อูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน
ครองราชย์ราว ค.ศ. 1117-1125 (ครั้งที่ 1)
ราว ค.ศ. 1134-1148 (ครั้งที่ 2)
ก่อนหน้ารังน์ฮิลด์แห่งเตลเย (ครั้งที่ 1)
รีเชซาแห่งโปแลนด์ (ครั้งที่ 2)
ถัดไปรีเชซาแห่งโปแลนด์ (ครั้งที่ 1 และ 2)
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก
ครองราชย์ราว ค.ศ. 1130–1134
ก่อนหน้ามาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลาแห่งสวีเดน
ถัดไปมาล์มเฟรดแห่งเคียฟ
ประสูติราว ค.ศ. 1095
นอร์เวย์
สวรรคตราว ค.ศ. 1148
(พระชนมายุราว 53 พรรษา)
สวีเดน
คู่อภิเษกพระเจ้าอิงเงอที่ 2 แห่งสวีเดน
พระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก
พระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน
พระราชบุตรทั้งหมดประสูติแต่พระเจ้าสแวร์เกอร์:
พระนามเต็ม
อูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์ ท็อตตา
ราชวงศ์ตระกูลท็อตตา
พระราชบิดาโฮกุน ฟินน์สัน ท็อตตา
พระราชมารดาไม่ปรากฎนาม
ศาสนาโรมันคาทอลิก

อูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์ (สวีดิช: Ulfhild, อังกฤษ: Wulfhild, Wolfhild) (ราวค.ศ. 1095 - ราวค.ศ. 1145) ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน 2 ครั้ง (ราว ค.ศ. 1117 - 1125 และราว ค.ศ. 1134 - 1148) และทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก (ราว ค.ศ. 1130 - 1134) จากการอภิเษกสมรสกับพระเจ้าอิงเงอที่ 2 แห่งสวีเดน, พระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก และพระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน พระราชินีอูล์ฟฮิลด์ทรงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงราชวงศ์นอร์ดิกในช่วงพระชนม์ชีพของพระนาง แต่ก็ไม่มีแหล่งข้อมูลที่เพียงพอที่มีการอธิบายบทบาทของพระนางโดยละเอียด พระนางทรงถูกบรรยายว่าเป็น เฟมเมอฟาตาล (สตรีอันตราย) ในสแกนดิเนเวียสมัยกลาง และยังทรงเป็นผู้อุปถัมภ์คริสตจักรคาทอลิกด้วย

ช่วงต้นพระชนม์ชีพ[แก้]

อูล์ฟฮิลด์มีชาติกำเนิดในนอร์เวย์ พงศาวดารชาวนอร์สชื่อ ฟากร์สกินนา ได้ระบุว่าพระนางเป็นธิดาของขุนนางชาวนอร์เวย์ชื่อ โฮกุน ฟินน์สัน จากตระกูลท็อตตา ชื่อของมารดาของพระนางไม่ถูกเปิดเผยมานานกว่าหลายศตวรรษ ในสมัยใหม่ มีการเสนอว่า มารดาของพระนางอาจจะเป็นอดีตพระราชินีนอร์เวย์และสวีเดนที่ชื่อว่่า พระราชินีมาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลา พระราชธิดาในพระเจ้าอิงเงอที่ 1 แห่งสวีเดน[1] แต่ข้อสมมติฐานนี้ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้

สมเด็จพระราชินี[แก้]

อูล์ฟฮิลด์อภิเษกสมรสครั้งแรกกับพระเจ้าอิงเงอที่ 2 แห่งสวีเดน ราวปีค.ศ. 1116/17 ทั้งสองพระองค์ไม่ทรงมีทายาทด้วยกัน สวีเดนมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์สองพระองค์ กษัตริย์อิงเงอที่ 2 เป็นยุวกษัตริย์ แต่เมื่อพระเจ้าฟิลิปแห่งสวีเดน พระเชษฐาเสด็จสวรรคตในปีค.ศ. 1118 อย่างเป็นปริศนา ทำให้กษัตริย์อิงเงอร์กลายเป็นพระมหากษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว พงศาวดารสั้นในเวตเกิตทาลาเกิน ระบุว่า กษัตริย์อิงเงอร์เสด็จสวรรคตหลังจากทรงเสวย เครื่องดื่มแห่งความชั่วร้าย ในเอิสเตร์เยิตลันด์ บ้างก็ว่าทรงถูกลอบปลงพระชนม์ในอารามวเรตา ไม่ทราบปีที่แน่ชัด แต่ไม่เกินปีค.ศ. 1129[2] นักเขียน โอเก โอห์ลมาร์ค คาดการณ์ว่า สมเด็จพระราชินีอูล์ฟฮิลด์ทรงสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้ที่จะเป็นพระสวามีในอนาคต คือ ขุนนางชื่อ สแวร์เกอร์ และพระนางทรงบัญชาให้สแวร์เกอร์วางยาพิษกษัตริย์อิงเงอร์[3]

บางทีหลังจากกษัตริย์อิงเงอสวรรคต สมเด็จพระพันปีหลวงอูล์ฟฮิลด์เสด็จไปยังเดนมาร์กมากกว่าที่จะเสด็จกลับนอร์เวย์ บ้านเกิด บางทีการที่พระนางทำเช่นนั้นเพื่อจะลี้ภัย ดูเหมือนว่าจะทรงมีญาติและพันธมิตรในเดนมาร์ก ในขณะที่ความวุ่นวายทางการเมืองได้สร้างความปั่นป่วนในสวีเดน[4] พระนางได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก หลังจากพระมเหสีพระองค์แรกคือ พระราชินีมาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลาสิ้นพระชนม์ ในราวปีค.ศ. 1130 การอภิเษกสมรสครั้งนี้ ช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่พระโอรสของกษัตริย์นีลส์ได้เป็นพระมหากษัตริย์สวีเดนในพระนาม พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน แต่ถึงกระนั้นพระราชินีอูล์ฟฮิลด์ก็ทรงคะยั้นคะยอยุยงให้กษัตริย์มักนุส พระโอรสเลี้ยง ต่อต้านเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด ผู้เป็นพระญาติและเป็นศัตรูของกษัตริย์มักนุส[5] ในที่สุดเจ้าชายคนุตก็ทรงถูกสังหารโดยกษัตริย์มักนุสในปีค.ศ. 1131 สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นในเดนมาร์ก เมื่อกษัตริย์นีลส์และกษัตริย์มักนุสทรงต่อต้านเจ้าชายอีริค ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ ยิ่งกว่านั้น พระชนมชีพสมรสของพระนางก็ไม่ราบรื่น โดยกษัตริย์นีลส์ทรงมีพระชนมายุมากกว่าพระนางถึง 20 - 30 พรรษา นักพงศาวดารอย่าง แซ็กโซ แกรมมาติคัส ได้บรรยายถึงชีวิตครอบครัวช่วงนี้ว่า

"ในขณะที่ชาวสวีเดนเมื่อทราบว่า กษัตริย์มักนุสกำลังทรงวุ่นวายอยู่ในเดนมาร์ก พวกเขาจึงเชิดชูขุนนางร่วมชาติอย่าง สแวร์เกอร์ ที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อย ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ แต่ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในตัวของพระองค์ พวกเขาเพียงแค่ไม่ยอมรับชาวต่างชาติเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาเคยชินกับการมีหัวหน้าเป็นของตัวเอง พวกเขาจึงไม่อาจยอมรับชาวต่างชาติเป็นหัวหน้าได้ กษัตริย์นีลส์อภิเษกสมรสกับอูล์ฟฮิลด์จากนอร์เวย์หลังการสิ้นพระชนม์ของพระราชินีมาร์กาเรธา กษัตริย์สแวร์เกอร์เดินทางไปพบพระราชินีอูล์ฟฮิลด์และขอความรักจากพระนาง หลังจากนั้นไม่นานพระองค์ก็ลอบพาพระนางออกจากพระสวามี และอภิเษกสมรสกัน พระองค์เรียกนางหญิงชู้คนนี้ว่าเป็นพระมเหสี แต่อภิเษกสมรสกันแบบผิดผี พระองค์มีพระโอรสหนึ่งพระองค์คือ คาร์ล ผู้ซึ่งต่อมาเป็นพระมหากษัตริย์ต่อจากพระองค์"[6]

เหตุการณ์นี้ไม่ได้ลงวันที่ไว้ แต่คาดว่าเกิดในระหว่างปีค.ศ. 1132 และ 1134 เรื่องราวการลอบหลบหนีที่น่าสงสัยนี้อธิบายได้ด้วยสถานะของพระนางอูล์ฟฮิลด์ ในฐานะเป็นสมเด็จพระพันปีหลวงที่ตกพุ่มหม้ายของกษัตริย์อิงเงอที่ 2 พระนางจึงเป็นผู้ครอบครองที่ดินและอิทธิพลของราชวงศ์สเตนคิลที่สูญสิ้นแล้ว การอภิเษกสมรสกับพระนางอูล์ฟฮิลด์ ทำให้การครองราชย์ของกษัตริย์สแวร์เกอร์ที่ไม่ได้มีชาติกำเนิดเป็นเชื้อพระวงศ์ได้รับความชอบธรรม ในตอนนี้พระโอรสเลี้ยงของพระนางคือ กษัตริย์มักนุสได้ถูกขับไล่ออกจากสวีเดน เท่าที่ทราบคือไม่มีการคัดค้านใดๆ (นอกจากงานเขียนของแซ็กโซบางส่วน) ต่อการอภิเษกสมรสครั้งที่สามของพระนาง หรือ ความชอบธรรมในราชบัลลังก์ของเหล่าโอรสธิดาของพระนาง ในทางกลับกัน พระราชินีอูล์ฟฮิลด์ได้รับการยกย่องจากหลักฐานบางแหล่งว่าเป็นผู้อุปถัมภ์คริสต์ศาสนา พระนางอูล์ฟฮิลด์ทรงริเริ่มคณะซิสเตอร์เชียน และทรงจัดตั้งอารามอัลวาสตราและอารามนูดาลาในปีค.ศ. 1143[7] นอกจากนี้อารามอัลวาสตรายังก่อตั้งขึ้นบนที่ดินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของของกำนัลที่กษัตริย์สแวร์เกอร์พระราชทานให้พระราชินีอูล์ฟฮิลด์[8]

หลังจากทรงเป็นสมเด็จพระราชินีมาอย่างน้อยสิบปี สมเด็จพระราชินีอูล์ฟฮิลด์สิ้นพระชนม์ในช่วงระหว่างปีค.ศ. 1143 และ 1150 กษัตริย์สแวร์เกอร์อภิเษกสมรสครั้งที่สองกับเจ้าหญิงรีเชซาแห่งโปแลนด์ พระมเหสีม่ายในกษัตริย์มักนุสแห่งสวีเดน ซึ่งเป็นอดีตศัตรูของกษัตริย์สแวร์เกอร์ การอภิเษกสมรสครั้งนี้ก็เป็นเรื่องการเมืองด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจมีเป้าหมายเพื่อชักจูงกลุ่มพรรคพวกสุดท้ายของอดีตกษัตริย์มักนุสให้มาสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์สแวร์เกอร์[9]

พระโอรสธิดา[แก้]

พระนางอูล์ฟฮิลด์อภิเษกสมรสสามครั้ง ครั้งแรกคือ กษัตริย์อิงเงอที่ 2 แห่งสวีเดน ในราวปีค.ศ. 1117 ครั้งที่สองคือ กษัตริย์นีลส์แห่งเดนมาร์ก ในราวปีค.ศ. 1130 และครั้งที่สามคือ กษัตริย์สแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน ในราวปีค.ศ. 1134 ทรงมีพระราชโอรสสองพระองค์และพระราชธิดาสองพระองค์ ทั้งหมดประสูติแต่กษัตริย์สแวร์เกอร์

นักพงศาวลีวิทยาบางคนเชื่อว่าพระนางอูล์ฟฮิลด์เป็นพระมารดาใน ซูเน ซิค พระโอรสองค์สุดท้องในกษัตริย์สแวร์เกอร์ และเป็นบิดาในอิงกริด อีลวา แต่ยังเป็นที่ถกเถียง

อ้างอิง[แก้]

  1. Adolf Schück, "Drottning Ulvhilds härkomst", Personhistorisk tidskrift, 1953, pp. 29-30. http://personhistoriskasamfundet.org/1950-1970/
  2. Peter Sawyer. När Sverige blev Sverige. Alingsås: Viktoria, 1991, pp. 38-9.
  3. Åke Ohlmarks, Alla Sveriges kungar. Stockholm; Gebers, 1972, p. 36.
  4. Dick Harrison, Sveriges historia 600-1350. Stockholm: Norstedts, 2009, p. 210.
  5. Adolf Schück, "Drottning Ulvhilds härkomst", Personhistorisk tidskrift, 1953, p. 27. http://personhistoriskasamfundet.org/1950-1970/
  6. Saxo Grammaticus, Danmarks krønike. København; Asschenfeldt's Stjernebøger, 1985, II, pp. 81.
  7. Sven Tunberg, Sveriges historia till våra dagar. Andra delen. Äldre medeltiden. Stockholm: P.A. Norstedt & Söners Förlag, 1926, p. 41; Dick Harrison, Sveriges historia 600-1350. Stockholm: Norstedts, 2009, p. 174.
  8. Sven Tunberg, Sveriges historia till våra dagar. Andra delen. Äldre medeltiden. Stockholm: P.A. Norstedt & Söners Förlag, 1926, p. 41.
  9. Sawyer, Peter. När Sverige blev Sverige. Alingsås: Viktoria, 1991, p. 42.
  • Sven Tunberg, "Ulfhild", in Nordisk Familjebok, 2nd Edition, [1]
  • Lars O. Lagerqvist (1982). "Sverige och dess regenter under 1.000 år",("Sweden and its rulers during 1000 years") (ภาษาสวีเดน). Albert Bonniers Förlag AB. ISBN 91-0-075007-7.
  • Gunnar Hedin, Sveriges kungar och drottningar under 1000 år (The kings and Queens of Sweden during 1000 years) (In Swedish). Borås: Företagsgruppen, 2002 (ISBN 91-631-2020-8).


ก่อนหน้า อูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์ ถัดไป
รังน์ฮิลด์แห่งเตลเย
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน
ครั้งที่ 1

(ราว ค.ศ. 1117–1125)
รีเชซาแห่งโปแลนด์
รีเชซาแห่งโปแลนด์
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน
ครั้งที่ 2

(ราว ค.ศ. 1134–1148)


มาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลาแห่งสวีเดน
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก
(ราว ค.ศ. 1130–1134)
มาล์มเฟรดแห่งเคียฟ