อินฟันตาเอวลาเลียแห่งสเปน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อูลาเลีย
อินฟันตาแห่งสเปน
ดัชเชสแห่งกัลลิเอรา
ประสูติ12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2407
กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน
สิ้นพระชนม์8 มีนาคม พ.ศ. 2501 (94 ปี)
สเปนภายใต้การนำของฟรังโก
พระสวามีอินฟันเตอันโตนิโอ ดยุกแห่งกัลลิเอรา
พระนามเต็ม
มาเรีย อูลาเลีย ฟรานซิสกา เด อซิส มาร์การิตา โรเบอร์ตา อิซาเบล ฟรานซิสกา เด พอลลา กรีสตินา มาเรีย เด ลา ปิแดด
พระบุตรอินฟันเตอังฟองซู ดยุกแห่งกัลลิเอรา
หลุยส์ เฟอร์นันโด เด ออร์เลอ็อง อี บูร์บง
ราชวงศ์ราชวงศ์บูร์บง
พระราชบิดาฟรานซิส ดยุกแห่งการ์ดิซ
พระราชมารดาสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปน

อินฟันตาอูลาเลียแห่งสเปน ดัชเชสแห่งกัลลิเอรา (อังกฤษ: Her Royal Highness Infanta Eulalia of Spain, Duchess of Galliera) ประสูติเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2407 เป็นพระราชธิดาพระองค์เล็กใน สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปน และ ฟรานซิส ดยุกแห่งการ์ดิซ เป็นพระน้องนางเธอใน พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 12 แห่งสเปน และ เป็นสมเด็จพระปิตุจฉา (อาหญิง) ใน พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปน พระองค์เป็นพระราชบุตรพระองค์สุดท้ายของสมเด็จพระบรมราชชนนีนาถและสมเด็จพระบรมชนก ที่มีพระชนม์ชีพยืนยาวที่สุด ก่อนสิ้นพระชนม์ลงเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2501 สิริพระชันษา 94 ปี ทรงมีพระบิดาและพระมารดาทูลหัวคือ โรเบิร์ตที่ 1 ดยุกแห่งปาร์มา และ เจ้าหญิงมาร์เกริตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา ในปี 2411 พระองค์และครอบครัวถูกบังคับให้ออกจากสเปนหลังจากการปฏิวัติ ทรงศัยอยู่ในปารีส ที่ซึ่งพระองค์ทรงได้รับการศึกษา และทรงได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกในกรุงโรมจากสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 9 ในปี พ.ศ. 2417 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 12 แห่งสเปน ซึ่งเป็นสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชของพระองค์ ถูกอัญเชิญขึ้นครองราชบัลลังก์ถัดจาก สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปน สามปีต่อมาพระองค์จึงได้นิวัติกลับไป สเปน ในตอนแรกทรงอาศัยอยู่ที่ เอลเอสโกเรียล ร่วมกับสมเด็จพระบรมราชชนนีนาถ แต่ภายหลังย้ายไปอยู่ที่ พระราชวัง Alcázar of Seville ก่อนจะเสด็จสู่ กรุงมาดริด

ตราอาร์มของพระองค์ในฐานะ เจ้าหญิงแห่งสเปน และ ดัชเชสแห่งกัลลิเอรา

เสกสมรสและเสด็จเยือนสหรัฐ[แก้]

พระองค์ทรงเสกสมรส เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2429 ที่ กรุงมาดริด กับ อินฟันเตอันโตนิโอ ดยุกแห่งกัลลิเอรา ซึ่งเป็นพระญาติร่วมราชวงศ์ โดยมี พระคาร์ดินัล เซเฟริโน กอนซาเลซ อี ดิอาซ ตูญอน อาร์ชบิชอปแห่งเซบียา โดยงานเสกสมรสล่าช้า เนื่องจากการสวรรคตลงของ พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 12 แห่งสเปน โดยทั้ง 2 ใช้เวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่พระราชวังอารังฆูเอซ โดยมีพระโอรส 2 พระองค์ คือ

โดยภายหลังพระองค์มีพระประสูติกาลพระโอรสพระองค์เล็กได้มินาน พระองค์และพระสวามีตัดสินพระทัยแยกกันอยู่ พระองค์ยังคงมีที่ประทับในสเปนและฝรั่งเศส และยังคงเสด็จไปประเทศอังกฤษบ่อยครั้ง โดยในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2436 พระองค์เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา โดยทรงเยี่ยมชมนิทรรศการ Columbian Exposition ในชิคาโก จากนั้น เสด็จไปเปอร์โตริโก และ ฮาวานา คิวบา จนถึง นิวยอร์ก ในวันที่ 18 พฤษภาคม ด้วยเรือลาดตระเวนอินฟันตาอิซาเบลแห่งสเปน และเสด็จไป กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และทรงพบประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ที่ ทำเนียบขาว และเสด็จกลับนิวยอร์กซิตี ต่อมาทรงได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกแห่งการปฏิวัติอเมริกาในฐานะทายาทของ พระเจ้าการ์โลสที่ 3 แห่งสเปน

เจ้าหญิงนักแต่งบทคความ[แก้]

งานอดิเรกของพระองค์ คือ เป็นผู้เขียนผลงานหลายชิ้นที่เป็นข้อโต้แย้งในแวดวงราชวงศ์ แม้ว่าจะทรงไม่เคยหยุดติดต่อกับพระประยูรญาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปี 2455 ทรงใช้พระนามแฝง Comtesse de Avila, Eulalia เขียน Au fil de la vie (ปารีส: Société française d'Imprimerie et de Librarie, 1911) แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า The Thread of Life (นิวยอร์ก: Duffield, 1912) โดยหนังสือเล่มนี้แสดงความคิดของพระองค์เกี่ยวกับการศึกษา ความเป็นอิสระของผู้หญิง ความเท่าเทียมกันของชนชั้น สังคมนิยม ศาสนา การแต่งงาน อคติ และประเพณี ซึ่งทำให้ พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปน ซึ่งเป็นพระภาติยะ ทรงโทรเลขให้พระองค์ระงับการตีพิมพ์หนังสือจน พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 จะทอดพระเนตรเห็นและมีพระบรมราชานุญาติให้ตีพิมพ์ได้ แต่พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2458 ทรงเขียนบทความเกี่ยวกับ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี โดยในนิตยสารเดอะสแตรนด์ เดือนต่อมาได้ตีพิมพ์ Court Life from Within (ลอนดอน: Cassell, 1915; พิมพ์ซ้ำ New York: Dodd, Mead, 1915) ในเดือนสิงหาคม 2468 ทรงเขียน Courts and Countries After The War (ลอนดอน: Hutchinson, 1925; พิมพ์ซ้ำ New York: Dodd, Mead, 1925) ซึ่งเนื้อหาได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของโลกและแสดงความเชื่อของพระองค์เองว่าไม่มีสันติภาพระหว่าง ฝรั่งเศส และ เยอรมนี นอกจากนี้ทรงตั้งข้อสังเกตอันโด่งดังเกี่ยวกับอิตาลีของเบนิโต มุสโสลินี โดยรายงานว่าพระองค์ทรงข้ามพรมแดนอิตาลีและได้ยินวลี "Il treno arriva all'orario" หรือ รถไฟจะมาถึงตรงเวลา ซึ่งมักเป็นการอวดอ้างเกี่ยวกับระบอบฟาสซิสต์ ในปี 2478 ทรงตีพิมพ์บันทึกความทรงจำของพระองค์เป็นภาษาฝรั่งเศส Mémoires de S.A.R. l'Infante Eulalie, 1868–1931 (ปารีส: Plon, 1935) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2479 ได้มีการตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษว่า Memoirs of a Spanish Princess, H.R.H. Infanta Eulalia (ลอนดอน: Hutchinson, 1936; พิมพ์ซ้ำ New York: W.W. Norton, 1937)

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2501 พระองค์ประชวรโรคพระหทัยและเข้ารับการรักษา และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2501 สิริพระชันษา 94 ปี พระศพฝังอยู่ในวิหารแพนธีออน ในเอลเอสโกเรียล

เหรีญในพระองค์[แก้]

  • Restoration (Spain) Spanish Royal Family: Knight Grand Cross of the Order of Charles III
  • Restoration (Spain) Spanish Royal Family: 620th Dame Grand Cross of the Order of Queen Maria Luisa

อ้างอิง[แก้]

  • García Luapre, Pilar. Eulalia de Borbón, Infanta de España: lo que no dijo en sus memorias. Madrid: Compañía Literaria, 1995. ISBN 84-8213-021-8.