สโมสรฟุตบอลเรกซัม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สโมสรฟุตบอลเรกซัม
ฉายามังกรแดง
ก่อตั้งตุลาคม ค.ศ. 1864[1]
สนามเรซคอร์สกราวด์
Ground ความจุ10,771
เจ้าของRR McReynolds Company LLC (ไรอัน เรย์โนลส์ และร็อบ แมคเอลเฮนนีย์)
ผู้จัดการฟิล พาร์กินสัน
ลีกอีเอฟแอลลีกทู
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน

สโมสรฟุตบอลเรกซัม (เวลส์: Clwb Pêl-droed Wrecsam, อังกฤษ: Wrexham Association Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของเวลส์ ตั้งอยู่ที่เมืองเรกซัม ประเทศเวลส์ ทีมเข้าแข่งขันในอีเอฟแอลลีกทู ดิวิชัน 4 ของระบบลีกฟุตบอลอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1864[1] เป็นสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในเวลส์และเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก[2]

สโมสรเรกซัมเข้าร่วมในการแข่งขันนัดกระชับมิตรและบอลถ้วย และเข้าร่วมฟุตบอลลีกครั้งแรกด้วยการเข้าร่วม The Combination ใน ค.ศ. 1890 สโมสรลงเล่น 13 ฤดูกาลในเดอะคอมบิเนชัน และอีก 2 ฤดูกาลในเวลช์ซีเนียร์ลีก โดยคว้าแชมป์คอมบิเนชันสี่สมัยและแชมป์เวลช์ซีเนียร์ลีก 2 สมัย ใน ค.ศ. 1992 เรกซัมคว่ำแชมป์ดิวิชัน 1 ในฤดูกาลที่แล้วคืออาร์เซนอลในเอฟเอคัพ พวกเขายังเก็บชัยชนะเหนือสโมสรฟุตบอลโปร์ตู 1-0 ใน ค.ศ. 1984 ในศึกยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ โดยเรกซัมมีสิทธิ์เข้าร่วมศึกยูโรเปียนคัพวินเนอส์คัพ เนื่องจากการคว้าแชมป์เวลส์คัพ; การแข่งขันในระดับยุโรปครั้งแรกของพวกเขาคือพบกับสโมสรฟุตบอลซือริชใน ค.ศ. 1972 และครั้งสุดท้ายคือการเล่นในโรมาเนียกับเปตรอลุลปลอเยชต์ใน ค.ศ. 1995 เรซคอร์สกราวด์สนามเหย้าของเรกซัม เป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงใช้จัดการแข่งขันระดับนานาชาติ[3] สถิติผู้ชมมากที่สุดเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1957 เมื่อสโมสรพบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต่อหน้าผู้ชม 34,445 คน[4]

ประวัติ[แก้]

1864–1905[แก้]

สโมสรนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1864 โดยสมาชิกของสโมสรคริกเกตเรกซัมที่ต้องการกิจกรรมกีฬาในช่วงฤดูหนาว สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับห้าและเก่าแก่ที่สุดในเวลส์[5] เกมแรกอย่างเป็นทางการของพวกเขาเล่นในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1864 ที่สนามคริกเกตของเทศมณฑลเดอร์บีเชอร์ เจอกับ Prince of Wales Fire Brigade[1]

2020–ปัจจุบัน:เจ้าของใหม่[แก้]

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ไรอัน เรย์โนลด์ส นักแสดงชาวแคนาดา และร็อบ แมคเอลเฮนนีย์ นักแสดงชาวอเมริกัน ซื้อสโมสรผ่าน RR McReynolds LLC ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 2,000 คนของ Wrexham Supporters Trust[6][7] และเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 พวกเขารวมอยู่ในฟีฟ่า 22 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ "Rest of the World" กลายเป็นสโมสรนอกลีกทีมแรกที่อยู่ในซีรีส์นี้[8] ในฤดูกาล 2021-2022 เรกซัมจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์ก่อนจะแพ้กริมสบีทาวน์ 4-5 ในรอบเพลย์ออฟรองชนะเลิศหลังต่อเวลาพิเศษ[9] เรกซัมยังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอโทรฟีปี 2022 แต่พวกเขาแพ้บรอมลีย์ 0-1[10]

หลังจากการซื้อกิจการ ซีรีส์สารคดีชื่อ Welcome to Wrexham ได้รับการประกาศว่าดำเนินการผลิตโดย FX ร่วมกับ Boardwalk Pictures ซีรีส์เปิดตัวในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2022 บน FX และ Hulu ในสหรัฐ ตามด้วยการเปิดตัวทางดิสนีย์+ ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในวันถัดมา[11][12][13] การซื้อกิจการโดยเรย์โนลด์ส และแมคเอลเฮนนีย์ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสารคดี Welcome to Wrexham มีผลกระทบอย่างมากต่อสโมสร ซึ่งนำไปสู่การได้ฐานแฟนบอลใหม่ทั่วโลกซึ่งไม่เคยมีมาก่อนสำหรับทีมในดิวิชัน 5[14][15][16] ชื่อเสียงของสโมสรเริ่มดึงดูดการรายงานข่าวโดยเฉพาะจากสื่อกีฬาระดับโลก ซึ่งปกติแล้วจะไม่รายงานข่าวให้กับทีมนอกพรีเมียร์ลีก[17] สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับสโมสรและลีกอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก โดย เดอะการ์เดียน ตั้งข้อสังเกตว่า "ทุกสโมสรต้องการ 'ทำตามเรกซัม' แต่ไม่ใช่ทุกสโมสรจะทำได้"[18]

สโมสรผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ในเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022–23 โดยเป็นสโมสรในเนชันนัลลีกเพียงสโมสรเดียวที่ทำได้ โดยเอาชนะคอเวนทรีซิตี ในรอบที่ 3 แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตกรอบด้วยน้ำมือของเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด การแข่งขันกับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดคือการแข่งขันฟุตบอลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดของอีเอสพีเอ็น ในทุกแพลตฟอร์มดิจิทัล[19] เรกซัมแข่งขันกับนอตส์เคาน์ตีตลอดทั้งฤดูกาลเพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงของลีก และทั้งคู่สร้างสถิติใหม่สำหรับชัยชนะ ประตู และผลต่างประตูในเนชันนัลลีก ขณะที่นำหน้าอันดับ 3 อยู่ 20+ คะแนนเมื่อจบฤดูกาล[20] ในวันเสาร์ที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2023 เรกซัมคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 45 ปี และเลื่อนชั้นสู่อีเอฟแอลลีกทู หลังจากห่างหายไป 15 ปี หลังจากเปิดบ้านเอาชนะบอร์แฮม วูด 3-1[21] สโมสรเก็บคะแนนเป็นประวัติการณ์ถึง 110 คะแนน (113 คะแนนยังคงเป็นไปได้) ในฤดูกาลนี้ โดยเอาชนะนอตส์เคาน์ตีเป็นแชมป์ลีกและเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ[22]

ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 2023 สโมสรจะเดินทางไปทัวร์ที่สหรัฐ แข่งขันนัดกระชับมิตรหลายนัดในนอร์ทแคโรไลนาและแคลิฟอร์เนีย[23][24]

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2023 เรกซัมลงเล่นฟุตบอลลีกนัดแรกในรอบ 15 ปี โดยแพ้ในบ้านต่อมิลตันคีนส์ดอนส์[25]

สนามเหย้า[แก้]

ตั้งแต่ปี 1864 เรกซัมได้เล่นแมตช์ในบ้านที่เรซคอร์สกราวด์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนโมลด์ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่เรกซัม โดยตั้งอยู่ตรงข้ามย่าน Maesgwyn ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัย ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยกลินเดอร์ และสถานีรถไฟกลินเดอร์เจเนอรัล[26] ในเดือนสิงหาคม 2011 มหาวิทยาลัยกลินเดอร์ได้ซื้อสนามกีฬาและสนามฝึกซ้อมของสโมสรในเกรสฟอร์ดโดยเปลี่ยนชื่อสนามเป็น The Glyndŵr University Racecourse Stadium ต่อมาในปี 2016 Wrexham Supporters Trust ได้ทำสัญญาเช่าสนามเป็นเวลา 99 ปีและชื่อสนามเปลี่ยนกลับเป็น เรซคอร์สกราวด์[27] ความจุ 10,500 ที่นั่ง ทำให้ที่นี่เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเนชันนัลลีก[28]

ในเดือนมิถุนายน 2022 สโมสรฟุตบอลเรกซัมได้ซื้อกรรมสิทธิ์ในเรซคอร์ส กราวด์จากมหาวิทยาลัยและกำลังวางแผนปรับปรุงสนาม[29]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 Randall, Liam. "Wrexham FC Fans To Vote To Accept 1864 Date Change". Wrexham.com. สืบค้นเมื่อ 28 June 2012.
  2. Jones, Peter. "Wrexham AFC History". สืบค้นเมื่อ 21 December 2015.
  3. Bagnall, Steve (17 June 2008). "Guinness cheers Racecourse with official record". Daily Post Wales. สืบค้นเมื่อ 18 June 2008.
  4. "Wrexham v Manchester United, 26 January 1957". 11v11.com.
  5. "Wrexham football club could be older than thought". BBC News. 21 February 2012.
  6. "DONE DEAL: Ryan Reynolds and Rob McElhenney acquire Wrexham AFC". The Non-League Paper. 16 November 2020. สืบค้นเมื่อ 16 November 2020.
  7. "Ryan Reynolds and Rob McElhenney: Hollywood stars to take over Wrexham". BBC Sport. 16 November 2020. สืบค้นเมื่อ 16 November 2020.
  8. Yin-Poole, Wesley (13 September 2021). "The saga of Wrexham in FIFA 22 just took a weird turn". Eurogamer.
  9. Aled Williams (28 May 2022). "Wrexham 4–5 Grimsby Town". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 10 June 2022.
  10. Aled Williams (22 May 2022). "FA Trophy final: Wrexham 0–1 Bromley". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 12 June 2022.
  11. Martin, Kerry (19 May 2021). "Ryan Reynolds and Rob McElhenney announce 'Welcome to Wrexham' football club documentary". Yahoo! News. สืบค้นเมื่อ 26 July 2021.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  12. ""Welcome To Wrexham" Disney+ UK/Ireland Release Date Announced" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-07-04.
  13. "Welcome to Wrexham critic reviews". metacritic.com. August 23, 2022. สืบค้นเมื่อ August 23, 2022.
  14. Scudder, Jake (September 26, 2022). "Wrexham AFC: The fastest growing club in the world". Soccer Scene.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 20, 2022. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
  15. Portillo, Sam (April 22, 2023). "The Americans who've fallen in love with Wrexham amid Ryan Reynolds and Rob McElhenney's Hollywood story". Wales Online. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
  16. Lewis, Aimee; Foster, Matt (April 23, 2023). "Wrexham secures promotion in front of jubilant owners Ryan Reynolds and Rob McElhenney". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
  17. "Are Wrexham now a bigger club than Celtic and Rangers?". Nation.Cymru. March 9, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
  18. Ruthven, Graham (March 8, 2023). "Can MLS grow its fanbase by 'doing a Wrexham'?". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
  19. "Interest in Wrexham-Sheff Utd FA Cup game peaks on ESPN". World Soccer Talk.
  20. "Wrexham record points total in National League: Ryan Reynolds club claims record league haul". www.sportingnews.com. 18 April 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 April 2023. สืบค้นเมื่อ 19 April 2023.
  21. "'Honour of my life': Hollywood duo's emotional response after Wrexham AFC promoted". Fox Sports. 23 April 2023.
  22. "Wrexham: Welsh side win promotion to EFL with Hollywood actors watching". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2023-04-21. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 April 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-04-22.
  23. Pasztor, David (2023-04-20). "Chelsea confirm friendly against Wrexham for USA Tour". We Ain't Got No History (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-05-13.
  24. "Wrexham USA tour 2023: Schedule, tickets, stadiums and more". Pro Soccer Wire (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-04-21. สืบค้นเมื่อ 2023-05-13.
  25. Aled Williams (5 August 2023). "Wrexham's EFL return spoiled by MK Dons". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
  26. "The Racecourse Ground". Wrexham AFC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2022. สืบค้นเมื่อ 7 October 2022.
  27. "Glyndwr University is pleased to confirm that the transfer of the Racecourse Ground stadium freehold to Wrexham AFC has been completed". Glyndwr University. 29 June 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2022. สืบค้นเมื่อ 7 October 2022.
  28. Naman Ramachandran (20 July 2022). "Ryan Reynolds and Rob McElhenney's 'Welcome to Wrexham': Watch First Trailer for FX, Disney+ Welsh Soccer Club Series". Yahoo Finance. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2022. สืบค้นเมื่อ 7 October 2022.
  29. ""Great day" as Wrexham Football Club acquires freehold of Racecourse Stadium from Glyndwr University". Wrexham.com. 29 June 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2022. สืบค้นเมื่อ 8 October 2022.