อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โทรอนโต
| อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โทรอนโต | |||
|---|---|---|---|
| สมาคม | ดับเบิลยูดับเบิลยูอี | ||
| ค่าย | รอว์ สแมคดาวน์ | ||
| วันที่ | 1 มีนาคม ค.ศ. 2025 | ||
| เมือง | โทรอนโต, ออนแทรีโอ, แคนาดา | ||
| สถานที่ | รอเจอส์เซนเตอร์ | ||
| ผู้ชม | 38,493[1] | ||
| ลำดับเหตุการณ์ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์ค | |||
| |||
| ลำดับเหตุการณ์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ | |||
| |||
| ลำดับเหตุการณ์WWE in Canada | |||
| |||
อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โทรอนโต (หรือในเยอรมนีเรียกว่า โน เอสเคป: โทรอนโต) เป็นศึกมวยปล้ำอาชีพปี 2025 ที่จัดโดยดับเบิลยูดับเบิลยูอี เป็นศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ครั้งที่ 15 และจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2025 ที่รอเจอส์เซนเตอร์ ในโทรอนโต รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ศึกนี้ออกอากาศผ่านระบบจ่ายต่อการรับชม (PPV) และการถ่ายทอดสด และมีนักมวยปล้ำจากรอว์และสแมคดาวน์เข้าร่วม ศึกนี้มีรูปแบบอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ซึ่งเป็นแมทช์กรงเหล็กแบบหลายผู้เข้าแข่งขันเพื่อชิงแชมป์หรือโอกาสในการชิงแชมป์
ศึกนี้ประกอบด้วยแมทช์ทั้งหมด 4 แมทช์รวมถึงแมทช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ 2 แมทช์สำหรับผู้ชายและผู้หญิง คู่เอกคือการแข่งขันฝ่ายชายซึ่งจอห์น ซีนาเป็นผู้ชนะและได้สิทธิ์ไปชิงแชมป์ Undisputed WWE Championship ของสแมคดาวน์ในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 41 ในขณะที่การแข่งขันฝ่ายหญิงซึ่งเป็นการแข่งขันเปิดสนามนั้น บิแอนกา บีแลร์จากสแมคดาวน์เป็นผู้ชนะและได้สิทธิ์ไปชิงแชมป์โลกหญิงของรอว์ในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 41 ในแมทช์สำคัญอีกแมทช์หนึ่ง เควิน โอเวนส์เอาชนะแซมี เซย์นในแมทช์แบบ Unsanctioned match ศึกดังกล่าวได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของแรนดี ออร์ตันและเจด คาร์กิลล์ นอกจากนั้นยังถือเป็นการปล้ำครั้งสุดท้ายของซีนาในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์เนื่องจากการเลิกปล้ำมวยปล้ำอาชีพในช่วงปลายปี ค.ศ. 2025 และการเปลี่ยนเป็นฝ่ายอธรรมของเขา
นี่เป็นศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ครั้งแรกในโทรอนโต และเป็นศึกใหญ่ศึกแรกของดับเบิลยูดับเบิลยูอีที่จัดขึ้นที่สถานที่นี้นับตั้งแต่เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 18 นอกจากนี้ยังเป็นศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ครั้งที่ 2 ในแคนาดา หลังจากอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2023) และเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันที่จัดขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นเพย์ เพอร์ วิวแรกที่ไม่มีการป้องกันแชมป์นับตั้งแต่เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2021)
การผลิต
[แก้]
ปูมหลัง
[แก้]อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์เป็นศึกมวยปล้ำอาชีพที่จัดโดยดับเบิลยูดับเบิลยูอีเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2010 ได้มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมายกเว้นในปี ค.ศ. 2016 โดยทั่วไปจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ แนวคิดของศึกนี้คือการปล้ำแมทช์หลักหนึ่งหรือสองแมทช์ภายในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ซึ่งเป็นการปล้ำแบบคัดออกในกรงเหล็กโดยมีการชิงแชมป์หรือโอกาสในการชิงแชมป์เป็นเดิมพัน[2]
มีประกาศเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2024 ว่าศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ครั้งที่ 15 ซึ่งมีชื่อว่า อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โทรอนโต มีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2025 ที่รอเจอส์เซนเตอร์ ในโทรอนโต รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา และมีนักมวยปล้ำจากรอว์และสแมคดาวน์เข้าร่วม[3] ถือเป็นศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นในแคนาดาต่อจากอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2023) และเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันที่จัดขึ้นนอกสหรัฐอเมริกาต่อจากในปี 2022, 2023 และ 2024 ที่จัดขึ้นในซาอุดีอาระเบีย แคนาดา (มอนทรีออล) และออสเตรเลียตามลำดับ ถือเป็นศึกแรกของดับเบิลยูดับเบิลยูอีที่จัดขึ้นที่รอเจอส์เซนเตอร์นับตั้งแต่เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 18 ในปี ค.ศ. 2002 ในสมัยที่สนามกีฬาแห่งนี้ยังคงรู้จักกันในชื่อสกายโดม นอกจากนี้ยังเป็นศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ครั้งที่ 2 ที่มีชื่อตามเมืองเจ้าภาพ และจัดขึ้นในสนามกลางแจ้ง[4][5]
ศึกนี้ออกอากาศในรูปแบบเพย์เพอร์วิวทั่วโลก และถ่ายทอดสดทางพีค็อกในสหรัฐอเมริกา เน็ตฟลิกซ์ในตลาดต่างประเทศ และดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์คในประเทศที่เหลือที่ยังไม่ได้โอนไปยังเน็ตฟลิกซ์เนื่องด้วยสัญญาที่มีอยู่ก่อน ถือเป็นอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ครั้งแรกที่ถ่ายทอดสดบนเน็ตฟลิกซ์ หลังจากการควบรวมกิจการของดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์คเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2025 รอเจอส์คอมมิวนิเคชั่นส์ซึ่งเป็นเจ้าของรอเจอส์เซนเตอร์ เป็นหุ้นส่วนระยะยาวของดับเบิลยูดับเบิลยูอีและบริษัทแม่อย่างทีเคโอ กรุป โฮลดิงส์ โดยเป็นหุ้นส่วนการออกอากาศดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์คในแคนาดาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 ถึงปี ค.ศ. 2024 และยังคงเป็นหุ้นส่วนการออกอากาศอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ (UFC) ผู้จัดศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทีเคโอในแคนาดา[6][7][8] เพลงประจำศึกอย่างเป็นทางการคือเพลง " New Way Out " ของ Poppy[9]
ในปี ค.ศ. 2011 จนถึงปี ค.ศ. 2013 ศึกนี้ได้รับการโปรโมทในชื่อ "No Escape" ในเยอรมนีเนื่องจากเกรงว่าชื่อ "อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์" อาจทำให้ผู้คนนึกถึงห้องรมแก๊สที่ใช้ในฮอโลคอสต์[10] [11]
เนื้อเรื่อง
[แก้]ศึกนี้ประกอบด้วยการปล้ำจำนวน 4 แมทช์ที่เกิดขึ้นจากเนื้อเรื่องที่ถูกเขียนสคริปต์ไว้ ผลลัพธ์นั้นถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยนักเขียนของดับเบิลยูดับเบิลยูอีในศึกรอว์และสแมคดาวน์[12][13] ในขณะที่เนื้อเรื่องนั้นถูกผลิตขึ้นในรายการโทรทัศน์ประจำสัปดาห์ของดับเบิลยูดับเบิลยูอีได้แก่ ดับเบิลยูดับเบิลยูอี รอว์ และ ดับเบิลยูดับเบิลยูอี สแมคดาวน์[14]
ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์ (2024) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ 2024 จอห์น ซีนาได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาจะเลิกปล้ำมวยปล้ำอาชีพในช่วงปลายปี ค.ศ. 2025 หลังจากที่ได้ปล้ำให้กับ ดับเบิลยูดับเบิลยูอีตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 (แม้ว่าจะปล้ำแบบพาร์ทไทม์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018) ซีนายังกล่าวอีกว่าเขาจะปล้ำในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ซึ่งจะเป็นอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ครั้งสุดท้ายของเขา[15] หลังจากที่แพ้ในรอยัลรัมเบิล (2025) ในช่วงหลังการแสดง ซีนาประกาศว่าเขาจะปล้ำในแมทช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ของฝ่ายชายเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะมีโอกาสชิงแชมป์โลกเป็นคู่เอกของเรสเซิลเมเนีย วันต่อมา อดัม เพียร์ซ ผู้จัดการทั่วไปของรอว์ประกาศว่าแมทช์คัดเลือกจะเริ่มขึ้นในคืนถัดไปในรอว์[16] ซีเอ็มพังก์คว้าชัยชนะในรอบคัดเลือกรอบแรกด้วยการเอาชนะแซมี เซย์น[17] ตำแหน่งที่สามได้รับการตัดสินในสแม็คดาวน์วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งดรูว์ แม็กอินไทร์เอาชนะจิมมี อูโซและแอลเอ ไนท์ในแมทช์สามเส้า[18] ตำแหน่งที่สี่ถูกกำหนดในรอว์เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ซึ่งโลแกน พอลเอาชนะเรย์ มิสเตริโอไปได้[19] ตำแหน่งที่ห้าถูกกำหนดในสแม็คดาวน์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยเป็นแมทช์สามเส้าอีกครั้งซึ่งแดเมียน พรีสต์เอาชนะบรอน สโตรว์แมนและเจคอบ ฟาตู[20] ในขณะที่ตำแหน่งสุดท้ายถูกกำหนดในรอว์วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งเซธ รอลลินส์เอาชนะฟินน์ บาเลอร์ไปได้[21] เนื่องจากผู้ชนะรอยัลรัมเบิลอย่างเจย์ อูโซเลือกที่จะท้าทายกุนเธอร์เพื่อชิงแชมป์เวิลด์เฮวีเวตแชมเปียนชิปของรอว์ในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 41 จึงยืนยันได้ว่าผู้ชนะการแข่งขันอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ของฝ่ายชายจะได้ท้าทายโคดี โรดส์เพื่อชิงแชมป์ Undisputed WWE Championship ของสแม็คดาวน์ในศึกเรสเซิลเมเนีย[19]
การแข่งขันรอบคัดเลือกสำหรับแมทช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ฝ่ายหญิงก็เริ่มขึ้นในรอว์วันที่ 3 กุมภาพันธ์เช่นกัน ลิฟ มอร์แกนคว้าชัยชนะในรอบคัดเลือกรอบแรกด้วยการเอาชนะอิโยะ สกายหลังจากถูกตัดสิทธิ์ จากการแทรกแซงของรีอา ริปลีย์ แชมป์โลกหญิง[17] ตำแหน่งที่สองและสามได้รับการตัดสินในสแม็คดาวน์วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งบิแอนกา บีแลร์และอเล็กซา บลิสเอาชนะไพเพอร์ นิเวนและแคนดิซ เลอเรย์ตามลำดับ[18] ตำแหน่งที่สี่ถูกกำหนดในรอว์วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งเบย์ลีย์เอาชนะไลรา วัลคีเรียไปได้[19] ตำแหน่งที่ห้าได้รับการตัดสินในสแม็คดาวน์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเนโอมีเอาชนะเชลซี กรีน[20] ในขณะที่ตำแหน่งสุดท้ายได้รับการตัดสินในรอว์วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งร็อกแซนน์ เปเรซจาก เอ็นเอ็กซ์ทีเอาชนะราเคล รอดริเกซได้[21] เนื่องจากผู้ชนะรอยัลรัมเบิลอย่างชาร์ลอตต์ แฟลร์เลือกที่จะท้าทายทิฟฟานี สตราตตันเพื่อชิงแชมป์ WWE Women's Championship ของสแม็คดาวน์ในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 41 จึงยืนยันได้ว่าผู้ชนะอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ของฝ่ายหญิงจะได้ท้าชิงแชมป์ Women's World Championship ของรอว์[a]ในศึกเรสเซิลเมเนีย[20]
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2024 ทิฟฟานี่ สตราตตันและไนอา แจ็กซ์ได้ก่อตั้งตั้งทีมแท็กทีม[22] ในช่วงเวลานี้ สตราตตันชนะแมตช์ มันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ในศึกที่มีชื่อเดียวกันในเดือนกรกฎาคม[23] ขณะที่แม็กซ์คว้าแชมป์ WWE Women's Championship ใน ซัมเมอร์สแลมในเดือนสิงหาคม[24] ในเดือนตุลาคม แจ็กซ์ยังได้ร่วมทีมแท็กทีมกับแคนดิซ เลอเรย์อีกด้วย หลังจากท้าทายกันมาหลายเดือน ในที่สุด สตราตตันก็หันหลังให้แจ็กซ์ และประสบความสำเร็จใน การใช้กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ ในสแม็คดาวน์เมื่อวันที่ 3 มกราคม จนคว้าแชมป์ WWE Women's Championship มาครองได้[25] ในศึกรอยัลรัมเบิลเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทริส สตราตัส WWE Hall of Famer ได้เข้าร่วมแมตช์ชื่อเดียวกันเป็นคนที่ 25 และกำจัดเลอเรย์ออกไป แต่แจ็กซ์ก็สามารถกำจัดสตราตัสออกไปได้[26] ในสแม็คดาวน์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แจ็กซ์รีแมตช์เพื่อชิงแชมป์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การปล้ำครั้งนี้จบลงด้วยสตราตตันชนะฟาวล์ ในจังหวะที่เลอเรย์โจมตีสตราตตัน หลังจากการปล้ำ แจ็กซ์และเลอเรย์ยังคงโจมตีสตราตตันต่อไป ทำให้สตราตัสซึ่งอยู่ในฝูงชนเข้ามาช่วยเหลือสตราตตัน จากนั้น สตราตัสเสนอให้ร่วมทีมกับสตราตตันในศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โทรอนโต และแมทช์แท็กทีมระหว่างสตราตัสและสตราตตันกับแจ็กซ์และเลอเรย์ก็ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา[20]
ในรอว์วันที่ 20 มกราคม แซมี เซย์น พูดถึงความหวังของเขาที่จะชนะแมตช์รอยัลรัมเบิลก่อนที่เขาจะถูกขัดจังหวะโดยเควิน โอเวนส์เพื่อนเก่าแก่ของเขา โอเวนส์กล่าวว่าเขารู้ว่าเซย์นสามารถชนะแมตช์รอยัลรัมเบิลได้เพราะเขาจะคอยหนุนหลังเซย์น เหมือนกับที่โอเวนส์รู้ว่าเซย์นจะคอยหนุนหลังเขาในแลดเดอร์แมทช์ที่โอเวนส์จะพบกับโคดี โรดส์ เพื่อชิงแชมป์ Undisputed WWE Championship ในรอยัลรัมเบิลเช่นกัน[27] ในศึกดังกล่าว โอเวนส์แพ้ให้กับโรดส์ อย่างไรก็ตามในระหว่างการปล้ำ เซย์นปรากฏตัวที่ข้างเวที แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการปล้ำเลย นอกจากนี้ เซย์นยังไม่ชนะการแข่งขันรอยัลรัมเบิลอีกด้วย[26] จากนั้น เซย์นก็ไม่สามารถผ่านการคัดเลือกเข้าปล้ำในแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ในรอว์วันถัดมาได้ หลังจากการปล้ำรอบคัดเลือก โอเวนส์ได้โจมตีเซย์นอย่างรุนแรงด้วยท่า package piledriver ส่งผลให้คอของเซย์นได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง (ในบท) และต้องหยุดพักอย่างไม่มีกำหนด [17] ในข้อความวิดีโอที่โพสต์บน X เซย์นได้ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเขาและประกาศว่าเมื่อเขาได้รับการอนุญาตจากแพทย์ให้ปล้ำได้ เขาจะกลับมา[28] นอกจากนี้ โอเวนส์ยังท้าให้เซย์โนไปเจอกันในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์โดยไม่คำนึงว่าเซย์นจะหายจากอาการบาดเจ็บหรือไม่[29] ในรอว์วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เซย์นยอมรับคำท้าของโอเวนส์ อย่างไรก็ตาม อดัม เพียร์ซผู้จัดการทั่วไปของรอว์ปฏิเสธที่จะให้ปล้ำ เนื่องจากเซย์นยังคงไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์ เซย์นปฏิเสธที่จะลงจากเวทีจนกระทั่งเพียร์ซประกาศให้เจอกัน ดังนั้น การเจอกันระหว่างโอเวนส์กับเซย์นในบ้านเกิดของพวกเขาที่แคนาดาจึงถูกกำหนดขึ้นที่อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โตรอนโต[21]
ในสแม็คดาวน์วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ดเวย์น "เดอะร็อค" จอห์นสัน บอร์ดบริหารของทีเคโอได้ปรากฏตัวเป็นพิเศษโดยเรียกแชมป์ Undisputed WWE Champions อย่างโคดี โรดส์ออกมา ร็อกกล่าวว่าแม้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากันในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 40 เมื่อปีก่อน แต่ตั้งแต่นั้นพวกเขาก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน แม้ว่าร็อคจะยกย่องโรดส์ว่าเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นแชมป์ของประชาชน แต่เขาก็ต้องการให้โรดส์เป็นแชมป์ของเขา ร็อคอ้างว่าเขาสามารถยกระดับอาชีพของโรดส์ให้สูงขึ้นได้และสามารถทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับโรดส์ และเขาจะปรากฏตัวที่อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โทรอนโต เพื่อรอฟังคำตอบของโรดส์[30]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ผู้ชนะจะต้องเผชิญหน้ากับรีอา ริปลีย์หรืออิโยะ สกายในศึกเรสเซิลเมเนียซึ่งริปลีย์จะต้องป้องกันแชมป์กับสกายในรอว์วันที่ 3 มีนาคม
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Keller, Wade (March 1, 2025). "WWE Elimination Chambe results (3/1): Keller's report on Men's and Women's Chamber matches, Sami Zayn vs. Kevin Owens, Cody Rhodes answering Rock's offer, more". PWTorch. สืบค้นเมื่อ March 1, 2025.
- ↑ "Elimination Chamber Match rules". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 8, 2011. สืบค้นเมื่อ February 2, 2010.
- ↑ Thomas, Jeremy (November 8, 2024). "WWE Elimination Chamber 2025 Announced For Toronto". 411Mania. สืบค้นเมื่อ November 8, 2024.
- ↑ Lambert, Jeremy (September 21, 2023). "WWE Elimination Chamber 2024 To Take Place At Optus Stadium In Perth, Western Australia On 2/24". Fightful. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2023. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ Zimmerman, Josh; May, Rebecca Le (September 21, 2023). "WWE Elimination Chamber in Perth: Roger Cook, Rita Saffioti confirm wrestling event at Optus Stadium in 2024". Perth Now. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 27, 2023. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ Nowak, Peter (2014-08-01). "Working from NHL playbook, Rogers locks down 10-year cable deal with WWE wrestling". Canadian Business Captured by: Wayback Machine (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-10.
- ↑ Rogers Media. "Are WWE pay-per-views included in Sportsnet+?". Sportsnet+ Support. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-11-12. สืบค้นเมื่อ November 6, 2024.
Please note that WWE content will no longer be available on Sportsnet as of January 1, 2025. The WWE Network x Sportsnet+ pass will no longer be available for purchase beginning December 2, 2024.
- ↑ "UFC returning to Sportsnet with multi-year deal starting in 2024". Sportsnet.ca. November 8, 2023. สืบค้นเมื่อ November 6, 2024.
- ↑ Homeyer, Seneca (February 10, 2025). "Poppy's "New Way Out" Chosen As Official Theme For WWE's 'Elimination Chamber'". The Mosh. สืบค้นเมื่อ 22 February 2025.
- ↑ "WWE No Escape". WWE (ภาษาเยอรมัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 8, 2017. สืบค้นเมื่อ January 30, 2018.
- ↑ Hoffmann, Martin (February 20, 2018). "Darum hat eine WWE-Show zwei Namen" [This is why a WWE show has two names]. Sport1 (ภาษาเยอรมัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 25, 2018. สืบค้นเมื่อ February 24, 2018.
- ↑ Grabianowski, Ed (January 13, 2006). "How Pro Wrestling Works". HowStuffWorks. Discovery Communications. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 29, 2013. สืบค้นเมื่อ March 5, 2012.
- ↑ "Live & Televised Entertainment". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 18, 2009. สืบค้นเมื่อ March 21, 2012.
- ↑ Steinberg, Brian (May 25, 2016). "WWE's 'Smackdown' Will Move To Live Broadcast On USA (Exclusive)". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 26, 2016. สืบค้นเมื่อ May 25, 2016.
- ↑ "John Cena announces that he will retire in 2025". WWE. July 6, 2024. สืบค้นเมื่อ July 12, 2024.
- ↑ Defelice, Robert (February 2, 2025). "Jey Uso, Charlotte Flair, More Added To Monday's WWE Raw". Fightful. สืบค้นเมื่อ February 2, 2025.
- 1 2 3 Powell, Jason (February 3, 2025). "WWE Raw results (2/3): Powell's live review of Royal Rumble winners Jey Uso and Charlotte Flair appear, CM Punk vs. Sami Zayn, and Iyo Sky vs. Liv Morgan in Elimination Chamber qualifying matches". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 4, 2025.
- 1 2 Powell, Jason (February 7, 2025). "WWE Smackdown results (2/7): Powell's live review of Royal Rumble winners Jey Uso and Charlotte Flair's appearances, Elimination Chamber qualifying matches". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 7, 2025.
- 1 2 3 Powell, Jason (February 10, 2025). "WWE Raw results (2/10): Powell's live review of Logan Paul vs. Rey Mysterio and Lyra Valkyria vs. Bayley in Elimination Chamber qualifiers, CM Punk and AJ Styles appear". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 10, 2025.
- 1 2 3 4 Powell, Jason (February 14, 2025). "WWE Smackdown results (2/14): Powell's live review of Tiffany Stratton vs. Nia Jax for the WWE Women's Championship, Elimination Chamber qualifying matches". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 14, 2025.
- 1 2 3 Powell, Jason (February 17, 2025). "WWE Raw results (2/17): Powell's live review of Seth Rollins vs. Finn Balor and Roxanne Perez vs. Raquel Rodriguez in Elimination Chamber qualifiers, AJ Styles vs. Dominik Mysterio, Penta vs. Pete Dunne". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 17, 2025.
- ↑ Barnett, Jake (June 7, 2024). "WWE Friday Night Smackdown results (6/7): Barnett's review of Cody Rhodes and AJ Styles, Jade Cargill vs. Indi Hartwell, Johnny Gargano vs. Grayson Waller, Solo Sikoa anoints Tonga Loa". Pro Wrestling Dot Net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 8, 2024. สืบค้นเมื่อ October 30, 2024.
- ↑ Powell, Jason (July 6, 2024). "WWE Money in the Bank results: Powell's review of Damian Priest vs. Seth Rollins for the World Heavyweight Championship, two MITB ladder matches, Sami Zayn vs. Bron Breakker for the Intercontinental Title". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ July 6, 2024.
- ↑ Powell, Jason (August 3, 2024). "WWE SummerSlam results: Powell's review of Cody Rhodes vs. Solo Sikoa in a Bloodline Rules match for the WWE Championship, Damian Priest vs. Gunther for the World Heavyweight Championship". Pro Wrestling Dot Net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 4, 2024. สืบค้นเมื่อ August 3, 2024.
- ↑ Powell, Jason (January 3, 2025). "WWE Smackdown results (1/3): Powell's live review of Nia Jax vs. Naomi for the WWE Women's Championship, U.S. Champion Shinsuke Nakamura vs. Andrade in a non-title match". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ January 3, 2025.
- 1 2 Powell, Jason (February 1, 2025). "WWE Royal Rumble results: Powell's live review of the Royal Rumble matches, Cody Rhodes vs. Kevin Owens in a ladder match for the WWE Title, DIY vs. MCMG in a best of three falls match for the WWE Tag Titles". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 1, 2025.
- ↑ Powell, Jason (January 20, 2025). "WWE Raw results (1/20): Powell's live review of Seth Rollins vs. Drew McIntyre, Bayley vs. Nia Jax, Penta's second week, New Day's return to the ring, JBL's appearance". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 18, 2025.
- ↑ Lambert, Jeremy (February 14, 2025). "Sami Zayn Doesn't Know When He'll Be Cleared, 'When I Am, Me And Kevin Owens Will Go Again'". Fightful. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2025. สืบค้นเมื่อ February 18, 2025.
- ↑ Lambert, Jeremy (February 14, 2025). "Kevin Owens Challenges Sami Zayn To Find Him At WWE Elimination Chamber". Fightful. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2025. สืบค้นเมื่อ February 18, 2025.
- ↑ Lambert, Jeremy (February 21, 2025). "The Rock Wants Cody Rhodes To Be 'His Champion' And He Wants Cody's Soul". Fightful. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 22, 2025. สืบค้นเมื่อ February 21, 2025.