อิงกริดแห่งสวีเดน
อิงกริดแห่งสวีเดน | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก | |||||
ดำรงพระยศ | 20 เมษายน ค.ศ. 1947 - 14 มกราคม ค.ศ. 1972 | ||||
ก่อนหน้า | อเล็คซันดรีเนอ | ||||
ถัดไป | เฮนริก (พระราชสวามี) | ||||
พระราชสมภพ | 28 มีนาคม ค.ศ. 1910 สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน | ||||
สวรรคต | 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 ฟรีเดนเบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก | (90 ปี)||||
ฝังพระศพ | 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 สุสานรอสกิลด์ รอสกิลด์ ประเทศเดนมาร์ก | ||||
พระราชสวามี | สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชธิดา | 3 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ |
| ||||
พระราชบิดา | สมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน | ||||
พระราชมารดา | เจ้าหญิงมาร์กาเรตแห่งคอนน็อต | ||||
ลายพระอภิไธย |
เจ้าหญิงอิงกริดแห่งสวีเดน (Princess Ingrid of Sweden) หรือ สมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก (Queen Ingrid of Denmark; อิงกริด วิกตอเรีย โซเฟีย หลุยส์ มาร์กาเรทา; 28 มีนาคม ค.ศ. 1910 - 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000) เป็นพระอัครมเหสีในสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์ก และพระราชปิตุจฉา (อาหญิง) ในคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน เป็นสมเด็จพระราชชนนีใน มาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และพระราชอัยยิกาใน สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 แห่งเดนมาร์ก รัชกาลปัจจุบัน อีกทั้งเป็นพระราชปนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย
ชีวิตในวัยเยาว์
[แก้]สมเด็จพระราชินีอิงกริดเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1910 ณ พระราชวังหลวง กรุงสต็อกโฮล์ม เป็นพระราชธิดาพระองค์ที่สามและพระองค์เดียวในสมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน และเจ้าหญิงมาร์กาเรตแห่งคอนน็อต พระธิดาในเจ้าชายอาร์เธอร์ ดยุกแห่งคอนน็อตและสแตรธเอิร์น พระราชโอรสพระองค์ที่สามในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย พระชนนีของพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อปี ค.ศ. 1920 ขณะทรงพระครรภ์ที่หก และพระชนกทรงอภิเษกสมรสอีกครั้งหนึ่งในอีกสามปีต่อมากับ ลูอีส เมานต์แบ็ตเทน ซึ่งเป็นพระญาติชั้นที่สองของเจ้าหญิง แต่ในการอภิเษกสมรสครั้งนี้ทั้งสองพระองค์มิได้มีพระโอรสและธิดาเลย จะมีเพียงแต่พระธิดาที่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่แรกประสูติเท่านั้น
การสิ้นพระชนม์ของพระราชชนนีมิได้ทำให้ความสัมพันธ์กับพระราชวงศ์ทางฝ่ายพระราชชนนีเสื่อมคลายลง เจ้าหญิงก็ยังเสด็จไปเยี่ยมพระอัยกาอยู่บ่อยครั้งและเป็นช่วงเวลานานๆ ทั้งที่ตำหนักคลาเรนซ์และตำหนักแบ็คช็อตพาร์ค นอกเหนือจากนั้นการอภิเษกสมรสของพระชนกกับเลดี้ หลุยส์ เมานท์แบ็ตเต็น ได้ยิ่งกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นเข้าไปอีก เจ้าหญิงอิงกริดซึ่งตรัสภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว โปรดการเต้นรำ กีฬาเทนนิส ทรงม้าและการจัดสวน ทรงเหมือนกับประทับอยู่ที่บ้านโดยตลอดในสังคมอังกฤษ ประชาชนชาวอังกฤษชื่นชอบพระองค์เป็นอย่างมากเช่นกัน ในประเทศอังกฤษ เจ้าหญิงอิงกริดซึ่งทรงพระสิริโฉม ร่าเริงสดใสและเป็นกันเอง ทำให้ทรงเป็นที่นิยมชมชอบอยู่เสมอ
การอภิเษกสมรส
[แก้]ในปี ค.ศ. 1932 เมื่อเจ้าหญิงอิงกริดมีพระชนมายุ 22 พรรษา ก็มีข่าวลือว่าพระองค์จะทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายจอร์จ พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ซึ่งต่อมาทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น ดยุคแห่งเคนต์ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น และในอีกสองปีต่อมา เจ้าชายจอร์จก็ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมารีนา ดัชเชสแห่งเคนต์
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1935 เมื่อมีพระชนมายุ 24 พรรษา ก็ได้ทรงหมั้นหมายกับเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ขณะพระชนมายุ 35 พรรษาและเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าคริสเตียนที่ 10 แห่งเดนมาร์ก เจ้าชายทรงมีวรกายที่สูงใหญ่ราวหกฟุต รูปงาม สมส่วนและสมบูรณ์แข็งแรงมาก ด้วยพระรูปโฉมอันงดงามยังทรงมีกิริยาท่าทางที่เรียบง่าย ไม่เป็นทางการและเป็นแบบประชาธิปไตย พระองค์ทรงไม่มีร่องรอยแห่งความหยิ่งทระนงหรือความถือตัวแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังทรงเข้าร่วมในราชนาวีเดนมาร์กในฐานะนักเรียนนายร้อยตั้งแต่พระชนมายุ 14 พรรษา และทรงปฏิบัติงานในทุกตำแหน่งจนกระทั่งถึงชั้นนายพลเรือตรี พระองค์ได้ทรงเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ และยังทรงมีรอยสักมากมายในระหว่างการเดินทาง อีกทั้งยังโปรดในสิ่งที่ต่างกันมากสองสิ่งคือ กลไกและดนตรี พระองค์ทรงมีความปรารถนาในสิ่งที่เป็นกลไกต่างๆ และทรงเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย
เจ้าหญิงอิงกริดได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1935 ณ มหาวิหารใหญ่ กรุงสต็อกโฮล์ม แสดงให้เห็นถึงการมารวมตัวกันของพระราชวงศ์ต่าง ๆ ของทวีปยุโรปนับแต่ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยมีพระมหากษัตริย์สามพระองค์ เจ้าชายและเจ้าหญิงอีกหกสิบพระองค์เข้าร่วมงานพิธีนี้ เหมือนกับว่าเป็นวันวานอันรื่นรมย์ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร และจักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี ได้หวนกลับมาอีกครั้ง หลังจากนั้นได้ประทับเรือพระที่นั่งมาถึงกรุงโคเปนเฮเกนในอีก 2 วันถัดมาโดยมีพระเจ้าคริสเตียนที่ 10 พระสัสสุระ (พ่อสามี) ถวายการต้อนรับอยู่ที่ท่าเรือ ชาวเดนมาร์กจำนวนมากมาร่วมถวายพระพรเต็มสองฟากถนนระหว่างทรงเดินทางไปยังพระราชวังอามาเลียนบอร์ก
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก
[แก้]เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1947 พระเจ้าคริสเตียนที่ 10 เสด็จสวรรคต ราชบัลลังก์เป็นของเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารเสวยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงเดนมาร์ก เจ้าหญิงอิงกริด มกุฎราชกุมารีได้ทรงเฉลิมพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก ทั้งสองพระองค์มีพระราชธิดา 3 พระองค์คือ
- สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก (มาร์เกรเธ อเล็กซานดรีน ธอร์ฮิลดูร์ อิงกริด; พระราชสมภพ 16 เมษายน ค.ศ. 1940)
- เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อจากพระบรมราชชนกเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1972
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1967 ณ กรุงโคเปนเฮเกน กับ อ็องรี มารี ฌ็อง อ็องเดร เดอ ลาบอร์ด เดอ มงเปอซาต์ (11 มิถุนายน ค.ศ. 1934 - 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018) แล้วดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าชายพระราชสวามีแห่งเดนมาร์ก (Prince Consort of Denmark)
- เจ้าหญิงเบเนดิกเทอแห่งเดนมาร์ก (เบเนดิคเท แอสตริด อินเกบอร์ก อิงกริด; ประสูติ 29 เมษายน ค.ศ. 1944)
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1968 ณ ปราสาทเฟรเดนส์บอร์ก ใกล้กรุงโคเปนเฮเกน กับ เจ้าชายริชาร์ด คาสิมีร์ คาร์ล ออกุสต์ โรเบิร์ต คอนสแตนตินแห่งไซน์-วิตเก็นชไตน์-แบร์เลบูร์ก (29 ตุลาคม ค.ศ. 1934 - 13 มีนาคม ค.ศ. 2017) ภายหลังก็ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าชายแห่งไซน์- วิตเก็นชไตน์-แบร์เลบูร์ก เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1969
- สมเด็จพระราชินีอานน์-มารีแห่งกรีซ (แอนน์-มารี แด็กมาร์ อิงกริด; ประสูติ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1946)
- ทรงอภิเษกสมรสวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1964 ณ มหาวิหารเมโทรโพลิส กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ กับ สมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 แห่งกรีซ (พระราชสมภพ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1940)
- ทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระราชินีแห่งกรีซ หลังจากการอภิเษกสมรส
ปลายพระชนม์ชีพ
[แก้]สมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก อดีตเจ้าหญิงแห่งสวีเดนทรงเป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรต่างๆ ของประเทศเดนมาร์ก อีกทั้งได้ทรงงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพระราชวังและพระราชอุทยานต่างๆ ให้ดูสวยงามทันสมัยอยู่เสมอ พระองค์ยังโปรดการเดินทาง การจัดสวนและการเย็บปักถักร้อยเป็นอย่างมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพระราชวงศ์เดนมาร์ก ทำให้เกิดการพบปะสังสรรค์ของเหล่าบรรดาเครือญาติอยู่บ่อยครั้ง โดยมีพระราชนัดดา 10 พระองค์ และพระราชปนัดดาถึง 5 พระองค์ขณะที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ (โดยในปัจจุบันมีจำนวน 16 พระองค์ )
พระองค์เสด็จสวรรคตวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 ณ พระตำหนักกงสุลใหญ่ ใกล้กับพระราชวังเฟรเดนส์บอร์ก ห่างจากกรุงโคเปนเฮเกน 40 กิโลเมตร เมื่อพระชนมพรรษา 90 พรรษา พระบรมศพฝังอยู่เคียงข้างพระราชสวามีในโบสถ์รอสคิลด์ (Roskilde Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์ประจำราชวงศ์เดนมาร์ก ใกล้กับกรุงโคเปนเฮเกน
พระราชอิสริยยศ
[แก้]ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระราชินีอิงกริด | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | Hendes Majestæt (ใต้ฝ่าละอองพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
- 28 มีนาคม 1910 - 24 พฤษภาคม 1935: เฮอร์รอยัลไฮเนส เจ้าหญิงอิงกริดแห่งสวีเดน (Her Royal Highness Princess Ingrid of Sweden)
- 24 พฤษภาคม 1935 - 20 เมษายน 1947: เฮอร์รอยัลไฮเนส มกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์ก (Her Royal Highness The Crown Princess of Denmark)
- 20 เมษายน 1947 - 14 มกราคม 1972: สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก (Her Majesty The Queen of Denmark)
- 14 มกราคม 1972 - 7 พฤศจิกายน 2000: สมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก (Her Majesty Queen Ingrid of Denmark)
อ้างอิง
[แก้]- Aronson, Theo, Grandmama of Europe: The Crowned Descendants of Queen Victoria, London, 1973.
- Eilers, Marlene A., Queen Victoria’s Descendants, Rosvall Royal Books, Falköping, 2nd Edition, 1997.
ก่อนหน้า | อิงกริดแห่งสวีเดน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
อเล็คซันดรีเนอแห่งเมคเลินบวร์ค-ชเวรีน | สมเด็จพระราชินีแห่งแห่งเดนมาร์ก (20 เมษายน ค.ศ. 1947 - 14 มกราคม ค.ศ. 1972) |
อ็องรี เดอ ลาบอร์ด เดอ มงเปอซา เจ้าชายพระราชสวามี |