อำเภอถลาง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก อ.ถลาง)
อำเภอถลาง
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Thalang
คำขวัญ: 
เมืองประวัติศาสตร์ ธรรมชาติเลิศล้ำ ฟื้นฟูวัฒนธรรม สังคมสันติสุข
แผนที่จังหวัดภูเก็ต เน้นอำเภอถลาง
แผนที่จังหวัดภูเก็ต เน้นอำเภอถลาง
พิกัด: 8°1′54″N 98°20′0″E / 8.03167°N 98.33333°E / 8.03167; 98.33333
ประเทศ ไทย
จังหวัดภูเก็ต
พื้นที่
 • ทั้งหมด252.0 ตร.กม. (97.3 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
 • ทั้งหมด111,861 คน
 • ความหนาแน่น443.89 คน/ตร.กม. (1,149.7 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 83110
รหัสภูมิศาสตร์8303
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอถลาง เลขที่ 357 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83110
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ถลาง อำเภอหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

อำเภอถลางมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้

ประวัติ[แก้]

พื้นที่เดิมของเกาะถลาง หรือ เกาะภูเก็ต ในแผนที่ของคลอดิอุส ปโตเลมี ประมาณ พ.ศ. 700 ระบุไว้ในชื่อ JUNK CEYLON เมื่อครั้งที่หลวงจีนอี้จิงเดินทางผ่านไปสืบพระพุทธศาสนาเรียกบริเวณนี้เป็น SILAN เปลี่ยนเสียงเป็น สลาง ในสมัยสุโขทัย มีปรากฏในจดหมายเหตุไทย - ฝรั่งเศส เป็น Jun Salon ฝ่ายเอกสารไทยใช้ ฉลาง มาจนถึงรัชกาลที่ 3 จึงมีปรากฏคำ ถลาง แทนชื่ออื่นทั้งหมด

ในหัวเมืองฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้มีศูนย์กลางปกครองที่เมืองถลาง เจ้าเมืองถลางจะได้รับโปรดเกล้าฯเป็นผู้สำเร็จราชการแปดหัวเมือง (เมืองกระ เมืองคุระ เมืองคุรอด เมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง (บางคลี) เมืองกราภูงา เมืองภูเก็จ และเมืองถลาง)

ศูนย์กลางการปกครองเมืองถลางในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ อยู่ที่บ้านลิพอน (ตำบลศรีสุนทร)มีพญาถลางคางเสงเป็นเจ้าเมือง ย้ายไปอยู่ที่บ้านดอน (ตำบลเทพกระษัตรี)มีพญาถลางจอมเฒ่าบ้านดอนเป็นเจ้าเมือง และเกาะบ้านเคียน (ตำบลเทพกระษัตรี) ในสมัยกรุงธนบุรี มีพญาถลางจอมรั้งบ้านเคียน พญาถลางอาด พญาถลางชู พญาสุรินทราชาพิมลอัยาขัน เป็นเจ้าเมือง พ.ศ. ๒๓๒๙ มีพญาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง(เทียน ประทีป ณ ถลาง) เป็นเจ้าเมือง ถัดไปเป็นพระยาถลางฤกษ์ (จันทโรจวงศ์) พญาถลางทับ พญาถลางคิน และพญาถลางชู(เจ้าเมืองถลางคนสุดท้าย)

อำเภอถลางในอดีตเป็นเมืองของสองวีรสตรีท้าวเทพกระษัตรี และ ท้าวศรีสุนทร เดิมเรียกว่า อำเภอเมืองถลาง มีเจ้าเมืองปกครองเรียกว่า พระยาถลาง ได้จัดตั้งเป็นอำเภอ เมื่อปี พ.ศ. 2441

  • วันที่ 29 เมษายน 2460 เปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอถลาง มณฑลภูเก็ต เป็น อำเภอเมืองถลาง[1]
  • วันที่ 14 พฤศจิกายน 2481 เปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอเมืองถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็น อำเภอถลาง[2] อีกครั้ง
  • วันที่ 5 ธันวาคม 2483 โอนพื้นที่หมู่ 7,9 (ในขณะนั้น) ของตำบลดอน ไปขึ้นกับตำบลลิพอน[3]
  • วันที่ 17 กันยายน 2498 จัดตั้งสุขาภิบาลเทพกระษัตรี ในท้องที่บางส่วนของตำบลเทพกระษัตรี[4]
  • วันที่ 1 มีนาคม 2501 จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร ในท้องที่อำเภอถลาง[5]
  • วันที่ 23 กรกฎาคม 2506 จัดตั้งสุขาภิบาลเชิงทะเล ในท้องที่บางส่วนของตำบลเชิงทะเล[6]
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลเทพกระษัตรี และสุขาภิบาลเชิงทะเล เป็นเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี และเทศบาลตำบลเชิงทะเล[7] ตามลำดับ

เหตุการณ์สำคัญ[แก้]

10 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ได้เกิดเหตุเผาทำลายสถานีตำรวจภูธรถลาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเป็นเหตุจลาจล

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

อำเภอถลางแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 6 ตำบล 46 หมู่บ้าน

ลำดับ อักษรไทย อักษรโรมัน จำนวนหมู่บ้าน จำนวนประชากร
(ธันวาคม 2565)[8]
แผนที่
1. เทพกระษัตรี Thep Krasattri
11
26,585
 แผนที่
2. ศรีสุนทร Si Sunthon
8
27,575
3. เชิงทะเล Choeng Thale
6
18,850
4. ป่าคลอก Pa Khlok
9
18,736
5. ไม้ขาว Mai Khao
7
13,836
6. สาคู Sakhu
5
7,016

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภอถลางประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ได้แก่

สถานที่สำคัญ[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. [1] เก็บถาวร 2011-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่ออำเภอ
  2. [2] เก็บถาวร 2011-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามจังหวัด และอำเภอบางแห่ง พุทธศักราช ๒๔๘๑
  3. [3]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
  4. [4]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลเทพกษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
  5. [5]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล [จำนวน ๕๙ แห่ง]
  6. [6]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
  7. [7] เก็บถาวร 2008-04-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะของสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๒
  8. "ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร". stat.bora.dopa.go.th.