ข้ามไปเนื้อหา

อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชาวสะมาเรียใจดี โดยยาโกบ ยอร์ดานส์, ป. ค.ศ. 1616

อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี (อังกฤษ: Parable of the Good Samaritan) เป็นอุปมาของพระเยซูที่ปรากฏในพระวรสารนักบุญลูกา[1] เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักเดินทาง (โดยนัยแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นชาวยิว) ผู้ถูกโจรแย่งชิงเสื้อผ้า ถูกทุบตี และถูกทิ้งไว้ข้างทางในสภาพเกือบตาย มีปุโรหิตและจากนั้นก็มีชาวเลวีเดินผ่านมา ทั้งคู่เพิกเฉยต่อชายนักเดินทางผู้นั้น ต่อมามีชาวสะมาเรียผ่านมาพบนักเดินทาง แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วชาวสะมาเรียและชาวยิวไม่ถูกกัน แต่ชาวสะมาเรียคนนี้ก็เข้าไปช่วยเหลือนักเดินทาง พระเยซูทรงเล่าอุปมานี้เพื่อตอบคำถามที่ท้าทายจากผู้เชี่ยวชาญบัญญัติในบริบทของบัญญัติเอกว่า "ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า?" สรุปได้ว่าบุคคลที่เป็นเพื่อนบ้านในอุปมาเรื่องนี้คือผู้ที่แสดงความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

คริสต์ศาสนิกชนบางส่วน เช่น ออกัสตินแห่งฮิปโป ได้ตีความอุปมาเรื่องนี้ในเชิงอุปมานิทัศน์ โดยให้ชาวสะมาเรียเป็นตัวแทนของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงช่วยเหลือวิญญาณบาป[2] คนอื่น ๆ ถือว่าอุปมานิทัศน์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับความหมายดั้งเดิมของอุปมา[2] และมองว่าอุปมาเรื่องนี้เป็นตัวอย่างอธิบายหลักจริยธรรมของพระเยซู[3]

อุปมาเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงานจิตรกรรม ประติมากรรม งานเสียดสี บทกวี ภาพถ่าย ภาพยนตร์ และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก วลี "ชาวสะมาเรียใจดี" (Good Samaritan) ซึ่งหมายถึงผู้ที่ช่วยเหลือคนแปลกหน้า มีที่มาจากอุปมาเรื่องนี้ โรงพยาบาลและองค์กรการกุศลหลายแห่งก็ตั้งชื่อตามชาวสะมาเรียใจดี

เรื่องเล่า

[แก้]

ในพระวรสารนักบุญลูกาบทที่ 10 อุปมาเรื่องนี้ถูกเล่าขึ้นมาโดยมีที่มาจากคำถามเกี่ยวกับบัญญัติเอก:

มีผู้เชี่ยวชาญบัญญัติคนหนึ่งยืนขึ้นทดสอบพระองค์ ทูลถามว่า "ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร์?"

พระองค์ตรัสตอบว่า "ในธรรมบัญญัติเขียนว่าอย่างไร? ท่านอ่านแล้วเข้าใจอย่างไร?"

เขาทูลตอบว่า "พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน ด้วยสุดกำลังของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง"

พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "ท่านตอบถูกแล้ว จงไปทำอย่างนั้นแล้วจะได้ชีวิต"

แต่คนนั้นต้องการจะรักษาหน้า จึงทูลพระเยซูว่า "ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า?"

พระเยซูทรงตอบด้วยเรื่องราวอุปมา:

พระเยซูตรัสตอบว่า "มีชายคนหนึ่งลงจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค และเขาถูกพวกโจรปล้น พวกโจรแย่งชิงเสื้อผ้าของเขา ทุบตีเขา แล้วทิ้งเขาไว้ในสภาพที่เกือบจะตายแล้ว เผอิญมีปุโรหิตคนหนึ่งเดินมาตามทางนั้น เมื่อเห็นคนนั้นแล้วก็เดินเลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง คนเลวีก็เหมือนกัน เมื่อมาถึงที่นั่นและเห็นแล้วก็เลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง แต่เมื่อชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้คนนั้น เห็นแล้วก็มีใจสงสาร จึงเข้าไปหาเขา เอาเหล้าองุ่นกับน้ำมันเทใส่บาดแผลและเอาผ้ามาพันให้ แล้วให้เขาขึ้นขี่สัตว์ของตนเองพามาถึงโรงแรม และดูแลรักษาพยาบาลเขา วันรุ่งขึ้นก่อนจะไป เขาเอาเงินสองเดนาริอันให้กับเจ้าของโรงแรม บอกว่า 'ช่วยรักษาเขาด้วย สำหรับเงินที่ต้องเสียเกินกว่านี้จะใช้ให้เมื่อกลับมา' ท่านเห็นว่าในสามคนนั้นคนไหนถือได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านของคนที่ถูกปล้น?"

เขาทูลตอบว่า "คือคนนั้นแหละที่แสดงความเมตตาต่อเขา"

พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น"

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

บรรณานุกรม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]