ข้ามไปเนื้อหา

อาชิกางะ โยชิอากิ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาชิกางะ โยชิอากิ
โชกุน
ค.ศ. 1568 – ค.ศ. 1573
ระยะเวลา5 ปี
จักรพรรดิจักรพรรดิโองิมาจิ
ก่อนหน้าอาชิกางะ โยชิฮิเดะ
ถัดไปโทกูงาวะ อิเอยาซุ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด15 ธันวาคม ค.ศ. 1537(1537-12-15)
อสัญกรรม19 ตุลาคม ค.ศ. 1597(1597-10-19) (59 ปี)
บิดาอาชิกางะ โยชิฮารุ
บิดาบุญธรรมโอดะ โนบูนางะ
ตระกูลอาชิกางะ

อาชิกางะ โยชิอากิ (ญี่ปุ่น: 足利 義昭, 15 ธันวาคม ค.ศ. 1537 – 19 ตุลาคม ค.ศ. 1597)[1] เป็นโชกุนคนที่ 15 และคนสุดท้ายของรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างปี ค.ศ. 1568 ถึงปี ค.ศ. 1573 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาก่อกบฏและถูกโค่นล้มอำนาจ[2] บิดาของเขาคืออาชิกางะ โยชิฮารุ ซึ่งเป็นโชกุนคนที่ 12 และพี่ชายของเขาคืออาชิกางะ โยชิเตรุ ซึ่งเป็นโชกุคนที่ 13[3]

ประวัติ

[แก้]

เขาเป็นบุตรชายของอาชิกางะ โยชิฮารุ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1537[1] เขาเข้าวัดโคฟูกูจิเพื่อบวชเป็นพระ แต่เมื่อโยชิเตรุพี่ชายของเขาถูกตระกูลมิโยชิฆ่า เขาก็กลับมาใช้ชีวิตฆราวาสอีกครั้งและใช้ชื่อ "โยชิอากิ"[4] ในเวลานั้น รัฐบาลโชกุนอาชิกางะอ่อนแอลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ไดเมียวจากเมืองต่าง ๆ ยังคงต่อสู้เพื่อเข้ามาควบคุมรัฐบาลกลาง อาชิกางะ โยชิเตรุพยายามโค่นล้มตระกูลมิโยชิที่ควบคุมเขา แต่แผนการของเขาทำให้ตระกูลมิโยชิและมัตสึนางะ ฮิซาฮิเดะวางแผนก่อรัฐประหารและบังคับให้โยชิเตรุฆ่าตัวตาย พวกเขาจึงตัดสินใจแต่งตั้งอาชิกางะ โยชิฮิเดะ ลูกพี่ลูกน้องของโยชิเตรุให้เป็นโชกุนคนที่ 14 ในเกียวโต แต่ไม่สามารถควบคุมเมืองหลวงได้[5]

ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1567 เขาย้ายไปที่วัดอันโยจิในอิจิโจดานิ (ปัจจุบันคือเมืองฟูกูอิ จังหวัดฟูกูอิ) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของตระกูลอาซากูระ[6][7] ในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1568 เขาบรรลุนิติภาวะและเปลี่ยนชื่อเป็นโยชิอากิ[6][7]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "Ashikaga Yoshiaki" in The New Encyclopædia Britannica. Chicago: Encyclopædia Britannica Inc., 15th edn., 1992, Vol. 1, p. 625.
  2. Ackroyd, Joyce. (1982) Lessons from History: The Tokushi Yoron, p. 332.
  3. Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du japon, pp. 385–389., p. 385, ที่กูเกิล หนังสือ
  4. "日本大百科全書(ニッポニカ)「足利義昭」の解説". Kotobank. สืบค้นเมื่อ 15 December 2021.
  5. Turnbull 2004, p. 31.
  6. 6.0 6.1 Yamada 2019, pp. 150–165.
  7. 7.0 7.1 Kuno 2017, pp. 46–48.

อ้างอิง

[แก้]