อิดลิ
ชื่ออื่น | อิทลิ, อิดลี, อีดลี, อิตลิ |
---|---|
มื้อ | มื้อเช้า, มื้อดึก |
ภูมิภาค | อินเดียใต้ |
อุณหภูมิเสิร์ฟ | ร้อน |
ส่วนผสมหลัก | เลนทิลดำ, ข้าว |
อิดลิ หรือ อิดลี (อักษรโรมัน: Idli หรือ idly) เป็นขนมข้าวประเภทอาหารคาวประเภทหนึ่งที่มีที่มาจากอินเดียใต้ นิยมทานเป็นมื้อเช้า ทำมาจากก้อนแป้งที่ทำมาจากถั่วดำที่กระเทาะเปลือกแล้วกับข้าวที่นำมาหมัก ก่อนนำไปนึ่งไอน้ำ
ประวัติศาสตร์
[แก้]อิดลิในรูปแบบในอดีตปรากฏกล่าวถึงในเอกสารโบราณของอินเดียมากมาย เช่นในวรรณกรรมภาษากันนาดาจากปี ค.ศ. 920 วัททรธเน โดย ศิวโกฏิจรรย์ กล่าวถึง "อิฑฑาลิเก" (iddalige) ซึ่งทำมาจากแป้งแกรมดำ จวุนทารยะที่สอง (Chavundaraya II) ผู้ประพันธ์สารานุกรมกันนาดาที่เก่าแก่ที่สุด โลโกปกร (Lokopakara; ป. ค.ศ. 1025) บรรยายถึงการเตรียมอาหารนี้ด้วยการจุ่มแป้งแกรมดำในน้ำนมเนย แล้วนำไปบดผสมน้ำใสจากเคิร์ดกับเครื่องเทศ[1] กษัตริย์แห่งจาลุกยะตะวันตกและนักวิชาการ โสเมศวรที่สาม (ครองราชย์ดินแดนที่ปัจจุบันอยู่ในรัฐกรณาฏกะ) กล่าวถึงสูตรการทำอิดลิในสารานุกรมภาษาสันสกฤต มันโสลลสะ โดยเรียกชื่ออาหารนี้ว่า อิฑฑาริกา (iḍḍarikā)[2]
นักประวัติศาสตร์อาหาร เค ที อจยะ ตั้งข้อสังเกตว่าอิดลิแบบที่ทำในปัจจุบันอาจมีที่มาจากบริเวณที่ปัจจุบันคือประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นดินแดนที่มีการหมักดองอาหารมายาวนาน เขาตั้งคนครัวหลวงคนหนึ่งที่ถวายให้กษัตริย์ฮินดูในดินแดนอินโดนีเซียน่าจะประดิษฐ์อิดลิแบบนึ่งไอน้ำขึ้นมา ก่อนที่จะนำกลับมาเผยแพร่ในอินเดียระหว่าง ค.ศ. 800-1200[3][4] เขายังกล่าวถึงอาหารอินโดนีเซียชื่อ "เกอดลี" (kedli) ที่เขากล่าวอ้างว่าคล้ายกันกับอิดลิ[5][3] อย่างไรก็ตาม นักเขียน ชานกี เลนิน (Janaki Lenin) ปฏิเสธว่าไม่ปรากฏหลักฐานสูตรอาหารของอาหารอินโดนีเซียจานใด ๆ ที่ใช้ชื่อนี้[6] นักประวัติศาสตร์อาหาร คอลลีน เทย์เลอร์ เสน เสนอว่าขบวนการหมักดองแป้งที่ใช้ทำอิดลินั้นเป็นกระบวนการโดยธรรมชาติที่ค้นพบในอินเดียเอง เนื่องจากแทบทุกวัฒนธรรมล้วนมีการหมักดองอาหารในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง[7]
ในปี 2015 ผู้ผลิตอิดลิจากเจนไน เอนิยวัน (Eniyavan) ประกาศให้วันที่ 30 มีนาคมของทุกปีเป็น "วันอิดลิโลก" (World Idli Day)[8]
การเตรียม
[แก้]คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 ชิ้น (30 กรัม) | |
---|---|
พลังงาน | 167 กิโลจูล (40 กิโลแคลอรี) |
7.89 g | |
ใยอาหาร | 1.5 g |
0.19 g | |
อิ่มตัว | 0.037 g |
ไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว | 0.035 g |
ไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ | 0.043 g |
1.91 g | |
แร่ธาตุ | |
โพแทสเซียม | (1%) 63 มก. |
โซเดียม | (14%) 207 มก. |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ แหล่งที่มา: [9] |
อิดลิทำมาจากข้าวดิบสี่ส่วนต่อถั่วดำ (Vigna mungo) หนึ่งส่วน ซึ่งนำไปแช่น้ำแยกกันนานอย่างน้อยสี่ชั่วโมง และหากเป็นไปได้ควรข้ามคืน ในกระบวนการนี้อาจเติมเครื่องเทศลงไปด้วย หลังแช่น้ำเสร็จแล้วจะนำไปบดแยกกันและนำมารวมกันเพื่อนำไปทิ้งไว้ข้ามคืนให้เกิดการหมักดองขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาตรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หลังจากการหมักเสร็จ บางส่วนอาจเก็บไว้เป็นหัวเชื้อสำหรับทำอิดลิชุดต่อไป ส่วนที่จะนำไปประกอบต่อจะนำมาปั้นเป็นก้อนกลมโดยใช้แม่พิมพ์ จากนั้นจึงนำไปนึ่งไอน้ำบนตระแกรง นาน 10–25 นาในบางสูตรอาหารแบบดั้งเดิมอาจใช้ใบไม้มารองแป้งในกระบวนการนึ่งไอน้ำแทนที่การใช้ตระแกรง[10]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Edward R. Farnworth 2003, p. 11.
- ↑ K. T. Achaya 1994, p. 90.
- ↑ 3.0 3.1 K.T. Achaya (1 November 2003). The Story of Our Food. Universities Press. pp. 80–. ISBN 978-81-7371-293-7.
- ↑ D. Balasubramanian (2004-10-21). "Changes in the Indian menu over the ages". The Hindu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-06.
- ↑ "Idli saga: A study into the origin of the South Indian dish". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 August 2014.
- ↑ Lenin, Janaki (30 March 2012). "A tale of two sambhars". The Hindu – โดยทาง www.thehindu.com.
- ↑ Feasts and Fasts: A History of Food in India, page 146, Colleen Taylor Sen (2015)
- ↑ "World Idli Day 2018: Here's The Intriguing Story Behind This Delicious Day". NDTV. 30 March 2018.
- ↑ "Calories in Idli and Nutrition Facts". www.fatsecret.co.in.
- ↑ "Idlis in jackfruit leaves". Aayi's Recipes. 2006. สืบค้นเมื่อ 14 October 2014.
บรรณานุกรม
[แก้]- K. T. Achaya (12 May 1994). Indian Food: A Historical Companion. Oxford University Press, USA. ISBN 978-0-19-563448-8.
- Devi, Yamuna (1987). Lord Krishna's Cuisine: The Art of Indian Vegetarian Cooking, Dutton. ISBN 0-525-24564-2.
- Edward R. Farnworth (2003). Handbook of Fermented Functional Foods. CRC Press. ISBN 978-0-8493-1372-1.
- Jaffrey, Madhur (1988). A Taste of India, Atheneum. ISBN 0-689-70726-6
- Rau, Santha Rama (1969). The Cooking of India, Time-Life Books.