หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร
หม่อมเจ้า ชั้น 5
ดวงทิพย์โชติแจ้งหล้า รพีพัฒน์.jpg
สวามีหม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร
พระบุตร5 คน
ราชสกุลรพีพัฒน์ (โดยประสูติ)
อาภากร (โดยสมรส)
ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
พระมารดาหม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา
ประสูติ11 ตุลาคม พ.ศ. 2457
สิ้นชีพิตักษัย4 มีนาคม พ.ศ. 2542 (84 ปี)
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ศาสนาพุทธ

หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร (ราชสกุลเดิม รพีพัฒน์; 11 ตุลาคม พ.ศ. 2457 – 4 มีนาคม พ.ศ. 2542) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติแต่หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา

พระประวัติ[แก้]

หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร (ราชสกุลเดิม รพีพัฒน์) เป็นพระธิดาใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติแต่หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา ประสูติเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2457 และสิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที 4 มีนาคม พ.ศ. 2542 สิริชันษา 83 ปี มีโสทรภราดาและโสทรภคินี 10 องค์ และมีขนิษฐาต่างพระมารดา 2 องค์

เมื่อทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์แมรี่ และได้อาสาสมัครเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ และในปี พ.ศ. 2489 ได้ทรงติดตามพระสวามีไปรับตำแหน่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และประทับอยู่จนถึง พ.ศ. 2493 โดยทรงใช้เวลาว่างในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและสามารถทำอาหารไทยและฝรั่งได้เป็นอย่างดี

ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร โปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้า พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 4 และ 5 เชิญทั้งเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภค ทั้งหมด 16 องค์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยืนกลาง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงยืนเบื้องขวาพระองค์ แวดล้อมด้วยพระราชนัดดา ในรัชกาลที่ 4 และ 5 ทรงเชิญเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภคหม่อมเจ้าดวงทิพย์โชติแจ้งหล้า รพีพัฒน์ พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 5 เชิญศิลาบด

ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร โปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้า พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 4 และ 5 เชิญทั้งเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภค ทั้งหมด 16 องค์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยืนกลาง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงยืนเบื้องขวาพระองค์ แวดล้อมด้วยพระราชนัดดา ในรัชกาลที่ 4 และ 5 ทรงเชิญเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภค หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า รพีพัฒน์ เชิญศิลาบท แถวหน้า ลำดับที่ 1

หลังจากที่พลเรือเอกหม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร ได้สิ้นชีพิตักษัยลงขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2509 ท่านหญิงได้ทรงสละเวลาให้แก่กิจการสังคมสงเคราะห์อย่างเต็มที่ โดยทรงเข้ากลุ่มทำกิจกรรมเป็นกรรมการและเป็นประธานของสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ที่ได้เริ่มตั้งขึ้นเมือปี 2511 และนอกจากนี้ท่านหญิงยังได้ทรงร่วมเสด็จไปแจกจ่ายเครื่องอุปโภค บริโภค เวชภัณฑ์ต่างๆ ยังถิ่นทุรกันดารอยู่เสมอ และยังทรงเป็นประธานกรรมการจัดหาทุนเข้าสภากาชาดไทย โดยจัดกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟการกุศลเป็นเวลาหลายปี

ท่านหญิงทรงเริ่มล้มป่วยลงเมื่อปี พ.ศ. 2539 ด้วยโรคพาร์กินสัน และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เข้าเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จนกระทั่งสิ้นชีพิตักษัย เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2542 เวลา 8.20 น. ด้วยโรคพระหทัยวาย และปอดติดเชื้อ สิริพระชันษา 84 ปี[1]

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานเพลิงศพด้วยพระองค์เอง ณ พระเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส

เสกสมรส[แก้]

หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร เสกสมรสกับ พลเรือเอกหม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กับหม่อมช้อย วิจิตรานุช มีโอรสธิดา คือ[2]

  • หม่อมราชวงศ์ชาย (ถึงแก่กรรมตั้งแต่เด็ก)
  • หม่อมราชวงศ์ทิพภากร สมรสกับหม่อมราชวงศ์วิบูลย์เกียรติ วรวรรณ มีบุตรธิดา 2 คน คือ
    • หม่อมหลวงเกียรติกร วรวรรณ
    • หม่อมหลวงสุทธิ์ธรทิพย์ วรวรรณ
  • หม่อมราชวงศ์ชาย (ถึงแก่กรรมตั้งแต่เด็ก)
  • หม่อมราชวงศ์ชาย (ถึงแก่กรรมตั้งแต่เด็ก)
  • หม่อมราชวงศ์พรระพี อาภากร สมรสกับอุมาภร (สกุลเดิม ศุภสมุทร) มีบุตร 1 คน คือ
    • หม่อมหลวงพงศ์ระพีพร อาภากร

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. จากหนังสือพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร
  2. กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มดี, พ.ศ. 2551. 290 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
  3. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2535" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 109 (154ง ฉบับพิเศษ): 4. 4 ธันวาคม 2535. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-28. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2556. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  4. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ประจำปี 2532" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 106 (73ง ฉบับพิเศษ): 5. 4 พฤษภาคม 2532. สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2555. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  5. "ประกาศกระทรวงวัง เรื่องการประดับเสมาบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน (ทอง, กาโหล่ทอง, เงิน, ทองแดง)" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 43: 3720. 16 มกราคม 2469 (สากล 2470). สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2563. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)