สืบแสง พรหมบุญ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สืบแสง พรหมบุญ (18 ธันวาคม พ.ศ. 2484 – 25 มีนาคม พ.ศ. 2555) อดีตนักวิชาการทางประวัติศาสตร์ นักการศึกษา และนักการเมืองชาวไทย
ประวัติ[แก้]
สืบแสง เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2484 จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนพิณพลราษฎร์ จังหวัดพิษณุโลก ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยม) ปริญญาโทและปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยทุนของมูลนิธิเอ็ดวาร์ด ดับเบิลยู เฮเซน และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 77 (วปรอ.377)
ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ รองศาสตราจารย์ ดร.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 3 คน[1]
ผศ.ดร.สืบแสง พรหมบุญ ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555 ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ขณะที่โดยสารรถแท็กซี่ สิริอายุได้ 71 ปี ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ศาลา 2 วัดมกุฎกษัตริยารามราชวรวิหาร และเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 [2] [3]
การทำงาน[แก้]
รับราชการโดยเริ่มจากการเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นพระอาจารย์ถวายการสอนวิชาประวัติศาสตร์จีนแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งที่ทรงเป็นนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เป็นนายกสมาคมประวัติศาสตร์ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อมาได้ย้ายไปเป็นอาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้เป็นคณบดีระหว่างปี พ.ศ. 2526-พ.ศ. 2528
ผศ.ดร.สืบแสง พรหมบุญ เป็นอาจารย์พิเศษในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ในหลายสถาบันการศึกษา และเป็นรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและยุทธศาสตร์องค์กร และอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ในปี พ.ศ. 2538
ในทางด้านการศึกษา ได้เป็นผู้วางรากฐานการศึกษา โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์ในหลายสถาบัน เป็นกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย และ ประธานคณะกรรมการสืบค้นประวัติศาสตร์ไทยจากเอกสารจีน สำนักนายกรัฐมนตรี[4]
งานการเมือง[แก้]
ทางด้านการเมือง ได้ร่วมงานกับพรรคพลังใหม่ จากนั้นได้ย้ายเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 7 กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ) เมื่อปี พ.ศ. 2553 ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 62 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์[5] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
เคยเป็นประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2538[6]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2541 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[7]
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[8]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ สืบแสง พรหมบุญ จากเดลินิวส์
- ↑ กำหนดการพิธีพระราชทานเพลิงศพ ผศ.ดร.สืบแสง พรหมบุญ
- ↑ ผศ.ดร.สืบแสง พรหมบุญ[ลิงก์เสีย]
- ↑ ผศ.ดร.สืบแสง พรหมบุญ[ลิงก์เสีย]
- ↑ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคประชาธิปัตย์)
- ↑ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๑/๒๕๓๘ เรื่องแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสุรวรณ ไตรผล, นายสุกิจ อัถโถปกรณ์, นายสืบแสง พรหมบุญ)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๑๘, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๔๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2484
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2555
- นักประวัติศาสตร์ชาวไทย
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์
- อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ - ศิลปศาสตร์ - มนุษยศาสตร์
- บุคคลจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
- นิสิตเก่าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน
- บุคคลจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บุคคลจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
- พรรคประชาธิปัตย์
- พรรคพลังใหม่
- นักการเมืองไทย
- นักการศึกษาชาวไทย
- เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.