หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร
หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 5 | |
![]() | |
สวามี | หม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร |
พระบุตร | 5 คน |
ราชสกุล | รพีพัฒน์ (โดยประสูติ) อาภากร (โดยสมรส) |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ |
พระมารดา | หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา |
ประสูติ | 11 ตุลาคม พ.ศ. 2457 |
สิ้นชีพิตักษัย | 4 มีนาคม พ.ศ. 2542 (84 ปี) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
ศาสนา | พุทธ |
หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร (ราชสกุลเดิม รพีพัฒน์; 11 ตุลาคม พ.ศ. 2457 – 4 มีนาคม พ.ศ. 2542) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติแต่หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา
พระประวัติ[แก้]
หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร (ราชสกุลเดิม รพีพัฒน์) เป็นพระธิดาใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติแต่หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา ประสูติเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2457 และสิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที 4 มีนาคม พ.ศ. 2542 สิริชันษา 83 ปี มีโสทรภราดาและโสทรภคินี 10 องค์ และมีขนิษฐาต่างพระมารดา 2 องค์
เมื่อทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์แมรี่ และได้อาสาสมัครเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ และในปี พ.ศ. 2489 ได้ทรงติดตามพระสวามีไปรับตำแหน่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และประทับอยู่จนถึง พ.ศ. 2493 โดยทรงใช้เวลาว่างในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและสามารถทำอาหารไทยและฝรั่งได้เป็นอย่างดี
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร โปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้า พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 4 และ 5 เชิญทั้งเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภค ทั้งหมด 16 องค์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยืนกลาง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงยืนเบื้องขวาพระองค์ แวดล้อมด้วยพระราชนัดดา ในรัชกาลที่ 4 และ 5 ทรงเชิญเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภคหม่อมเจ้าดวงทิพย์โชติแจ้งหล้า รพีพัฒน์ พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 5 เชิญศิลาบด

หลังจากที่พลเรือเอกหม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร ได้สิ้นชีพิตักษัยลงขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2509 ท่านหญิงได้ทรงสละเวลาให้แก่กิจการสังคมสงเคราะห์อย่างเต็มที่ โดยทรงเข้ากลุ่มทำกิจกรรมเป็นกรรมการและเป็นประธานของสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ที่ได้เริ่มตั้งขึ้นเมือปี 2511 และนอกจากนี้ท่านหญิงยังได้ทรงร่วมเสด็จไปแจกจ่ายเครื่องอุปโภค บริโภค เวชภัณฑ์ต่างๆ ยังถิ่นทุรกันดารอยู่เสมอ และยังทรงเป็นประธานกรรมการจัดหาทุนเข้าสภากาชาดไทย โดยจัดกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟการกุศลเป็นเวลาหลายปี
ท่านหญิงทรงเริ่มล้มป่วยลงเมื่อปี พ.ศ. 2539 ด้วยโรคพาร์กินสัน และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เข้าเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จนกระทั่งสิ้นชีพิตักษัย เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2542 เวลา 8.20 น. ด้วยโรคพระหทัยวาย และปอดติดเชื้อ สิริพระชันษา 84 ปี[1]
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานเพลิงศพด้วยพระองค์เอง ณ พระเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
เสกสมรส[แก้]
หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร เสกสมรสกับ พลเรือเอกหม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กับหม่อมช้อย วิจิตรานุช มีโอรสธิดา คือ[2]
- หม่อมราชวงศ์ชาย (ถึงแก่กรรมตั้งแต่เด็ก)
- หม่อมราชวงศ์ทิพภากร สมรสกับหม่อมราชวงศ์วิบูลย์เกียรติ วรวรรณ มีบุตรธิดา 2 คน คือ
- หม่อมหลวงเกียรติกร วรวรรณ
- หม่อมหลวงสุทธิ์ธรทิพย์ วรวรรณ
- หม่อมราชวงศ์ชาย (ถึงแก่กรรมตั้งแต่เด็ก)
- หม่อมราชวงศ์ชาย (ถึงแก่กรรมตั้งแต่เด็ก)
- หม่อมราชวงศ์พรระพี อาภากร สมรสกับอุมาภร (สกุลเดิม ศุภสมุทร) มีบุตร 1 คน คือ
- หม่อมหลวงพงศ์ระพีพร อาภากร
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2535 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[3]
- พ.ศ. 2532 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2532 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายใน)[4]
- พ.ศ. 2484 –
เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ร.)
- พ.ศ. 2469 –
เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2469 - เสมาบรมราชาภิเษกทอง รัชกาลที่ 7[5]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ จากหนังสือพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าดวงทิพโชติแจ้งหล้า อาภากร
- ↑ กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มดี, พ.ศ. 2551. 290 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
- ↑ "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2535" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 109 (154ง ฉบับพิเศษ): 4. 4 ธันวาคม 2535. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-28. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2556.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ประจำปี 2532" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 106 (73ง ฉบับพิเศษ): 5. 4 พฤษภาคม 2532. สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2555.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "ประกาศกระทรวงวัง เรื่องการประดับเสมาบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน (ทอง, กาโหล่ทอง, เงิน, ทองแดง)" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 43: 3720. 16 มกราคม 2469 (สากล 2470). สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2563.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help)
![]() |
บทความเกี่ยวกับชีวประวัตินี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |