ข้ามไปเนื้อหา

หลี่ เฉียง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หลี่ เฉียง
李强
Li in 2024, in black suit, in front of PRC flag
หลี่ใน ค.ศ. 2024
นายกรัฐมนตรีจีน คนที่ 8
เริ่มดำรงตำแหน่ง
11 มีนาคม ค.ศ. 2023
(2 ปี 97 วัน)
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
รองหัวหน้ารัฐบาล
ก่อนหน้าหลี่ เค่อเฉียง
เลขาธิการพรรคประจำนครเซี่ยงไฮ้
ดำรงตำแหน่ง
29 ตุลาคม ค.ศ. 2017 – 28 ตุลาคม ค.ศ. 2022
(4 ปี 364 วัน)
นายกเทศมนตรี
ก่อนหน้าหาน เจิ้ง
ถัดไปเฉิน จี๋หนิง
เลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจียงซู
ดำรงตำแหน่ง
30 มิถุนายน ค.ศ. 2016 – 29 ตุลาคม ค.ศ. 2017
(1 ปี 121 วัน)
ผู้ว่าการ
ก่อนหน้าหลัง จื้อจฺวิน
ถัดไปหลัว ฉินเจี่ยน
เลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียง
ดำรงตำแหน่ง
30 มกราคม ค.ศ. 2013 – 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2016
(3 ปี 156 วัน)
รักษาการ: 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 – 30 มกราคม ค.ศ. 2013
(40 วัน)
เลขาธิการพรรคเซี่ย เป่าหลง
ก่อนหน้าเซี่ย เป่าหลง
ถัดไปเชอ จฺวิ้น
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด (1959-07-23) 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1959 (65 ปี)
รุ่ยอาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
พรรคการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ศิษย์เก่า
ลายมือชื่อ
ชื่อภาษาจีน
อักษรจีนตัวเต็ม李強
อักษรจีนตัวย่อ李强

หลี่ เฉียง (จีน: 李强; พินอิน: Lǐ Qiáng; เกิด 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1959) เป็นนักการเมืองชาวจีนผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 และคนปัจจุบันของจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2023 เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกอันดับสองของคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2022 ตั้งแต่ ค.ศ. 2017 ถึง 2022 หลี่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเขาได้ดำเนินนโยบายสนับสนุนธุรกิจและบริหารการรับมือกับการระบาดทั่วของโควิด-19

หลี่ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "กองทัพจือเจียงใหม่" ฝ่ายการเมืองในพรรคของสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนและผู้นำสูงสุดตั้งแต่ ค.ศ. 2012 ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้เริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 2000 เมื่อทั้งสองคนดำรงตำแหน่งในพรรคที่มณฑลเจ้อเจียง หลี่โดยทั่วไปถูกนักวิเคราะห์มองว่าเป็นผู้สนับสนุนธุรกิจและได้แสดงจุดยืนสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจ

ชีวิตช่วงต้น

[แก้]

หลี่เกิดในเมืองรุ่ยอาน มณฑลเจ้อเจียง ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1959 ที่บ้านของตาของเขา บิดาของหลี่ หลี่ ซีจฺวี๋ (李锡局) มาจากครอบครัวยากจนในหมู่บ้านตงอ้าว เมืองเฉ่าถุน และทำงานเป็นเสมียนและเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อเขาโตขึ้น มารดาของเขา หร่วน ซิ่วเหลียน (阮秀莲) มาจากตำบลหมายฺหวี่ (马屿镇) เมืองรุ่ยอาน และหาเลี้ยงชีพด้วยการขายหมูเมื่อเธอยังเด็ก ในวัยเยาว์ หลี่ได้รับการดูแลจากยายและญาติผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เขาเรียนจบชั้นประถมและมัธยมศึกษาที่หมายฺหวี่[1] เขาเริ่มทำงานเป็นคนงานที่สถานีสูบน้ำชลประทานของหมายฺหวี่ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1976 เมื่ออายุ 17 ปี หลังเรียนจบมัธยมศึกษา โดยทำงานที่นั่นจนถึง ค.ศ. 1977 และทำงานที่โรงงานเครื่องมือที่สามของรุ่ยอานตั้งแต่ ค.ศ. 1977 ถึง 1978[2][3]

หลี่ศึกษาด้านกลไกการเกษตรที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เจ้อเจียง วิทยาเขตหนิงปัว[a] ตั้งแต่ ค.ศ. 1978 ถึง 1982 เขาศึกษาวิชาสังคมวิทยาทางไปรษณีย์ที่มหาวิทยาลัยสังคมวิทยาทางไปรษณีย์แห่งประเทศจีน (中国社会学函授大学; เลิกกิจการไปแล้วใน ค.ศ. 2021[6]) ในปักกิ่งตั้งแต่ ค.ศ. 1985 ถึง 1987.[2]

หลี่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงสำหรับการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาภาคพิเศษสาขาวิศวกรรมการจัดการตั้งแต่ ค.ศ. 1995 ถึง 1997 และเข้าศึกษาที่โรงเรียนส่วนกลางพรรคสำหรับการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาภาคพิเศษสาขาเศรษฐศาสตร์โลกตั้งแต่ ค.ศ. 2001 ถึง 2004 เขาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกงตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2005 และได้รับปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสำหรับผู้บริหาร (EMBA) ใน ค.ศ. 2005[2]

อาชีพช่วงต้น

[แก้]

หลี่เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1983 เขาทำงานเป็นเสมียนที่คณะกรรมาธิการคอมมิวนิสต์สันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (CYLC) ประจำอำเภอรุ่ยอานตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ถึง 1983 และต่อมาเป็นเลขาธิการคณะกรรมาธิการตั้งแต่ ค.ศ. 1983 ถึง 1984[3] จากนั้นเขาก็ดำรงตำแหน่งอาวุโสขึ้นเรื่อย ๆ ในกรมกิจการพลเรือนประจำมณฑล เขาเริ่มต้นจากการเป็นรองหัวหน้ากองและต่อมาเป็นหัวหน้ากองบรรเทาทุกข์ชนบทของกรมกิจการพลเรือนประจำมณฑลเจ้อเจียงตั้งแต่ ค.ศ. 1984 ถึง 1991[3] จากนั้นเขาก็ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองบุคลากรของกรมกิจการพลเรือนตั้งแต่ ค.ศ. 1991 ถึง 1992 และสุดท้ายเป็นรองหัวหน้ากรมกิจการพลเรือนตั้งแต่ ค.ศ. 1992 ถึง 1996[3]

ใน ค.ศ. 1996 เขากลายเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญพรรคประจำนครระดับจังหวัดจินหฺวาและเป็นเลขาธิการพรรคประจำนครระดับอำเภอหย่งคัง (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจินหฺวา)[3] ใน ค.ศ. 1998 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไปของรัฐบาลมณฑลเจ้อเจียงอีกครั้ง ใน ค.ศ. 2000 เขากลายเป็นผู้อำนวยการและเลขาธิการพรรคของสำนักบริหารอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมของรัฐบาลเจ้อเจียง[3]

ใน ค.ศ. 2002 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคประจำนครระดับจังหวัดเวินโจว ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 43 ปี และเป็นเลขาธิการพรรคเวินโจวที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์[7] ในระหว่างดำรงตำแหน่งที่เวินโจว เขาสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจเอกชนในเมืองนี้ เขายังให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมเบา โดยมีเป้าหมายที่จะสร้าง "เมืองอุตสาหกรรมเบาระดับนานาชาติ"[8] ใน ค.ศ. 2004 หลี่ไดเป็นเลขาธิการคณะกรรมาธิการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียงและได้รับที่นั่งในคณะกรรมาธิการสามัญในปีถัดมา โดยทำงานภายใต้สี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรคเจ้อเจียง รับผิดชอบด้านการบริหารและการประสานงาน[9] ในช่วงเวลานี้ เขาสนิทสนมกับสี จนท้ายที่สุดก็ถูกมองว่าเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของเขา[10] ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 เขาได้เป็นเลขาธิการกิจการการเมืองและกฎหมายประจำมณฑลเจ้อเจียง และอีกหลายเดือนต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรค[2]

จากข้อมูลของ กวางหมิงเดลี ใน ค.ศ. 2015 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งในเจ้อเจียง หลี่กล่าวกับศาสตราจารย์คนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงว่ารัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลต้องการ "คลังสมองอิสระอย่าง RAND Corporation" เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน โดยกล่าวว่า "เป็นเรื่องยากมาก" ที่องค์การรัฐการและเจ้าหน้าที่จะสามารถวิเคราะห์และวิจารณ์ผู้บังคับบัญชาได้อย่างเป็นกลาง[11] สิ่งนี้ทำให้ศาสตราจารย์คนดังกล่าวจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญนอกภาครัฐขึ้นใน ค.ศ. 2009 โดยมีหลี่เป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์[11]

ท้องถิ่น

[แก้]

เจ้อเจียง (ค.ศ. 2012–2016)

[แก้]

หลังการประชุมสภาแห่งชาติพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เขากลายเป็นสมาชิกสำรองของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 เขากลายเป็นผู้ว่าการเจ้อเจียงแทน โดยเข้ารับตำแหน่งต่อจากเซี่ย เป่าหลงที่ได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคประจำมณฑล และเขาได้รับเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นผู้ว่าการโดยสภาประชาชนมณฑลเจ้อเจียงในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2013[9][12] ระหว่างดำรงตำแหน่งในเจ้อเจียง เขาขอให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญนอกภาครัฐเขียนรายงานเกี่ยวกับผลงานของเขาที่ "บอกความจริง" และต่อมาได้ไปเยี่ยมพวกเขาเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะแบบตัวต่อตัว หลังเขารู้สึกว่ารายงานฉบับแรก ๆ นั้นยังไม่วิพากษ์วิจารณ์มากพอ[11] หลี่ยังดำเนินปฏิรูปการตรวจสอบและระบบการอนุมัติทางปกครองในมณฑลเจ้อเจียงอีกด้วย[13]

ใน ค.ศ. 2014 เมื่อเจ้อเจียงกำลังเตรียมจัดการประชุมอินเทอร์เน็ตนานาชาติ หลี่เสนอให้เมืองเจ้าภาพกลายเป็นเขตนำร่องสำหรับการยกเลิกการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดของจีนสำหรับบริษัทตะวันตก ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ได้รับการอนุมัติในท้ายที่สุดจากผู้นำส่วนกลาง[14] เขายังริเริ่มโครงการสร้าง "เมืองลักษณะเฉพาะ" เมืองขนาดเล็กที่มุ่งเน้นธุรกิจประเภทเดียวที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดี ตัวอย่างเช่น "เมืองแห่งความฝัน" สำหรับผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี และ "เมืองช็อกโกแลต" สำหรับผู้ผลิตช็อกโกแลต ซึ่งตั้งอยู่ในเจ้อเจียงทั้งคู่ โครงการนี้ได้รับการรับรองและเผยแพร่ไปยังส่วนอื่น ๆ ของจีนโดยสี [14] ดิอีโคโนมิสต์ รายงานใน ค.ศ. 2023 ว่า "เมืองดังกล่าวจำนวนมากกลายเป็นแหล่งเก็งกำไรสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และประเภทของธุรกิจที่ควรจะส่งเสริมบางครั้งก็ไม่ประสบความสำเร็จ"[11]

เจียงซู (ค.ศ. 2016–2017)

[แก้]

วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2016 หลี่ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคประจำเจียงซู[15] เขาพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลเจ้อเจียงในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 โดยมีเชอ จฺวิ้นเข้ามารับตำแหน่งแทน[16] เขาดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลา 15 เดือน ทำให้เขากลายเป็นเลขาธิการพรรคเจียงซูที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประชาชน ในเดือนแรกที่เข้ารับตำแหน่ง หลี่ลงพื้นที่สำรวจ 12 ครั้ง ครอบคลุมพื้นที่เจียงซูตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้[17] ระหว่างดำรงตำแหน่ง เขาจัดการประชุมกับนักธุรกิจ เช่น แจ็ก หม่าแห่งกลุ่มอาลีบาบา เพื่อส่งเสริมการลงทุน[14]

เซี่ยงไฮ้ (ค.ศ. 2017–2022)

[แก้]

วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ภายหลังการประชุมสภาพรรคครั้งที่ 19 หลี่ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้[2][18] ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกที่ได้บริหารทั้งเจ้อเจียง เจียงซูและเซี่ยงไฮ้[19] เขายังได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปีเดียวกันนั้นด้วย เขานับเป็นผู้ที่ "เป็นมิตรต่อธุรกิจ" โดยได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมธุรกิจขณะอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เช่น การเปิดตัวกระดานซื้อขายหลักทรัพย์ STAR Market ของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้[20][21] เขายังดูแลการเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างประเทศในเมือง รวมถึงกีกาแฟ็กตอรีของบริษัทเทสลา[22] เขายังได้ดำเนินนโยบายต่าง ๆ เช่น การลดเกณฑ์สำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานภายในประเทศเพื่อขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่และการสร้างเมืองใหม่ห้าแห่งเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนที่ดิน[22]

ในช่วงต้น ค.ศ. 2022 เซี่ยงไฮ้มีการล็อกดาวน์จากโควิด-19 เป็นเวลาสองเดือน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ ทำให้หลี่ถูกตำหนิเรื่องการรับมือ[23] แต่กระนั้น มีรายงานว่าเขาเปิดกว้างกับแนวคิดอยู่ร่วมกับโควิด-19 มากขึ้น[14] ยังมีมุมมองว่าหลี่ถูกกดดันจากผู้นำส่วนกลางให้ดำเนินการล็อกดาวน์ และในตอนแรก หลี่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของนักระบาดวิทยาชั้นนำในจีนอย่างเคร่งครัด รวมถึงจาง เหวินหง ซึ่งยึดมั่นใน 'กลยุทธ์ยืดหยุ่น' สำหรับมาตรการต่อต้านโควิด[24][25] กล่าวกันว่าหลี่และจางมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดี เนื่องจากทั้งคู่มาจากรุ่ยอาน เมืองภายใต้เขตปกครองเวินโจว ตามรายงานของ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล หลี่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในคณะผู้นำระดับสูงที่ต้องการให้จีนนำเข้าวัคซีนอาร์เอ็นเอของตะวันตกเพื่อต่อต้านโควิด-19 และมีรายงานว่าเขาพยายามจัดการให้ไบออนเทคจัดหาวัคซีนในประเทศจีน[14]

นายกรัฐมนตรี

[แก้]
หลี่และนายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซันเชซ เมื่อ 30 มีนาคม ค.ศ. 2023
หลี่และนายกรัฐมนตรีรัสเซีย มีฮาอิล มีชุสติน เมื่อ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2023

ภายหลังการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นหลังวันปิดการประชุมสภาพรรคครั้งที่ 20 ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2022 หลี่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนในฐานะสมาชิกอันดับสอง[26] การแต่งตั้งนี้ทำให้เขากำลังอยู่ในเส้นทางที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้สังเกตการณ์คาดการณ์ว่าการขาดประสบการณ์ในรัฐบาลกลางจะทำให้เขาต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากสีอย่างมากในการบริหารคณะมนตรีรัฐกิจ[27] วันที่ 28 ตุลาคม เฉิน จี๋หนิงรับช่วงต่อจากเขาในตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้[28] รอยเตอร์สรายงานในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2023 โดยอ้างแหล่งข่าวว่า หลี่ผลักดันให้มีการผ่อนคลายกฎระเบียบโควิดเป็นศูนย์อย่างรวดเร็วในช่วงปลาย ค.ศ. 2022 โดยขัดขืนแรงกดดันจากสี ซึ่งต้องการชะลอการเปิดประเทศ นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่าหลี่เป็นหัวหน้าหน่วยงานเฉพาะกิจโควิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และยังได้สนับสนุนให้รัฐบาลท้องถิ่นผ่อนคลายข้อจำกัดโควิกต่อไป[29]

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2022 หลี่เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 13 ของสหพันธ์อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมแห่งประเทศจีนและกล่าวสุนทรพจน์ "ในนามของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และคณะมนตรีรัฐกิจ" เป็นการบอกใบ้ถึงบทบาทของเขาในคณะมนตรีรัฐกิจ[30] หลี่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 11 มีนาคม ระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 14 สมัยแรก โดยรับช่วงต่อจากหลี่ เค่อเฉียง[31] เขาเป็นบุคคลแรกนับตั้งแต่โจว เอินไหลที่ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยตรงจากรัฐบาลท้องถิ่นโดยไม่มีประสบการณ์การทำงานในรัฐบาลกลางมาก่อน โดยเฉพาะในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี[32][33]

นโยบายภายในประเทศ

[แก้]

นับตั้งแต่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หลี่ได้พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชนและฟื้นฟูความเชื่อมั่นภายหลังความเสียหายที่เกิดจากมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งถูกยกเลิกในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2022 รวมถึงการรณรงค์ด้านกฎระเบียบที่ดำเนินการโดยรัฐบาล มีรายงานว่าเขายังโน้มน้าวให้แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา เดินทางกลับประเทศจีนหลังพำนักอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งปี[34] มีการจัดตั้งการประชุมศึกษาพิเศษของคณะมนตรีรัฐกิจขึ้นภายใต้การนำของหลี่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2023 ซึ่งคล้ายกับการประชุมศึกษาร่วมกันของกรมการเมือง โดยเป็นผลมาจากการแก้ไขระเบียบการปฏิบัติงานของคณะมนตรีรัฐกิจ ระเบียบใหม่นี้ยังนำการประชุมงานของนายกรัฐมนตรีซึ่งถูกยกเลิกไปใน ค.ศ. 2003 กลับมาใช้อีกครั้ง และลดความถี่ของการประชุมฝ่ายบริหารคณะมนตรีรัฐกิจลง[35]

วันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2023 เขาเข้าร่วมการประชุมสภาการพัฒนาประเทศจีน โดยกล่าวว่าจีนจะ "ยึดมั่นในการเปิดประเทศอย่างไม่เปลี่ยนแปลง" เขายังพบปะกับผู้บริหารธุรกิจต่างชาติหลายราย รวมถึงทิม คุกจากแอปเปิลและเรย์ ดาลิโอจาก Bridgewater Associates ซึ่งเป็นการเดินทางมายังจีนครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่สิ้นสุดนโยบายโควิดเป็นศูนย์[36] ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 จีนยุติความพยายามในการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคเทคโนโลยีและหลี่พบกับตัวแทนบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เพื่อส่งสัญญาณ "ที่แข็งแกร่งที่สุด" ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้[37]: 175  หลังจากนั้น หน่วยงานรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจำนวนมากนำเสนอนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจและการสร้างงาน[37]: 175  ระหว่างการประชุมคณะมนตรีรัฐกิจในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2023 หลี่เรียกร้องให้มีความพยายามมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตประจำปีของจีน[38] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2023 หลี่เยี่ยมชมบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งรวมถึง Beijing U-Precision Technology ซึ่งเขาเรียกร้องให้พึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี[39] ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2023 หลี่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะกรรมการการเงินส่วนกลาง หน่วยงานใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ดูแลภาคการเงิน[40] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2024 หลี่เรียกร้องให้มีวิธีการ "ที่รุนแรง" เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้นจีนหลังตลาดประสบภาวะตกต่ำอย่างรุนแรง[41]

เขาเดินทางเยือนมณฑลหูเป่ย์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2024 เพื่อเน้นย้ำถึงความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยเขาเยี่ยมชมบริษัท Yangtze Memory Technologies, มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น, โครงการอนุรักษ์น้ำ, บริษัทเคมีภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาสีเขียวในอี๋ชางและนิคมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่ก่อตั้งโดย Guangdong Brunp Recycling Technology บริษัทย่อยของ CATL[42] ในเดือนเดียวกันนั้น เขายังเดินทางเยือนมณฑลฉ่านซี ที่ซึ่งเขาเดินทางไปที่ Shaanxi Fast Auto Drive Group, ESWIN Technology Group ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในรถยนต์ และ Western Superconducting Technologies ผู้ผลิตแท่งโลหะผสมไนโอเบียม-ไทเทเนียมครบวงจร เขาเรียกร้องให้ผู้ผลิตเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา[43] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2024 หลี่กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสภาการพัฒนาประเทศจีน ซึ่งเขากล่าวชื่นชมเศรษฐกิจของจีนและให้คำมั่นว่าจะลดอุปสรรคสำหรับธุรกิจต่างชาติ[44] ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2024 ระหว่างการประชุมสัมมนาผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการเอกชน และนักเศรษฐศาสตร์ เขากล่าวว่าเศรษฐกิจของจีน "ดำเนินอย่างมีเสถียรภาพ" พร้อมเรียกร้องให้มีการ "ตัดสินใจนโยบายทางวิทยาศาสตร์"[45] ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2024 ระหว่างการประชุมคณะมนตรีรัฐกิจ เขาเรียกร้องให้จีนนำนโยบายที่ "จับต้องได้ มีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ทั้งประชาชนและภาคธุรกิจ" มาใช้[46] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2024 เขาเตือนรัฐบาลท้องถิ่นไม่ให้กำหนดเป้าหมายวิสาหกิจเอกชนด้วยค่าปรับที่ไม่เป็นธรรม[47] ในเดือนเดียวกันนั้น เขาเดินทางเยือนหางโจว เช่าซิง และเจียซิงในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเขาให้คำมั่นว่าจะ "ขยายการเข้าถึง" บริษัทที่ลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง[48]

หลี่ เฉียงนำเสนอรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลต่อสภาประชาชนแห่งชาติเมื่อ ค.ศ. 2025

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2025 หลี่เดินทางเยือนมณฑลชานตง ซึ่งเขาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ขยายโครงการแลกเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นการบริโภค ขยายโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จและการสลับแบตเตอรี่เนื่องจากจำนวนรถพลังงานไฟฟ้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น และเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาและเครือข่ายน้ำที่ทันสมัย[49] ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025 เขาจัดการประชุมเต็มคณะของคณะมนตรีรัฐกิจ ซึ่งเขาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ "เปลี่ยนแรงกดดันเป็นแรงจูงใจ"[50] ในเดือนเดียวกันนั้น ระหว่างการประชุมคณะมนตรีรัฐกิจ หลี่กล่าวว่าจีนจะใช้นโยบายมุ่งเป้าเพื่อเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ[51] ต่อมาเขายังเยี่ยมชมศูนย์วิจัยของไชนาเทเลคอม, ไชนายูนิคอมและไชนาโมบิล ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของรัฐสามรายของจีน โดยเรียกร้องให้พวกเขาส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม[52] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025 หลี่เดินทางเยือนฝูเจี้ยน ซึ่งเขาเรียกร้องให้วิสาหกิจการค้าต่างประเทศกระจายตลาด สร้างสรรค์ช่องทางการค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์และเพิ่มบูรณาการการค้าภายในและการค้าต่างประเทศ[53] ในเดือนเดียวกันนั้น เขากล่าวเปิดการประชุมสภาการพัฒนาเศรษฐกิจจีน ซึ่งเขากล่าวว่าจีนได้เตรียมพร้อมสำหรับ "เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน"[54] ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2025 หลี่จัดการประชุมสัมมนาพร้อมด้วยนักเศรษฐศาสตร์และผู้ประกอบการ ซึ่งเขากล่าวว่าจีนควร "ตอบสนองต่อความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมภายนอกด้วยนโยบายที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ"[55] ในเดือนเดียวกันนั้น เขาเรียกร้องให้มีการสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น[56]

การทูต

[แก้]
หลี่กับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซ็อก-ย็อล ในการประชุมสุดยอดไตรภาคีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ 2024 เมื่อ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2024

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2023 หลี่พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น โยชิมาสะ ฮายาชิ ในปักกิ่งเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์[57] ในเดือนพฤษภาคม หลี่พบกับนายกรัฐมนตรีรัสเซีย มีฮาอิล มีชุสติน โดยเขากล่าวถึง "ความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างจีนและรัสเซียในสมัยใหม่" พร้อมระบุว่าการค้าระหว่างจีนและรัสเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในช่วงปีที่ผ่านมา[58] วันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2023 หลี่เริ่มต้นการเดินทางเยือนเยอรมนี ถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยเขาพบกับประธานาธิบดีฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์, นายกรัฐมนตรีโอลัฟ ช็อลทซ์ ตลอดจนซีอีโอของบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่ เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์, เอ็สอาเพ และซีเมนส์เอ็นเนอร์จี[59][60] หลังจากสี่วันในเยอรมนี เขาก็เดินทางต่อไปยังฝรั่งเศสในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเขาได้พบกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส แอมานุแอล มาครง, นายกรัฐมนตรีเอลีซาแบ็ต บอร์น รวมถึงประธานคณะมนตรียุโรป ชาร์ล มีแชล[61] หลี่กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีครั้งที่ 14 ของแชมป์ใหม่ของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum's New Champions) ในเทียนจิน โดยเขากล่าวว่าเศรษฐกิจของจีนยังคงอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องและวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามในการ "ลดความเสี่ยง"[62]

ระหว่างวันที่ 5 ถึง 8 กันยายน หลี่เดินทางเยือนจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเขาพบกับผู้นำอาเซียนหลายคน นอกจากนี้หลี่ยังพบกับผู้นำคนอื่น ๆ เช่น นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี แอลบานีส[63] นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซ็อก-ย็อล[64] ระหว่างการประชุมสุดยอดต่าง ๆ เช่น การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม[65] และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก[66] หลี่ยังพบกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วีโดโด โดยให้คำมั่นว่าจะมีการลงทุนใหม่จากจีนในอินโดนีเซียเป็นมูลค่า 21,700 ล้านดอลลาร์[67] ระหว่างวันที่ 9 ถึง 10 กันยายน หลี่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 นิวเดลี โดยไปแทนประมุขแห่งรัฐ สี จิ้นผิง ซึ่งไม่ได้เข้าร่วม[68] ที่นั่น เขาพบกับผู้นำต่าง ๆ เช่น นายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์จา เมโลนี[69] ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน[68] ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดิน[70] และนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก[71]

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2024 หลี่เดินทางเยือนสวิตเซอร์แลนด์และไอร์แลนด์และเข้าร่วมการประชุมประจำปีของสภาเศรษฐกิจโลกในดาโฟส ในเดือนเมษายน หลี่เชิญนายกรัฐมนตรีมาร์ก รึตเตอของเนเธอร์แลนด์และนายกรัฐมนตรีโอลัฟ ช็อลทซ์ของเยอรมนีมาเยือนจีน ในเดือนพฤษภาคม หลี่พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 26 ถึง 27 พฤษภาคม หลี่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดไตรภาคีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ในโซล และพบกับประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อลของเกาหลีใต้ และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น[72]

ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2024 หลี่เดินทางเยือนนิวซีแลนด์ โดยมีนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ คริสโตเฟอร์ ลักซัน และผู้สำเร็จราชการ ซินดี กีรอ ให้การต้อนรับเพื่อลงนามในความตกลงทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จีนตกลงขยายการยกเว้นวีซ่าให้กับชาวนิวซีแลนด์ขณะที่นิวซีแลนด์ตกลงสนับสนุนการฝึกอบรมภาษาจีนและโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมโดยสถาบันขงจื๊อในท้องถิ่น[73] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025 เขาพบกับวุฒิสมาชิกสหรัฐ สตีฟ เดนส์ พันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์[74]

จุดยืนทางการเมือง

[แก้]
หลี่พบกับรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เจเนต เยลเลน ที่มหาศาลาประชาชนเมื่อ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2023

หลี่ถูกมองว่าเป็นผู้สนับสนุนธุรกิจและสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจ[22][20][75] โดยส่งเสริมการพัฒนาภาคเอกชนและภาคบริการ[3] จากข้อมูลของ ดิอีโคโนมิสต์ การลดการแทรกแซงของระบบรัฐการในตลาด เป็นหนึ่งในประเด็นโปรดของเขา[11] ใน ค.ศ. 2003 ระหว่างดำรงตำแหน่งในเวินโจว เขาเคยกล่าวไว้ว่า "หากไม่มีเศรษฐกิจเอกชน การพัฒนาเมืองเวินโจวจะล่าช้าไปอย่างน้อยหนึ่งศตวรรษ"[14] ใน ค.ศ. 2014 หลี่กล่าวว่า "ควรมีอาลีบาบาและแจ็ก หม่าเพิ่มขึ้น" หลี่กล่าวใน ค.ศ. 2015 ว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจเป็นเรื่องของ "ความเป็นความตาย" และ "รัฐบาลไม่สามารถเป็นรัฐบาลที่ไร้ขีดจำกัดได้" เขายังกล่าวอีกว่า "ในการสร้างรัฐบาลที่จำกัดแต่มีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องถ่ายโอนอำนาจการบริหารจำนวนมากให้องค์การทางสังคม"[75] จากข้อมูลของ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล, หลี่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแจ็ก หม่า[14] หนังสือพิมพ์ยังรายงานด้วยว่า หลี่แนะนำให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมธุรกิจและทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างภาคธุรกิจและรัฐบาลในช่วงที่รัฐบาลปราบปรามธุรกิจเอกชน[14] หลี่ยังให้การสนับสนุนนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและปัญญาประดิษฐ์ และได้เรียกร้องให้ให้ความสำคัญกับ "เศรษฐกิจที่แท้จริง" มากขึ้น[3]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

ภริยาของหลี่ หลิน หวน เป็นข้ารัฐการบำนาญ ซึ่งเคยทำงานในสำนักการคมนาคมของรัฐบาลมณฑลเจ้อเจียง ทั้งคู่มีบุตรีหนึ่งคน (หลี่ อิง) ที่เคยศึกษาในประเทศออสเตรเลีย[75][3]

เป็นเรื่องไม่ปกติในวงการเมืองระดับสูงของจีน ที่หลี่เน้นย้ำถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นของเขา โดยเฉพาะความผูกพันกับเวินโจว เขาจัดตั้งการประชุมชาวเวินโจวโลก (World Wenzhounese Conference) เพื่อส่งเสริมให้ชาวเวินโจวพลัดถิ่นทั่วโลกกลับมาลงทุนในเมือง และกล่าวในการประชุมใน ค.ศ. 2013 ว่า "ผมเกิดและเติบโตเป็นชาวเวินโจว" และ "จิตวิญญาณของชาวเวินโจวที่กล้าเป็นคนแรก และโดยเฉพาะความเป็นผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งได้เป็นแรงบันดาลใจและหล่อเลี้ยงผมมาโดยตลอด"[11]

ใน ค.ศ. 2024 หลี่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของปี 2024 โดยนิตยสาร ไทม์[76]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ประวัติก่อนหน้านี้ของเขาอ้างว่าเขา "สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เจ้อเจียง (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง)"[4] วิทยาเขตหนิงปัวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เจ้อเจียงเป็นวิทยาลัยอิสระสาขาที่ดำเนินการภายใต้ชื่อของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เจ้อเจียง โดยเปลี่ยนชื่อเป็นวิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคนิคเจ้อเจียงว่านหลี่ในปี 1999 และเปลี่ยนชื่อเป็นวิทยาลัยเจ้อเจียงว่านหลี่ในปี 2002[5]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "老鄉憶少年李強:講義氣抱不平 祖屋圍網防人潮 浙江瑞安搞紅色旅遊" [Fellow villagers recall young Li Qiang: loyal and brave, fenced off ancestral house to prevent crowds, promotes red tourism in Zhejiang Rui'an]. Ming Pao. 14 March 2023. สืบค้นเมื่อ 8 March 2025.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 "李强同志简历" [Resume of Comrade Li Qiang]. Xinhua News Agency. 2017-10-25. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-19. สืบค้นเมื่อ 2022-10-23.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 3.6 3.7 3.8 "Li Qiang 李强" (PDF). Brookings Institution. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2023. สืบค้นเมื่อ 6 May 2023.
  4. "李强 浙江省委副书记、省长" [Li Qiang Zhejiang Deputy Party Secretary and Govonor]. Gov.cn. 2015-11-11.
  5. 孙伟良, 赵晓亮主编 (2011). 宁波历史上的今天. 杭州: 浙江工商大学出版社. p. 173. ISBN 7-81140-235-1. ……1977年11月,改为浙江农业大学宁波分校。1984年11月,改称浙江农村技术师范专科学校。1999年更名为浙江万里职业技术学院,并在鄞县中心区建造新校区。2002年升格为浙江万里学院。
  6. Zhang, Yu (2021-10-29). "北京26所民办学校办学许可证被注销". news.sina.com.cn. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-23. สืบค้นเมื่อ 2022-10-23.
  7. "李强浙江往事:改革是贯穿始终的头等大事". finance.sina.cn. 12 July 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 December 2022. สืบค้นเมื่อ 31 December 2022.
  8. "温州民企竞争由增量走向提质" [Competition among Wenzhou private enterprises shifts from increasing quantity to improving quality]. Sina.com. 3 November 2003. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 July 2024. สืบค้นเมื่อ 25 May 2024.
  9. 9.0 9.1 李强 [Li Qiang]. Xinhua News Agency (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-01-16.
  10. Munroe, Tony; Tian, Yew Lun (2022-10-12). "After COVID lockdown, eyes on Shanghai chief at party congress". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-05-31. สืบค้นเมื่อ 2022-10-20.
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 11.5 "China's new head of government, Li Qiang, has Xi Jinping's ear". The Economist. 12 March 2023. ISSN 0013-0613. สืบค้นเมื่อ 2023-03-13.
  12. "夏宝龙当选浙江人大常委会主任 李强当选省长" [Xia Baolong was elected Chairman of the Standing Committee of Zhejiang Provincial People's Congress and Li Qiang was elected Governor]. Sina.com. January 30, 2012. สืบค้นเมื่อ 25 May 2024.
  13. "李强浙江往事:改革是贯穿始终的头等大事" [Li Qiang's past in Zhejiang: Reform is the top priority throughout]. Sina.com. 12 July 2016. สืบค้นเมื่อ 25 May 2024.
  14. 14.0 14.1 14.2 14.3 14.4 14.5 14.6 14.7 Wong, Chun Han; Zhai, Keith. "China's No. 2 Is a Business Pragmatist and a Party Loyalist. Which Will Prevail?". The Wall Street Journal (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0099-9660. สืบค้นเมื่อ 2022-11-02.
  15. "李强任江苏省委书记,罗志军不再担任" [Li Qiang is appointed Secretary of the Jiangsu Provincial Party Committee, Luo Zhijun removed from the post]. The Paper. 30 June 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 July 2023. สืบค้นเมื่อ 22 October 2023.
  16. "李强任江苏省委书记 车俊任浙江省委副书记兼代省长" [Li Qiang Appointed as Secretary of Jiangsu Provincial Party Committee, Chen Jun Appointed as Deputy Secretary of Zhejiang Provincial Party Committee]. Caixin. 4 July 2016. สืบค้นเมื่อ 6 May 2023.
  17. "江苏省委书记李强履新满月:12次调研,了解和重视基层工作" [Jiangsu Provincial Party Secretary Li Qiang has been in office for one month: 12 investigations to understand and attach importance to grassroots work]. The Paper. 31 July 2016. สืบค้นเมื่อ 8 March 2025.
  18. "李强兼任上海市委书记 韩正不再兼任" [Li Qiang concurrently serves as Shanghai Municipal Party Committee Secretary, Han Zheng no longer serves]. iFeng News. October 29, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 February 2024. สืบค้นเมื่อ 25 May 2024.
  19. "中共二十届政治局常委:习近平开启历史性第三任期 李强预计出任总理 胡春华未入局" [The Standing Committee of the 20th CPC Political Bureau: Xi Jinping begins his historic third term; Li Qiang is expected to become the Premier; Hu Chunhua is not included]. BBC News. 23 October 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2023. สืบค้นเมื่อ 25 May 2024.
  20. 20.0 20.1 Zhai, Keith; Xie, Stella Yifan (23 October 2022). "China's New Slate of Top Leaders Stirs Concern Over Economy". The Wall Street Journal. ISSN 0099-9660. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2022. สืบค้นเมื่อ 23 October 2022.
  21. Hale, Thomas; White, Edward (2022-10-23). "Xi Jinping promotes loyal Shanghai chief to upper echelons of power". Financial Times. สืบค้นเมื่อ 2022-10-23.
  22. 22.0 22.1 22.2 Zheng, William; Ren, Daniel (23 October 2022). "China's Li Qiang shakes off Shanghai Covid chaos to enter Communist Party inner circle". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 23 October 2022.
  23. Chia, Kyrstal (28 April 2022). "Xi in a Bind Over Who to Blame for Shanghai's Covid Outbreak". Bloomberg News. สืบค้นเมื่อ 2022-10-20.
  24. 記者邱國強, 中央社 (2022-10-23). "習家軍「有關係就沒關係」!從上海封城中走出來的「中共2號」…李強在台商眼中卻像財經官員?- 今周刊". www.businesstoday.com.tw (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 2023-03-27.
  25. "上海市委书记李强考察张文宏实验室" [Li Qiang, Secretary of the Shanghai Municipal Party Committee, inspected Zhang Wenhong's laboratory]. China Digital Times (ภาษาChinese (China)). 2021-08-18. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-03-27. สืบค้นเมื่อ 2023-03-27.
  26. "Communique of the first plenary session of the 20th CPC Central Committee". State Council of the People's Republic of China. Xinhua News Agency. 24 October 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2022. สืบค้นเมื่อ 10 June 2023.
  27. Bradsher, Keith (23 October 2022). "A loyal aide in Shanghai takes a leading role in Beijing". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2022. สืบค้นเมื่อ 1 January 2023.
  28. "China Names Beijing Mayor Chen Jining As Shanghai Party Boss". Bloomberg News. 28 October 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 October 2022. สืบค้นเมื่อ 6 September 2023.
  29. Zhu, Julie; Yew, Lun Tian; Tham, Engen (3 March 2023). "How China's new No.2 hastened the end of Xi's zero-COVID policy". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 April 2023. สืบค้นเมื่อ 3 March 2023.
  30. Zhang, Phoebe (12 December 2022). "China's Li Qiang makes speech for the State Council, hinting at premier's job ahead". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 19 December 2024.
  31. Chen, Laurie; Munroe, Tony (11 March 2023). "Li Qiang becomes China's premier, tasked with reviving economy". Reuters. สืบค้นเมื่อ 11 March 2023.
  32. Ruwitch, John (2023-03-13). "Xi Jinping's show: Who's who in China's new government". NPR. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-18. สืบค้นเมื่อ 2023-03-15.
  33. Baptista, Eduardo; Munroe, Tony; Pollard, Martin Quin (23 October 2022). "China's next premier Li: A Xi loyalist who oversaw Shanghai lockdown". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2022. สืบค้นเมื่อ 1 January 2023.
  34. "Many wealthy people are considering leaving China". The Economist. 30 March 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 March 2023. สืบค้นเมื่อ 31 March 2023.
  35. Thomas, Neil (2025-06-04). "Li Qiang's Quiet Rise". ChinaFile (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
  36. "China's New Premier Courts Foreign CEOs With Vow to Open Economy". Bloomberg News. 27 March 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 June 2023. สืบค้นเมื่อ 10 June 2023.
  37. 37.0 37.1 Liu, Lizhi (2024). From Click to Boom: The Political Economy of E-Commerce in China. Princeton University Press. doi:10.1515/9780691254111. ISBN 9780691254104. JSTOR jj.14527541.
  38. Nulimaimaiti, Mia (17 August 2023). "China targets fulfilling economic goals despite slowdown, as premier seeks enhanced domestic momentum". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  39. Ip, Cyril; Sun, Luna (22 September 2023). "Chinese Premier Li Qiang pushes hi-tech firms to do more to boost Beijing's self-reliance in face of US restrictions". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  40. Hancock, Tom (20 November 2023). "China Premier Li Qiang Named Head of Powerful Financial Body". Bloomberg News. สืบค้นเมื่อ 20 November 2023.
  41. Yu, Evelyn; Gu, Jacob (22 January 2024). "China's Premier Orders More Measures to Arrest Stock Rout". Bloomberg News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 January 2024. สืบค้นเมื่อ 27 May 2024.
  42. Nulimaimaiti, Mia (4 January 2024). "Amid US tech war, Premier Li Qiang urges China to focus on application of core technologies". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  43. Nulimaimaiti, Mia (31 January 2024). "Chinese Premier Li Qiang urges manufacturing firms to 'spare extra money' for R&D investment". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  44. Wang, Orange (24 March 2024). "China ready to remove barriers for foreign companies, Premier Li Qiang tells international forum". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  45. Chen, Frank; Nulimaimaiti, Mia (10 July 2024). "Premier faces China's economic issues square on in meeting as inflation adds to pressures". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  46. Nulimaimaiti, Mia; Ji, Siqi (1 August 2024). "Chinese premier calls for 'tangible, effective, accessible' policies to aid economy". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  47. Zheng, William (18 December 2024). "Chinese Premier Li Qiang pledges to crack down on unfair targeting of private firms". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  48. Cai, Jane (21 December 2024). "Chinese Premier Li Qiang makes new overtures to foreign firms, pledging more access and services". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 22 December 2024.
  49. Ma, Sylvia (3 January 2025). "China's premier tells local authorities to give economy early boost in new year". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 3 January 2025.
  50. Yang, Carol (6 February 2025). "As trade war threats rain down, Premier Li says China must 'turn pressure into motivation'". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 6 February 2025.
  51. "Chinese premier promises targeted measures to boost consumption". Reuters. 20 February 2025. สืบค้นเมื่อ 22 February 2025.
  52. Li, Alice (26 February 2025). "China's Premier Li makes house call to state telecoms as Beijing dials in on innovation". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 26 February 2025.
  53. Ma, Sylvia (21 March 2025). "China's premier tells foreign trade enterprises to be ready to 'combat storms'". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 24 March 2025.
  54. Ji, Siqi; Chen, Frank (23 March 2025). "China is prepared for bigger than expected external shocks: Premier Li Qiang". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 24 March 2025.
  55. "China's premier vows more proactive macroeconomic policies amid 'external shocks'". Reuters. 9 April 2025. สืบค้นเมื่อ 16 April 2025.
  56. Nulimaimaiti, Mia (16 April 2025). "China's premier cites 'profound changes' in urging boost to domestic consumption". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 16 April 2025.
  57. Nakazawa, Katsuji. "Analysis: China's Li Qiang orchestrates warm welcome for Hayashi". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 10 June 2023.
  58. "Russia, China sign new agreements, defying Western criticism". Al Jazeera. 24 May 2023. สืบค้นเมื่อ 10 June 2023.
  59. Amann, Christina; Hübner, Alexander; Weiss, Patricia (2023-06-20). "China's premier tells German CEOs biggest risk is lack of cooperation". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-20.
  60. "Germany, China hold meeting amid tensions over trade, Ukraine". Al Jazeera. 20 June 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 June 2023. สืบค้นเมื่อ 20 June 2023.
  61. Shi, Jiangtao (23 June 2023). "Li Qiang calls on France, EU to maintain strategic autonomy, expand cooperation". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 23 June 2023.
  62. Lo, Kinling; Sun, Luna (27 June 2023). "World Economic Forum: Premier Li Qiang plays up China's economic prospects, hits out at West over 'de-risking' calls". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 18 December 2024.
  63. Needham, Kirsty (2023-09-07). "Australian PM to visit China soon as both sides hail progress". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-08. สืบค้นเมื่อ 2023-09-08.
  64. Lee, Haye-ah (6 September 2023). "S. Korea, China in talks to arrange meeting between Yoon, Li Qiang". Yonhap News Agency. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 September 2023. สืบค้นเมื่อ 8 September 2023.
  65. Suruga, Tsubasa; Royandoyan, Ramon (6 September 2023). "Japan PM, China premier trade barbs over Fukushima water release". Nikkei Asia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2023. สืบค้นเมื่อ 8 September 2023.
  66. Ip, Cyril (8 September 2023). "South Korean leader Yoon says China should do more to address North's nuclear threat". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2023. สืบค้นเมื่อ 8 September 2023.
  67. Karmini, Niniek (8 September 2023). "Indonesia says China has pledged $21B in new investment to strengthen ties". Associated Press. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 September 2023. สืบค้นเมื่อ 8 September 2023.
  68. 68.0 68.1 Tian, Yew Lun (2023-09-10). "China, Europe should 'unite and co-operate', Premier Li says at G20". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-10. สืบค้นเมื่อ 2023-09-11.
  69. "Italian PM Meloni, China's Li Qiang discuss closer ties at G20 summit". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2023-09-09. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-11. สืบค้นเมื่อ 2023-09-11.
  70. Magnier, Mark (11 September 2023). "US holds highest-level talks with China in months, with Biden-Li meeting at G20". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 September 2023. สืบค้นเมื่อ 11 September 2023.
  71. Smout, Alistair (2023-09-11). "PM Sunak raises concern over interference in UK democracy with China's Li". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-11. สืบค้นเมื่อ 2023-09-11.
  72. Chan, Melody (2024-06-07). "A free trade pact could see strongest economic ties yet for China, Japan and South Korea. Can they make it happen?". Channel NewsAsia. สืบค้นเมื่อ 2025-03-04.
  73. Craymer, Lucy; Qiu, Stella (13 June 2024). "China and New Zealand deepen trade ties, discuss rights issues during Premier Li visit". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2024. สืบค้นเมื่อ 14 June 2024.
  74. "Chinese premier meets pro-Trump senator and calls for 'dialogue over confrontation'". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2025-03-23. ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2025-03-24.
  75. 75.0 75.1 75.2 Mitchell, Tom (2022-10-28). "Li Qiang, Xi's right-hand man". Financial Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-07-11. สืบค้นเมื่อ 2022-10-29.
  76. Campbell, Charlie (17 April 2024). "Li Qiang". Time. สืบค้นเมื่อ 3 January 2025.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
ก่อนหน้า หลี่ เฉียง ถัดไป
วาระในพรรคการเมือง
สมัยก่อนหน้า
เจี่ยง จฺวี้เฟิง
เลขาธิการพรรคประจำเวินโจว
ค.ศ. 2002–2004
สมัยต่อมา
หวัง เจี้ยนหม่าน (王建满)
สมัยก่อนหน้า
จาง ซี (张曦)
เลขาธิการคณะกรรมาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียง
ค.ศ. 2004–2012
สมัยต่อมา
จ้าว อีเต๋อ
สมัยก่อนหน้า
หวัง ฮุยจง
เลขาธิการคณะกรรมการกิจการการเมืองและกฎหมายคณะกรรมาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียง
2011–2012
สมัยต่อมา
หวัง ฮุยจง
สมัยก่อนหน้า
เซี่ย เป่าหลง
รองเลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียง
ค.ศ. 2011–2012
สมัยต่อมา
หวัง ฮุยจง
สมัยก่อนหน้า
หลัว จื้อจฺวิน
เลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจียงซู
ค.ศ. 2016–2017
สมัยต่อมา
โหลว ฉินเจี่ยน
สมัยก่อนหน้า
หาน เจิ้ง
เลขาธิการพรรคประจำนครเซี่ยงไฮ้
2017–2022
สมัยต่อมา
เฉิน จี๋หนิง
เจ้าหน้าที่รัฐบาล
สมัยก่อนหน้า
เซี่ย เป่าหลง
ผู้ว่าการมณฑลเจ้อเจียง
ค.ศ. 2012–2016
สมัยต่อมา
เชอ จฺวิ้น
สมัยก่อนหน้า
หลี่ เค่อเฉียง
นายกรัฐมนตรีจีน
2023–ปัจจุบัน
ในตำแหน่ง

อ้างอิง

[แก้]