อานโตนอฟ อาน-225 มรียา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อานโตนอฟ อาน-225 มรียา
บทบาทอากาศยานขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษ
ชาติกำเนิดสหภาพโซเวียต (โซเวียตยูเครน)
บริษัทผู้ผลิตอานโตนอฟ
บินครั้งแรก21 ธันวาคม ค.ศ. 1988
สถานะถูกทำลาย
ผู้ใช้งานหลักอานโตนอฟแอร์ไลน์
ช่วงการผลิตค.ศ. 1985
จำนวนที่ผลิต1
มูลค่า500 ล้านเหรียญสหรัฐ[1]

อานโตนอฟ อาน-225 มรียา (ยูเครน: Антонов Ан-225 Мрія, แปลตรงตัว'ความฝัน' หรือ 'แรงบันดาลใจ'; สัญลักษณ์เนโท: Cossack) เป็นอากาศยานขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษออกแบบและผลิตโดยอานโตนอฟในสหภาพโซเวียต อาน-225 ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกตามน้ำหนักบรรทุก[2]

อาน-225 เดิมได้รับการพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 โดยเป็นการขยาย อานโตนอฟ อาน-124 เพื่อจุดประสงค์ในการขนส่งยานอวกาศบูรัน อาน-225 ได้ทำการบินครั้งแรกในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1988 อานโตนอฟได้สร้างอาน-225 เพียงลำเดียวเท่านั้น แม้ว่าจะมีการสร้างโครงเครื่องบินที่สองที่มีโครงร่างที่แตกต่างกันเล็กน้อยก็ตาม เพราะไม่มีคำสั่งซื้อจากสายการบินใด หลังจากใช้งานสนับสนุนโครงการอวกาศของสหภาพโซเวียตในช่วงเวลาสั้น ๆ เครื่องบินก็ถูกระงับการใช้งานในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ ได้มีการตัดสินใจปรับปรุงอาน-225 และนำกลับมาใช้ใหม่สำหรับการดำเนินการเชิงพาณิชย์ โดยใช้ในการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษ อานโตนอฟได้มีการประกาศหลายครั้งเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการสร้างเครื่องบินลำที่สองให้เสร็จ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างส่วนใหญ่ยังคงถูกระงับไว้เนื่องจากขาดเงินทุน ในปี 2009 มีรายงานว่าการก่อสร้างดำเนินการแล้วเสร็จ 60–70%

ด้วยน้ำหนักการบินขึ้นสูงสุดที่ 640 ตัน อาน-225 ได้สร้างสถิติหลายรายการ เช่น เครื่องบินที่มีน้ำหนักมากที่สุด เครื่องบินที่มีพื้นที่ปีกกว้างที่ใหญ่ที่สุด เป็นต้น โดยทั่วไปอาน-225 จะขนส่งวัตถุที่ไม่เคยถูกเคลื่อนย้ายทางอากาศมาก่อน เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 130 ตัน ใบพัดกังหันลม และหัวรถจักรดีเซล นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทั้งจีนและรัสเซียได้ประกาศแผนการแยกกันในการปรับแต่งอาน-225 เพื่อใช้ในโครงการอวกาศของตน มรียามักจะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนในระดับสูง จากขนาดและความเป็นเอกลักษณ์

เครื่องบิน อาน-225 ลำเดียวที่สร้างเสร็จถูกทำลายในสงครามท่าอากาศยานอันตอนอว์ระหว่างการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ประธานาธิบดียูเครน วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประกาศแผนการที่จะสร้างอาน-225 ลำที่สองให้เสร็จเพื่อทดแทนเครื่องบินที่ถูกทำลาย อานโคนอฟประกาศแผนการสร้างเครื่องบินที่ถูกทำลายขึ้นใหม่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022

การพัฒนา[แก้]

การพัฒนาอานโตนอฟ อาน-225 เริ่มต้นในปี 1984 โดยได้รับการร้องขอจากรัฐบาลโซเวียตสำหรับเครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่เพื่อทดแทน มยาซิชชอฟ เวเอ็ม-เต[3] ด้วยข้อกำหนดเฉพาะของคำขอนี้ คือ อากาศยานนี้ต้องมีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 231,838 กิโลกรัม (511,116 ปอนด์) ในขณะที่จะต้องสามารถขึ้นบินและลงจอดในความยาวทางวิ่ง 3,500 เมตร (11,500 ฟุต) ตามที่กำหนดไว้แต่แรก โดยรวมแล้วภารกิจและวัตถุประสงค์นั้นเหมือนกันกับเครื่องบินบรรทุกกระสวยอวกาศของสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการออกแบบให้ขนส่งจรวดเอนเนอร์เจียและยานโคจรชั้นบูรัน สำหรับโครงการอวกาศของโซเวียต[4][3]

อาน-225 ขณะขนส่งยานอวกาศบูรัน (1.01) ในปี 1989

ด้วยเหตุนี้ อานโตนอฟจึงตัดสินใจที่จะผลิตรุ่นแยกของเครื่องบินลำเลียงอานโตนอฟ อาน-124 ที่มีอยู่เดิม แม้ว่าความจุสินค้ามีเพียงครึ่งของความต้องการ[3] เครื่องบินถูกยืดออกโดยการเพิ่มส่วนลำตัวด้านหน้าและท้ายเครื่องบิน ในขณะที่ศูนย์ปีกที่ขยายใหญ่ขึ้นได้รับการออกแบบให้ติดตั้งเครื่องยนต์ Progress D-18T เพิ่มเติมอีกคู่ จากสี่เป็นหกเครื่อง นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องมีส่วนหางใหม่เพื่อรองรับกระแสลมวนที่เกิดจากการบรรทุกสินค้าภายนอกขนาดใหญ่บริเวณลำตัวส่วนบนของเครื่องบิน[4] แม้จะมีความแปลกใหม่ในขนาดของมัน แต่การออกแบบของอาน-225 นั้นไม่ได้มีความแตกต่างจากลำอื่นๆ[5] โครงการนี้มีหัวหน้านักออกแบบ คือ วิคเตอร์ โทลมาชอฟ[6]

อานโตนอฟ อาน-225 กับบูรันที่เลอ บูร์เกต์ในปี 1989

ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1988 อานโตนอฟ อาน-225 ทำการบินเป็นครั้งแรก[7][8] โดยเปิดตัวตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนอกสหภาพโซเวียตที่งานปารีสแอร์โชว์ ค.ศ. 1989 โดยมีการนำเสนอขณะบรรทุกยานอวกาศบูรัน[9] หนึ่งปีต่อมา อาน-225 ได้ทำการบินแสดงต่อสาธารณะในงานฟรานโบโรห์แอร์โชว์ ในขณะที่มีการสั่งซื้อเครื่องบินสองลำ มีเพียงลำเดียว (ทะเบียน CCCP-82060 ต่อมาคือ UR-82060[10]) ที่ถูกสร้างขึ้น มันสามารถบรรทุกสินค้าหนักพิเศษและขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากถึง 250,000 กก. (550,000 ปอนด์)[4] หรือ 200,000 กก. (440,000 ปอนด์) ที่ลำตัวส่วนบน สินค้าบนลำตัวส่วนบนสามารถมีความยาวได้ถึง 70 ม. (230 ฟุต)[11]

อาน-225 ลำที่สองถูกสร้างขึ้นบางส่วนในช่วงปลายทศวรรษ 1980 สำหรับโครงการอวกาศของสหภาพโซเวียต อย่างไรก็ตาม การทำงานบนโครงเครื่องบินถูกระงับหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ภายในปี 2000 ความต้องการอาน-225 เพิ่มเติมได้ชัดเจนขึ้น ในช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 มีการตัดสินใจว่าอาน-225 ลำที่สองจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นผลงานที่มีอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งมีกำหนดจะเกิดขึ้นประมาณปี 2008 อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าวต้องล่าช้าอีก[12] ภายในเดือนสิงหาคม 2009 เครื่องบินยังไม่เสร็จสมบูรณ์และงานถูกละทิ้ง[13][14] ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 ซีอีโอของอานโตนอฟรายงานว่าการดำเนินการก่อสรา้งอาน-225 ลำที่สองต้องใช้เงินอย่างน้อย 300 ล้านดอลลาร์ การจัดหาเงินทุนที่เพียงพอจะทำให้สำเร็จลุล่วงได้ภายในสามปี[15] ตามแหล่งข่าวต่างๆ เครื่องบินลำที่สองสร้างเสร็จ 60–70% ภายในปี 2016[16][17][18]

อาน-225 ในงานฟรานโบโรห์แอร์โชว์ ปี1990

การคืนชีพกิจกรรมอวกาศของอาน-225 ได้รับการประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าและมีการคาดเดาไปมากมาย ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 มีการศึกษาเกี่ยวกับการผลิตอานโตนอฟ อาน-325 ซึ่งเป็นการพัฒนาอาน-225 ต่อ จะเป็นรุ่นที่มีแปดเครื่องยนต์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ร่วมกับยานอวกาศ MAKS ที่กำลังพัฒนาของรัสเซีย[19] ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2013 รัฐบาลรัสเซียได้ประกาศแผนการรื้อฟื้นโครงการส่งทางอากาศในยุคโซเวียต ซึ่งดัดแปลงอาน-225 ให้สามารถใช้งานตามวัตถุประสงค์เพื่อเป็นฐานปล่อยยานกลางอากาศ[20]

ในเดือนพฤษภาคม 2017 จาง ยู-เซิง ประธานบริษัทแอร์สเปซอินดัสทรีคอร์ปอเรชันของจีน (AICC) แจ้งกับนักข่าวบีบีซีว่า AICC ได้พิจารณาความร่วมมือกับอานโตนอฟเป็นครั้งแรกในปี 2009 และติดต่อกับพวกเขาในอีกสองปีต่อมา AICC ตั้งใจที่จะปรับปรุงอาน-225 ลำที่สองที่ยังสร้างไม่เสร็จให้ทันสมัย และพัฒนาให้เป็นฐานปล่อยดาวเทียมกลางอากาศที่ระดับความสูงไม่เกิน 12,000 ม. (39,000 ฟุต)[7] สื่อด้านการบินตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเริ่มการผลิตใหม่ โดยคาดการณ์ว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่จะทำให้ไม่สามารถส่งมอบส่วนประกอบที่จำเป็นต่างๆ ที่มาจากรัสเซียได้ อาจเป็นไปได้ที่จีนจะผลิตแทน[21] โครงการดังกล่าวไม่ได้เดินหน้าต่อไป แต่บริษัท UkrOboronProm ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอานโตนอฟยังคงหาพันธมิตรเพื่อสร้างโครงเครื่องบินที่สองให้เสร็จ[22]

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2020 อานโตนอฟ อาน-225 ลำแรกได้เริ่มเที่ยวบินทดสอบหลายเที่ยวบินจากท่าอากาศยานฮอสตอแมลใกล้กรุงเคียฟ หลังจากให้บริการมานานกว่าหนึ่งปี เพื่อติดตั้งระบบการจัดการและควบคุมพลังงานที่ออกแบบในประเทศ[23]

รุ่น[แก้]

อาน-224

เดิมถูกเสนอ โดยมีการติดตั้งประตูสินค้าไว้ด้านหลังของลำ ไม่มีการสร้าง

อาน-225

รุ่นที่ไม่มีประตูสินค้าด้านหลัง สร้าขึ้นหนึ่งลำ อีกหนึ่งลำยังอยู่ระหว่างการสร้าง

อาน-225-100

รุ่นของอาน-225 ในการออกแบบใหม่ในปี 2000 มีการปรับปรุงระบบแจ้งเตือนการชนกันกลางอากาศ (TCAS) ระบบการติดต่อสื่อสาร ระบบนำทาง และการลดเสียงภายในห้องโดยสาร

อาน-325

รุ่นเสนอ โดยจะเป็นการขยายอาน-225 เดิม จะมีการพัฒนาต่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแปดเครื่องยนต์ โดยจะใช้ในการปล่อยจรวดเข้าสู่วงโคจร เดิมออกแบบมาให้โครงการมากส์ (MAKS) โครงการอาน-325 พัฒนาต่อจนเป็นการร่วมมือระหว่างบริติชแอโรสเปซและกระทรวงการบินของสหภาพโซเวียตในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรมอินเทอร์ริม เฮชโอโอแอล ไม่มีการสร้าง

ผู้ให้บริการ[แก้]

สหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียต

ยูเครน ยูเครน

ข้อมูลจำเพาะ[แก้]

แผนภาพเปรียบเทียบอากาศยานขนาดใหญ่ 4 รุ่น:
  อานโตนอฟ อาน-225 มรียา

ข้อมูลจาก อานโตนอฟเฮวีทรานส์ปอร์ต[24], และอื่นๆ[25][26]

  • ลูกเรือ: 6
  • ความจุ: 190 ตัน (420,000 ปอนด์)
  • ความยาว: 84 เมตร (275 ฟุต 7 นิ้ว)
  • ความยาวปีก: 88.4 เมตร (290 ฟุต 0 นิ้ว)
  • ความสูง: 18.1 เมตร (59 ฟุต 5 นิ้ว)
  • พื้นที่ปีก: 905 เมตร2 (9,740 ตารางฟุต)
  • อัตราส่วน: 8.6
  • น้ำหนักเครื่องเปล่า: 285,000 kg (628,317 lb)
  • น้ำหนักขึ้นบินสูงสุด: 640,000 kg (1,410,958 lb)
  • ความจุเช่อเพลิง: มากกว่า 300,000 กิโลกรัม (660,000 ปอนด์) 375,000 ลิตร (82,488 แกลลอน; 99,065 แกลลอนอเมริกัน)
  • ความจุสินค้า: volume 1,300 m3 (46,000 cu ft), 43.35 m (142.2 ft) long × 6.4 m (21 ft) wide × 4.4 m (14 ft) tall
  • เครื่องยนต์: 6 × Progress D-18T turbofans, แรงผลักดัน 229.5 กิโลนอต (51,600 ปอนด์ฟอร์ซ)
  • ความเร็วสูงสุด: 850 กิโลเมตร/ชั่วโมง (530 ไมล์/ชั่วโมง, 460 นอต)
  • ความเร็วขณะบิน: 800 กิโลเมตร/ชั่วโมง (500 ไมล์/ชั่วโมง, 430 นอต)
  • พิสัยการบิน: 15,400 กิโลเมตร (9,600 ไมล์, 8,300 ไมล์ทะเล) ด้วยความจุเชื้อเพลิงสูงสุด; พิสัยการบินด้วยน้ำหนักเครื่อง 200 ตัน: 4,000 กิโลเมตร (2,500 ไมล์)
  • เพดานบิน: 11,000 เมตร (36,000 ฟุต)
  • แรงดันต่อปีก: 662.9 กิโลกรัม/เมตร2 (135.8 ปอนด์/ตารางฟุต)
  • อัตราส่วนแรงดันต่อน้ำหนัก: 0.234

เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Orban, André (2022-11-10). "Antonov to rebuild world's biggest cargo plane, the An-225 "Mriya" at a cost of $500 million". Aviation24.be (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
  2. "Aerospaceweb.org | Ask Us - Largest Plane in the World". aerospaceweb.org.
  3. 3.0 3.1 3.2 Tai, Horng-Jer (2007-07). "Dielectric spectroscopy of poly(butylene succinate) films". Polymer. 48 (15): 4558–4566. doi:10.1016/j.polymer.2007.05.043. ISSN 0032-3861. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  4. 4.0 4.1 4.2 "Antonov Giants: An-22, An-124, & An-225". www.airvectors.net.
  5. Tai, Horng-Jer (2007-07). "Dielectric spectroscopy of poly(butylene succinate) films". Polymer. 48 (15): 4558–4566. doi:10.1016/j.polymer.2007.05.043. ISSN 0032-3861. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  6. "Volga-Dnepr Group Celebrates 80th Birthday of Legendary Chief Designer of the An-124 and An-225 Transport Aircraft". www.volga-dnepr.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-14. สืบค้นเมื่อ 2023-06-11.
  7. 7.0 7.1 Skyba, Christian Borys / Pictures by Anton. "The world's biggest plane may have a new mission". www.bbc.com (ภาษาอังกฤษ).
  8. Tai, Horng-Jer (2007-07). "Dielectric spectroscopy of poly(butylene succinate) films". Polymer. 48 (15): 4558–4566. doi:10.1016/j.polymer.2007.05.043. ISSN 0032-3861. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  9. Tai, Horng-Jer (2007-07). "Dielectric spectroscopy of poly(butylene succinate) films". Polymer. 48 (15): 4558–4566. doi:10.1016/j.polymer.2007.05.043. ISSN 0032-3861. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  10. "Aviation Photo #1154941: Antonov An-225 Mriya - Antonov Design Bureau". Airliners.net.
  11. "AN-225 Mriya". web.archive.org. 2012-07-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-28. สืบค้นเมื่อ 2023-06-11.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  12. "Antonov AN-225 MRIYA Russian Cargo 6 Engine Aircraft Information, History, Pictures and Facts". www.aviationexplorer.com.
  13. "VIDEO: World's largest aircraft, An-225, emerges to set new lift record". web.archive.org. 2009-08-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-11.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  14. "Buran-Energia The Mriya 2". web.archive.org. 2014-12-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-18. สืบค้นเมื่อ 2023-06-11.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  15. "Ukrainian Journal". www.ukrainianjournal.com.
  16. "Ukraine may finish the construction of second An-225 Mriya transport aircraft - RUSSIAN AVIATION". www.ruaviation.com.
  17. Trimble2016-08-31T20:28:49+01:00, Stephen. "An-225 revival proposed in new Antonov-China pact". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
  18. Yeo, Mike. "Antonov Sells Dormant An-225 Heavylifter Program to China". Aviation International News (ภาษาอังกฤษ).
  19. Tai, Horng-Jer (2007-07). "Dielectric spectroscopy of poly(butylene succinate) films". Polymer. 48 (15): 4558–4566. doi:10.1016/j.polymer.2007.05.043. ISSN 0032-3861. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  20. Правительство задумалось о "Воздушном старте". Interfax (in Russian). 23 April 2013. Retrieved 29 April 2013.
  21. Staff, Editorial (2016-09-14). "Worlds Largest Airplane Back In Play". AVweb (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  22. "Ukraine mulling to complete the second Antonov An-225 Mriya - AeroTime" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2021-02-04.
  23. Kaminski-Morrow2020-03-26T16:21:00+00:00, David. "An-225 returns to flight after modernisation". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
  24. Gordon, Yefim; Komissarov, Dmitriy; Komissarov, Sergey (3 September 2004). "The Six-Engined Dream". Antonov's Heavy Transports: Big Lifters for War & Peace. Red Star. Vol. 18. Midland. ISBN 978-1857801828. OCLC 173497301. OL 9001238M.
  25. "An-225 heavy load cargo aircraft, Antonov OKB". web.archive.org. 2015-10-31. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-31. สืบค้นเมื่อ 2023-06-11.
  26. "Antonov An-225 Mriya (Cossack)". www.militaryfactory.com.