หลี่ ไช่ฟ่ง
หลี่ ไช่ฟ่ง | |
---|---|
เกิด | 14 มีนาคม พ.ศ. 2508 หลี่ไช่ฟ่ง ฮ่องกง |
คู่สมรส | "หลอฉี่เยิ่น" (พ.ศ. 2544-2550) |
อาชีพ | นักแสดง |
ปีที่แสดง | -ปีพ.ศ. 2523-2538 -ปีพ.ศ. 2561- |
ผลงานเด่น | (ละครโทรทัศน์)
-บท "หยังอาหมั่น" เรื่อง "แผ่นดินรัก แผ่นดินเลือด" (ปีพ.ศ. 2523) -บท "อาแช" เรื่อง "กระบี่นางพญา" (ปีพ.ศ. 2529 ) |
สังกัด | "ค่ายเอทีวี" "ค่ายทีวีบี" |
ฐานข้อมูล | |
IMDb |
หลี่ไช่ฟ่ง (จีน:李賽鳳~อังกฤษ:Moon Lee) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "มูน หลี่" เป็นอดีตนักแสดงหญิงนักบู๊ชาวฮ่องกง ในยุค80s ถึง 90s ที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วเอเชีย เธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น ฉายาของเธอคือ "ราชินีนักบู๊" [1][2][3] [4]
เธอก้าวเข้าสู่วงการแสดง มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2523 แรกเริ่มเธอนั้นมีชื่อเสียงในฐานะนางเอกละครทีวี ยอดนิยมคนหนึ่งของสถานีโทรทัศน์เอทีวี แต่ทว่า...ยุคทองของเธอกลับเป็นผลงานทางด้านภาพยนตร์ แนวแอ็คชั่น ในช่วงปีพ.ศ. 2530-2538 (ค.ศ. 1987 ถึง 1995) หลี่ไช่ฟ่ง ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงหญิงเบอร์หนึ่งใน "ภาพยนตร์แอ็คชั่น" ของฮ่องกง เนื่องจากเธอมีหน้าตาและรูปลักษณ์ที่ดูน่ารักสดใสแบบสาวญี่ปุ่น แต่มาเล่นหนังแนวบู๊ ได้อย่างถึงพริกถึงขิง จึงทำให้ในยุคนั้นเธอได้รับฉายาว่าเป็น ตำรวจหญิงแกร่งที่สวยที่สุดแห่งโลกภาพยนตร์แอ็คชั่น และอีกฉายาที่ถูกเรียกบ่อย ๆ คือ นางฟ้าแห่งภาพยนตร์แอคชั่น
ภาพยนตร์แอคชั่นเต็มตัว เรื่องแรกของเธอคือ เชือด-เชือดนิ่มนิ่ม "(Angels 1987)" ในปีพ.ศ. 2530 ที่ทำให้เธอโด่งดังขึ้นมา และสามารถโกยเงินทั้งในฮ่องกงและในเอเชีย ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เป็นการแจ้งเกิด ของเธอในแนวบู๊แอ็คชั่น ทำให้ต่อมาเธอมีภาพยนตร์แนวนี้ตามมาอีกมากมาย จนกลายเป็นโลโก้ (สัญลักษณ์) ประจำตัวของเธอไปโดยปริยาย
ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมตามมา ของเธอเป็นหนังเกี่ยวกับเหล่าตระกูล "เชือด" ทั้งหลาย ที่มีด้วยกันถึง 8 ภาค และภาพยนตร์ตระกูลซือเจ๊ ทั้งหลายแหล่ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เธอได้รับความนิยมอยู่หลายปี จนถึงปีพ.ศ. 2536 ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นเริ่มไม่ค่อยได้รับความนิยม และผลงานภาพยนตร์ของเธอในช่วงนั่นเริ่มไม่ทำเงิน หลายเรื่องถึงกับขาดทุน ถือได้ว่าเป็นการหมดยุคทองของภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น ไปพร้อม ๆ กับหมดยุคทองของเธอเช่นกัน ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจประกาศอำลงวงการภาพยนตร์ ในปีพ.ศ. 2538 กับผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ "อวสานซือเจ๊" (Little Heroes Lost in China :小鬼奇兵 1995) ในช่วงนี้ชื่อเสียงของเธอเริ่มได้รับความนิยมลดน้อยลง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงรับงานแสดงละครทีวีอยู่ จนถึงปีพ.ศ. 2542 ละครชุด "ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ" (Fist of Hero1999) ซึ่งเป็นละครเรื่องสุดท้ายก่อนที่เธอจะถอนตัวออกจากวงการบันเทิง และหันไปทุ่มเทอย่างเต็มที่กับอาชีพสอนการเต้นรำที่ "Moon Dancing Studio" ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการเต้นรำ ที่ตัวเธอเองเป็นเจ้าของและได้เปิดสอนมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2536
หลังจากนั้นชื่อเสียงของเธอก็ค่อยๆ เลือนหายไปและกลายเป็นอดีตแห่งความทรงจำ ของตำนาน "ราชินีนักบู๊" แห่งเอเชีย ที่อยู่ในใจของแฟน ๆ ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นฮ่องกง
ประวัติ
[แก้]หลี่ไช่ฟ่ง เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2508 แถวชานเมือง ในประเทศฮ่องกง ในครอบครัวนักธุรกิจ ชื่อเล่นของเธอถูกเรียกหลายชื่อ เช่น (อาเม่ย)Aman, (หลี่เม่ย) Limei และ(หนูอ้วน) Big Girl เนื่องจากตอนเด็ก ๆ เธอค่อนข้างเจ้าเนื้อ
ตั้งแต่อายุ 6 ถึง 12 ปี หลี่ไช่ฟ่ง ได้มีโอกาสไปอาศัยอยู่ที่เมือง "เกาสง" (Kaohsiung) ประเทศไต้หวัน เป็นระยะเวลา 6 ปีเต็มกับคุณพ่อของเธอที่ได้ไปทำธุรกิจอยู่ที่นั่น เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษา "Youchang" ระหว่างที่เธออยู่ที่ไต้หวันเธอได้เรียนรู้ภาษาจีนกลางจนคล่องและชำนาญ อีกทั้งยังได้เรียนทักษะทางด้านเปียโนและการเต้นรำที่เธอชื่นชอบอีกด้วย เป็นผลให้เธอมักจะมีกิจกรรมทางการแสดงกับทางโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง
ต่อมาเธอได้ย้ายกลับมาอาศัยที่ฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อครั้งแรกที่เธอกลับมายังฮ่องกง และ เข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง เธอรู้สึกอยากอยู่กับบ้านและไม่อยากไปเรียนต่ออีกเลย เพราะตั้งแต่เธอย้ายไปอยู่ที่ไต้หวัน เธอใช้แต่ภาษาจีนกลางทั้งหมด เป็นสาเหตให้ทักษะทางด้าน ภาษากวางตุ้งของเธอไม่ค่อยดีนักและสำเนียงการออกเสียงภาษากวางตุ้งของเธอเหมือนคนพื้นเมืองชนบท แต่ถึงกระนั้นเธอก็พยายามจนสามารถกลับมาใช้ภาษากวางตุ้งได้อย่างคล่องแคล้วอีกครั้ง ด้วยความที่เธอมีทักษะทางด้านเปียโนและการเต้นรำ ทำให้เธอได้มีกิจกรรมกับทางโรงเรียนอยู่บ่อย ๆ และจุดเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอก็มาถึง เมื่อเธอเป็นหนึ่งในตัวแทนของทางโรงเรียนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแสดงระบำในงานวันชาติของฮ่องกง เมื่อ เซียวเสี่ยนฮุย (Xiao Xian-Hui) ซึ่งเป็น "ผู้อำนวยการบริหารด้านการผลิต" (Executive producer) ของสถานีโทรทัศน์RTV มาร่วมในงานนั้น และได้ดูการแสดงและมองเห็นแววในตัวเธอ จึงได้ชักชวนเธอเข้าเป็นนักเรียนการแสดงในสังกัดของค่าย RTV ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น ถึงแม้ว่า...ในช่วงแรกครอบครัวของเธอจะไม่เห็นด้วยมากนักเพราะกลัวเธอจะเสียการเรียน แต่ในที่สุดทางครอบครัวของเธอก็ยินยอม
ต่อมาเธอก็ได้เรื่มต้นชีวิตการแสดงในปีพ.ศ. 2523 โดยผลงานเรื่องแรกเป็นละครโทรทัศน์เรื่อง "แผ่นดินรักแผ่นดินเลือด" (Fatherland 1980) เนื่องจากบทบาทของเธอในละครเรื่องนี้ใช้เวลาในการถ่ายทำไม่มากนัก เลยไม่กระทบต่อการเรียนของเธอ พ่อแม่ของเธอจึงยินยอมที่จะให้เธอแสดง โดยในละครเรื่องนี้เธอรับบทสมทบเป็น "หยังอาหมั่น" สาวน้อยชนบทซึ่งเป็นลูกสาวของครอบครัวแซ่หยัง นำแสดงโดย หลิวจื่อหยง และ หวีอันอัน ซึ่งเธอได้รับการตอบรับที่ดีจากบทบาทในละครดังกล่าว ทำให้ในปีถัดมาพ.ศ. 2524 เธอได้มีโอกาสเล่นทั้งละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ไปพร้อม ๆ กัน ภาพยนตร์เรื่องแรกของ หลี่ไช่ฟ่งคือ "แด่คุณครูด้วยดวงใจ" (To Sir with Trouble) แสดงร่วมกับ "เหลี่ยวเหว่ยสง" และละครเรื่อง "ฉันจะบิน" (I Have to Fly 1981)
ต่อมาสถานีโทรทัศน์RTV ได้เปลี่ยนผู้ถือหุ้น เป็นสองพี่น้องตระกูลชิวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีโทรทัศน์เอทีวี เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2525 และในปีนี้เธอได้เรียนจบชั้นมัธยมปลาย และพร้อมที่จะลุยงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มที่ ช่วงนี้เองที่เธอเริ่มมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดทักษะคิวบู๊ จากการเรียนกังฟูกับ "ฉีเสี่ยวหมิง" ซึ่งเป็นผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดังของสถานีโทรทัศน์RTV ด้วยที่เธอมีทักษะการเต้นจากวัยเด็กของเธอ ทำให้เธอสามารถแสดงทั้งละครและภาพยนตร์แนวแอคชั่นได้อย่างง่ายดายด้วยการเคลื่อนไหวกระฉับกระเฉงและมีความยืดหยุ่นของเธอ ผนวกกับใบหน้าสวยหวาน ทำให้ หลี่ไช่ฟ่ง ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นนางเอกยอดนิยมคนหนึ่งของค่ายอาร์ทีวี
ในปีพ.ศ. 2526 เธอมีอายุ 18 ปี ได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดง กับค่ายสถานีโทรทัศน์เอทีวี และค่ายโกลเดนฮาร์เวสต์ (Golden Harvest) ต่อมาเธอถูกส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อถ่ายโฆษณารถยนต์มิตซูบิชิ และทางบริษัท เองต้องการชื่อภาษาอังกฤษของเธอ เพื่อใช้ในการโปรโมต เพราะดารานักแสดงในฮ่องกงทุกคนจะมีชื่อเรียกที่เป็นภาษาอังกฤษและตามด้วยแซ่ ของแต่ละคน แต่ตอนนั้นเธอไม่มีชื่อเรียกแทนตัวที่เป็นภาษาอังกฤษเลย แต่สุดท้ายเธอเลือกใช้ชื่อว่า "มูน หลี่" (Moon Lee) ให้เป็นชื่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้เรียกแทนตัวเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และในปีเดียวกันเธอก็ได้มีโอกาสร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง "ซูซัน เทพยุทธเขามหัศจรรย์" (Zu Warriors From The Magic Mountain 1983) ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นกำลังภายใน เรื่องแรกในชีวิตของเธอ
ในช่วงปีพ.ศ. 2527-2529 เธอมีผลงานละครโทรทัศน์ยอดนิยมมากมาย อาทิเช่น ละครเรื่อง "จอมยุทธเฮ้งบ่อกี้" (Drunken Fist 1984), ละครเรื่อง "จี้กง" ภาค1(Ji Gong 1985), ละครเรื่อง "เทพธิดาน้อย" (The Angel 1985), ละครเรื่อง "กระบี่นางพญา" (The Supersword Lady 1986) และ ละครเรื่อง "จี้กง" ภาค ภาค2 (Ji Gong II 1986) เป็นต้น ซึ่งผลงานละครทีวีเหล่านี้ ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงแถวหน้าของสถานีโทรทัศน์เอทีวี ที่ได้รับความนิยม และในช่วงนี้เธอเองก็ได้มีโอกาสร่วมแสดง ภาพยนตร์กับดารานักบู๊ชายชื่อดังแห่งวงการภาพยนตร์ 3 คนอย่าง หงจินเป่า หยวนเปียว และ เฉินหลง อาทิเช่น มือปราบจมูกหิน, ถ้าเก่งซะอย่าง, กูกู๋ปืนเค็ม, ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 1, ขอน่าอย่าซ่าส์, ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 2, ดร.ซุน ยัตเซ็น เป็นต้น ซึ่งการร่วมงานกับดารานักบู๊ทั้งสาม ทำให้เธอได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะการต่อสู้ให้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
ในปีพ.ศ. 2530 หลังจากหมดสัญญากับทางสถานีโทรทัศน์เอทีวีแล้ว เธอก็ลุยงานในวงการภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นอย่างเต็มที่ โดยใช้ทักษะที่เธอฝึกฝนมาเอามาใช้ในการแสดง โดยเธอมีผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้ หลี่ไช่ฟ่ง โด่งดังมากยิ่งขึ้น คือเรื่อง เชือด-เชือดนิ่มนิ่ม (Angels 1987) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก สามารถกวาดรายได้ทั้งในฮ่องกง และ ประเทศในทวีปเอเชียจนต้องสร้างภาค 2 และภาค 3 ตามมาอีกในปีพ.ศ. 2531-2532 จากความโด่งดังของเธอในเรื่องนี้ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเธอ ทำให้เธอมีผลงานแนวบู๊แอ็คชั่น ออกมาอีกมากมาย จนเป็นที่มาของฉายาว่า "ราชินีนักบู๊" หรือ "นางเอกนักบู๊แห่งจอเงิน" นั่นเอง
อุบัติเหตุ
[แก้]เกิดอุบัติเหตุขึ้นในปีพ.ศ. 2532 ระหว่างการแสดงคิวบู๊ฉากสุดท้ายในภาพยนตร์เรื่อง "เชือดเชือด...เดือดเดือด" (Devil Hunters 1989), เธอได้ถูกไฟคลอกตามตัวในระดับที่สาม
ในฉากนั้น เธอต้องกระโดดลงจากหน้าต่างจากตึกสองชั้นเพื่อหลบเลี่ยงการระเบิด แต่เนื่องจากมีการผิดคิวของเวลาโดยช่างไฟฟ้า ที่กดเอฟเฟคให้ระเบิดก่อนเวลาจริง เธอจึงโดนเปลวเพลิงก่อนที่เธอจะกระโดดลงมา ส่งผลให้เกิดแผลไหม้อย่างรุนแรงบนมือและใบหน้าของเธอ กลายเป็นข่าวดังในระดับเอเชีย ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอเพิ่มขึ้นไปอีก
ตอนที่ออกฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ ในตอนท้ายของหนัง มีรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ครั้งนี้อย่างละเอียด พร้อมด้วยการขึ้นข้อความในตอนท้ายของหนังเรื่องนี้จากผู้อำนวยการ ที่ยกย่องถึงความกล้าหาญของเธอในฉากที่เสี่ยงตาย.
ผลงาน
[แก้]ภาพยนตร์
[แก้]- แด่คุณครูด้วยดวงใจ (To Sir with Troubles :交叉零蛋 1981)
- มือปราบจมูกหิน (5 Lucky Stars :奇谋妙计五福星 1983) แนว แอคชั่น/ผจญภัย
- ถ้าเก่งซะอย่าง (The Champion :波牛 1983, Brandy Yuen) แนวกีฬา/ตลก
- กูกู๋ปืนเค็ม แนว ดราม่า/แอคชั่น (The Protector :威龙猛探 1985)
- ผีกัดอย่ากัดตอบ (Mr. Vampire :僵尸先生 1985, Ricky Lau)
- ขอน่าอย่าซ่าส์ [รับเชิญ] แนวตลก/แอ็คชั่น (My Lucky Stars 2: Twinkle Twinkle Lucky Stars 1985)
- Cascading Feeling a.k.a. Midnight Whispers 尽诉心中情 (1986)
- ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 2 (Mr. Vampire 2 :僵尸先生续集 1986, Ricky Lau)
- ดร.ซุน ยัตเซ็น (The Story of Dr. Sun Yat Sen 1986)
- เชือด-เชือดนิ่มนิ่ม (Angel :天使行动 1987)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 2 (Angel II :天使行动2之火凤狂龙 1988)
- พยัคฆ์สาวเชือดไม่นิ่ม (Midnight Whispers 1988) (production date 1985)
- ซือเจ๊...หน่วยสวาท (Angel Enforcers :皇家飞凤 1989)
- เชือดเชือด...เดือดเดือด (Devil Hunters :猎魔群英 1989)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 3 (Angel III :天使行动3魔女末日 1989)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 4 หรือ โอ้โฮ!...ซือเจ๊ (Killer Angels :杀手天使 1989)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 5 (Princess Madam :金牌师 1989)
- Demon Intruder a.k.a. Nocturnal Demon 夜魔先生/野鬼先生 (1990)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 6 (Fatal Termination :赤色大风暴 1990)
- ขบวนนิ่มกลับมาเชือด (New Kids in Town :初到贵境1990)
- ซือเจ๊...กลับมาลุย (The Revenge of Angel :水玲珑 1990)
- ยุทธการนิ่มเชือดดุ (Bury Me High :卫斯理之霸王卸甲 1991) แนว คลาสสิค, แอคชั่น-ผจญภัย
- Angel Force 天使特警 (1991)
- Mission Kill 秃鹰档案 (1991)
- สวยมาโปรด...เชือดไม่เลี้ยง (Dreaming the Reality :梦醒血未 1991)
- ยิ่งนิ่ม...ยิ่งเชือด (Mission of Condor :秃鹰档案/秃鹰行动 1991)
- Angel Terminators 2 a.k.a. The Best of the Lady Kickboxer 火种 (1991)
- เรื่องมันใหญ่...ก็ต้องเบ่ง (The Big Deal :神偷家族 1992)
- Inspector Wears Skirts 4 霸王花:重出江湖 (1992)
- เดี๋ยวเจ๊...ลุยให้เละ (Kickboxer's Tears :新龙争虎斗1992) แนว กระตุกขวัญ/แอคชั่น
- Enter the Lady Kickboxer (1992)
- A Serious Shock! a.k.a. Yes, Madam! '92 a.k.a. Death Triangle 末路狂花 (1992)
- The Avenging Quartet - แนว กระตุกขวัญ/แอคชั่น (霸海红英 1992)
- Beauty Investigator a.k.a. Beauty Inspectors 妙探双娇 (1992)
- Mission of Justice 金三角群英会 (1992)
- ซือเจ๊เท้าเหล็ก (Angel The Kickboxer :纵横天下 1993)(uncredited)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 7 - (Angel's Project :天使狂龙 1993)
- เชือด เชือดนิ่มนิ่ม 8 อึดเฮือกสุดท้าย...ขอตายเพื่อเธอ (Avenging Quartet 1993)
- คนโต...ใจต้องใหญ่ (Secret Police :警网雄风 1994)
- Little Heroes Lost in China 小鬼奇兵 (1995)
ละครโทรทัศน์
[แก้]- Fatherland 大地恩情 (1980)
- I Have to Fly 我要高飛 (1981)
- Ah Sir Ah Sir 阿SIR 阿SIR (1982)
- Onion Flower 洋葱花 (1983)
- จอมยุทธเฮ้งบ่อกี้ Drunken Fist 1984 醉拳王無忌 (1984) ATV จอมยุทธเฮ้งบ่อกี้ มี 2 ภาค คือ ภาค 1 มี 20 episodes / ภาค 2 มี 40 episodes กำกับการแสดงโดย จาฉวนอี้ Zha Chuan Yi เรื่องนี้สร้างจากการ์ตูน นำแสดงโดย อู๋กัง Wu Kong, หลี่ไซ่ฟ่ง Moon Lee รับสองบท คือเซียนเอ๋อ กับ ตงตง , หลิวเจียหย่ง Lau Kar Yung, หวังหลงเหว่ย Wong Lung Wai และ เยี่ยอวี้ผิง Yip Yuk Ping
- โลมายอดรัก I Love Mermaid 我愛美人魚 (1984)
- Drunken Fist 2 日帝月后 (1984)
- Miracle of the Orient 香江歳月 (1984)
- Ji Gong 濟公 (1985)
- Passionate Fairy 仙女多情 (1985)
- Bravo! Kowloon Tong 魅力九龍塘 (1985)
- The Supersword Lady 越女剣 (1986)
- Ba Wang Hua 霸王花 (1993)
- "หมัดใต้เตะเหนือ" (Fist of Power :南拳北腿 1995)
- Putonghua Children Drama 普通話親子劇場 (1998)
- "ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ" (Fist of Hero :中華大丈夫 1999)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ประวัติ
- ↑ "Moon Lee". imdb.com. สืบค้นเมื่อ April 19, 2010.
- ↑ "Moon Lee". chinesemov.com. สืบค้นเมื่อ April 19, 2010.
- ↑ รายชื่อหนัง