphology. In: Leins, P., Tucker, S. C. and Endress, P. (eds) Aspects of Floral Development. J. Cramer, Berlin, pp. 1–6. ISBN 3-443-50011-0
  5. Greyson, R. I. 1994. The Development of Flowers. Oxford University Press. ISBN 0-19-506688-X.
  6. Leins, P. and Erbar, C. 2010. Flower and Fruit. Schweizerbart Science Publishers, Stuttgart. ISBN 978-3-510-65261-7.
  7. Rudell, Paula J.; และคณะ (February 4, 2016). "Inside-out Flowers of Lacandonia braziliana...etc". PeerJ. 4. doi:10.7717/peerj.1653. PMC 4748704. PMID 26870611.