หยาง จี้
หยาง จี้ | |
|---|---|
| 楊濟 | |
| ราชครูประจำองค์รัชทายาท (太子太傅 ไท่จื่อไท่ฟู่) | |
| ดำรงตำแหน่ง ? – ค.ศ. 291 | |
| กษัตริย์ | จักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ |
| ขุนพลโจมตีภาคเหนือ (征北將軍 เจิงเป่ย์เจียงจฺวิน) | |
| ดำรงตำแหน่ง ?–? | |
| ขุนพลพิทักษ์ภาคใต้ (鎮南將軍 เจิ้นหนานเจียงจฺวิน) | |
| ดำรงตำแหน่ง ?–? | |
| ข้อมูลส่วนบุคคล | |
| เกิด | ไม่ทราบ นครฮฺว่าอิน มณฑลฉ่านซี |
| เสียชีวิต | ค.ศ. 291ุ |
| ความสัมพันธ์ |
|
| อาชีพ | ขุนพล, ขุนนาง |
| ชื่อรอง | เหวินทง (文通) |
หยาง จี้ (จีน: 楊濟; พินอิน: Yáng Jì; เสียชีวิต ค.ศ. 291) หรือ เอียงจี[a] ชื่อรอง เหวินทง (จีน: 文通; พินอิน: Wéntōng) เป็นขุนพลและขุนนางในยุคราชวงศ์จิ้นตะวันตกของจีน
ประวัติ
[แก้]หยาง จี้เป็นชาวอำเภอฮัวหิม (華陰縣 ฮฺว่าอินเซี่ยน) เมืองฮองหลง (弘農郡 หงหนงจฺวิ้น) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของนครฮฺว่าอิน (華陰市 ฮฺว่าอินชื่อ) มณฑลฉ่านซีในปัจจุบัน หยาง จี้เป็นพระปิตุลา (อา) ของจักรพรรดินีหยาง จื่อ (楊芷) พระมเหสีของสุมาเอี๋ยน (司馬炎 ซือหม่า เหยียน) จักรพรรดิผู้ก่อตั้งราชวงศ์จิ้น เป็นน้องชายของหยาง จฺวิ้น (楊駿) ผู้เป็นบิดาของจักรพรรดินีหยาง จื่อ หยาง จี้มียศเป็นขุนพลพิทักษ์ภาคใต้ (鎮南將軍 เจิ้นหนานเจียงจฺวิน) และขุนพลโจมตีภาคเหนือ (征北將軍 เจิงเป่ย์เจียงจฺวิน) ตามลำดับ และขึ้นมามีตำแหน่งสูงสุดเป็นราชครูประจำองค์รัชทายาท (太子太傅 ไท่จื่อไท่ฟู่)[2]
หยาง จี้เป็นผู้มีความสามารถ ครั้งหนึ่งเคยตามเสด็จจักรพรรดิสุมาเอี๋ยนซึ่งเสด็จประพาสล่าสัตว์ที่เป่ย์หมาง (北芒) หยาง จี้สวมกางเกงผ้า ขี่ม้าถือเกาทัณฑ์นำหน้าขบวนเสด็จพร้อมกับหวาง จี้ (王濟) ผู้เป็นขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) ทันใดนั้นก็มีสัตว์ป่าดุร้ายปรากฏตัวขึ้น จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนมีรับสั่งให้หวาง จี้ยิงเกาทัณฑ์ หวาง จี้ก็ยิงไปถูกสัตว์ร้ายล้มลง ต่อมาไม่นานมีสัตว์ร้ายอีกตัวปรากฏตัวขึ้น หยาง จี้ได้รับบัญชาให้ยิงและยิงถูกสัตว์นั้นล้มลง ทั้งหกเหล่าทัพก็โห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี[3]
จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงให้ความสำคัญกับตำแหน่งขุนนางฝ่ายทหาร มักทรงพระราชทานตำแหน่งอันทรงเกียรติและเป็นที่เคารพให้กับพระญาติฝ่ายพระมเหสี หยาง จี้เหมาะสมกับตำแหน่งเพราะมีความสามารถด้านการรบที่โดดเด่น[4] หยาง จี้และเหยาง เหยา (楊珧) พี่ชาย (น้องชายคนรองของหยาง จฺวิ้น) เป็นผู้มองการณ์ไกล ดังนั้นทั้งสองร่วมกับหลี่ ปิน (李斌) ที่เป็นหลานชายและคนอื่น ๆ ในการเสนอและทัดทานในเรื่องต่าง ๆ[5] เรื่องที่หยาง จฺวิ้นปลดหวาง โย่ว (王佑) จากตำแหน่งเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองฮอตั๋ง (河東郡 เหอตงจฺวิ้น) และเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาท ล้วนเป็นไปตามแผนการของหยาง จี้[6]
ในตอนแรก หยาง จฺวิ้นไม่ชอบซือหม่า เลี่ยง (司馬亮) เป็นอ๋องแห่งยีหลำ (汝南王 หรู่หนานหวาง) และเสนาบดีกลาโหม (大司馬 ต้าซือหม่า) จึงกดดันให้ซือหม่า เลี่ยงเสด็จกลับไปรัฐศักดินาของพระองค์ หยาง จี้และหลี่ ปินทัดทานหยาง จฺวิ้นหลายครั้ง หยาง จฺวิ้นไม่ฟังและเหินห่างจากหยาง จี้[7] หยาง จี้กล่าวกับฟู่ เสียน (傅咸) ว่า "หากท่านพี่เรียกองค์เสนาบดีกลาโหมกลับเข้ามาและถอยตัวหลีกเลี่ยง วงศ์ตระกูลก็อาจพ้นภัยได้ หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็จะถูกกวาดล้างทั้งตระกูลเป็นแน่" ฟู่ เสียนตอบว่า "เพียงแค่เรียกพระองค์กลับมาและร่วมกันเชิดชูความยุติธรรมสูงสุด ก็จะเกิดสันติขึ้นได้ จึงไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยง ผู้เป็นขุนนางไม่ควรผูกขาดอำนาจ ไม่เพียงเฉพาะพระญาติฝ่ายพระมเหสี! บัดนี้ราชวงศ์เหินห่างกัน ต้องอาศัยพระญาติฝ่ายพระมเหสีจึงจะกลับมาสงบ หากพระญาติฝ่ายพระมเหสีอยู่ในอันตราบ ก็ต้องอาศัยบารมีของราชวงศ์เป็นที่พึ่ง เรียกได้ว่าพึ่งพากันดุจริมฝีปากกับฟัน นี่จึงเป็นแผนที่วิเศษ"[8] หยาง จี้รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถามฉือ ฉง (石崇) ว่า "ความคิดของผู้คนเป็นอย่างไรบ้าง" ฉือ ฉงตอบว่า "พี่ชายของท่านกุมอำนาจ ทำให้พระญาติฝ่ายพระมเหสีและราชวงศ์เหินห่างกัน ควรกระจายอำนาจไปทั่วแผ่นดิน" หยาง จี้พูดว่า "หากพบกับท่านพี่แล้วโปรดกล่าวถึงเรื่องนี้ด้วย" ฉือ ฉงไปพบหยาง จฺวิ้นและกล่าวถึงเรื่องนี้ แต่หยาง จฺวิ้นไม่ยอมรับฟัง[9]
เมื่อ ค.ศ. 291 จักรพรรดินีเจี่ย หนานเฟิง (賈南風) พระมเหสีของจักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ (晉惠帝) ก่อรัฐประหารโค่นอำนาจและสังหารหยาง จฺวิ้น หยาง เหยาและหยาง จี้ที่เป็นน้องชายของหยาง จฺวิ้นก็ถูกสังหารเช่นกัน ในคืนที่เกิดเหตุนั้น วังตะวันออก (ที่ประทับของรัชทายาท) เรียกตัวหยาง จี้เข้ามา หยาง จี้จึงถามเผย์ ข่าย (裴楷) ว่า "ข้าควรไปที่ไหนดี" เผย์ ข่ายตอบว่า "ท่านเป็นราชครู จึงควรไปวังตะวันออก" หยาง จี้เป็นคนชอบแบ่งปันและกำกับดูแลกองทัพมาเป็นเวลานาน ผู้ใต้บังคับบัญชาสี่ร้อยกว่านายล้วนเป็นทหารจากภูมิภาคจิ๋น (秦 ฉิน) มีความสามารถยิงเกาทัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ ทุกนายต้องการช่วยชีวิตหยาง จี้ แต่โชคร้ายที่หยาง จี้เข้าวังไปแล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความเศร้า[10]
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ ("ยังมีขุนนางผู้หนึ่งชื่อเอียงจุ้นเป็นบิดาของเอียงกิมฮองเฮา แจ้งความว่าขุนนางทั้งปวงทำเรื่องราวไปถวายทูลพระสติ พระเจ้าซีโจบู๊ฮ่องเต้ก็นิ่งเฉยเสีย จึงคิดว่าพระเจ้าซีโจบู๊ฮ่องเต้นี้ เห็นจะกลับพระทัยไม่ได้เป็นแน่แล้ว จึงให้หาเอียงเอี๋ยวเอียงจีผู้น้องมาปรึกษา") ไซจิ้น, พิมพ์ครั้งที่ 5, สำนักพิมพ์โฆษิต, 2551, หน้า 60.
- ↑ (濟字文通,歷位鎮南、征北將軍,遷太子太傅。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (濟有才藝,嘗從武帝校獵北芒下,與侍中王濟俱著布袴褶,騎馬執角弓在輦前。猛獸突出,帝命王濟射之,應弦而倒。須臾復一出,濟受詔又射殺之,六軍大叫稱快。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (帝重兵官,多授貴戚清望,濟以武藝號爲稱職。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (與兄珧深慮盛滿,乃與諸甥李斌等共切諫。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (駿斥出王佑爲河東太守,建立皇儲,皆濟謀也。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (初,駿忌大司馬汝南王亮,催使之籓。濟與斌數諫止之,駿遂疏濟。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (濟謂傅咸曰:「若家兄徵大司馬入,退身避之,門戸可得免耳。不爾,行當赤族。」咸曰:「但徵還,共崇至公,便立太平,無爲避也。夫人臣不可有專,豈獨外戚!今宗室疏,因外戚之親以得安,外戚危,倚宗室之重以爲援,所謂脣齒相依,計之善者。」) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (濟益懼而問石崇曰:「人心云何?」崇曰:「賢兄執政,疏外宗室,宜與四海共之。」濟曰:「見兄,可及此。」崇見駿,及焉,駿不納。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
- ↑ (後與諸兄俱見害。難發之夕,東宮召濟。濟謂裴楷曰:「吾將何之?」楷曰:「子爲保傅,當至東宮。」濟好施,久典兵馬,所從四百餘人皆秦中壯士,射則命中,皆欲救濟。濟已入宮,莫不歎恨。) จิ้นชู เล่มที่ 40.
บรรณานุกรม
[แก้]- ฝาง เสฺวียนหลิง (บก.) (648). จิ้นชู.