สิทธิออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิง

สิทธิออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิง[1] (อังกฤษ: Women's suffrage) เป็นสิทธิของผู้หญิงในการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีกรณีหลายกรณีที่ผู้หญิงได้รับสิทธิในการลงคะแนนเสียงอย่างเลือกปฏิบัติและถูกเพิกถอนสิทธิ ในสวีเดน สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิงแบบมีเงื่อนไขมีผลบังคับใช้ในช่วงยุคแห่งเสรีภาพ (ค.ศ. 1718–1772) เช่นเดียวกับในรัฐนิวเจอร์ซีย์ในช่วงการปฏิวัติและได้รับเอกราชในช่วงแรก (ค.ศ. 1776–1807) ในสหรัฐอเมริกา[2][3]
หมู่เกาะพิตแคร์นอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสภาได้ใน ค.ศ. 1838[4] ราชอาณาจักรฮาวายซึ่งเดิมมีสิทธิเลือกตั้งทั่วไปใน ค.ศ. 1840 ได้ยกเลิกกฎหมายนี้ใน ค.ศ. 1852 และต่อมาถูกผนวกเข้ากับสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 1898 ในช่วงหลายปีหลัง ค.ศ. 1869 หลายแว่นแคว้นที่จักรวรรดิบริติชและรัสเซียยึดครองได้ให้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งแก่ผู้หญิง และบางแว่นแคว้นก็กลายเป็นประเทศอธิปไตยในเวลาต่อมา เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และฟินแลนด์ รัฐและดินแดนหลายแห่งของสหรัฐอเมริกา เช่น ไวโอมิง (ค.ศ. 1869) และยูทาห์ (ค.ศ. 1870) ก็ให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงแก่ผู้หญิงเช่นกัน ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินได้รับสิทธิในการลงคะแนนเสียงในไอล์ออฟแมนใน ค.ศ. 1881 และใน ค.ศ. 1893 ผู้หญิงในอาณานิคมนิวซีแลนด์ของอังกฤษที่ปกครองตนเองในขณะนั้นได้รับสิทธิในการลงคะแนนเสียง[5] ในออสเตรเลีย อาณานิคมเซาท์ออสเตรเลียให้สิทธิแก่ผู้หญิงในการลงคะแนนเสียงและลงสมัครรับเลือกตั้งในรัฐสภาใน ค.ศ. 1895[6][7] ในขณะที่รัฐสภาออสเตรเลียให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงและลงสมัครรับการเลือกตั้งใน ค.ศ. 1902 (แม้ว่าจะอนุญาตให้ยกเว้น "ชาวพื้นเมืองอะบอริจิน" ก็ตาม)[8][9] ก่อนได้รับเอกราช ในแกรนด์ดัชชีฟินแลนด์ของรัสเซีย ผู้หญิงได้รับสิทธิเลือกตั้งเท่าเทียมกัน ทั้งสิทธิในการลงคะแนนเสียงและลงสมัครรับเลือกตั้งใน ค.ศ. 1906[10][11][12] องค์กรระดับชาติและนานาชาติก่อตั้งขึ้นเพื่อประสานงานความพยายามในการลงคะแนนเสียงของผู้หญิง โดยเฉพาะพันธมิตรสิทธิออกเสียงเลือกตั้งสตรีระหว่างประเทศ (ก่อตั้งใน ค.ศ. 1904 ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี)[13]
มหาอำนาจตะวันตกส่วนใหญ่ได้ขยายสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแก่ผู้หญิงในช่วงระหว่างสงคราม ได้แก่ แคนาดา (ค.ศ. 1917) เยอรมนี (ค.ศ. 1918) สหราชอาณาจักร (ค.ศ. 1918 สำหรับผู้หญิงอายุมากกว่า 30 ปีที่ตรงตามข้อกำหนดด้านทรัพย์สินบางประการ ค.ศ. 1928 สำหรับผู้หญิงทั้งหมด) ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ (ค.ศ. 1919) และสหรัฐอเมริกา (ค.ศ. 1920)[14] ข้อยกเว้นที่น่าสังเกตในยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส ซึ่งผู้หญิงไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้จนถึง ค.ศ. 1944 กรีซ (ไม่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงจนถึง ค.ศ. 1952 แม้ว่าตั้งแต่ ค.ศ. 1930 ผู้หญิงที่รู้หนังสือก็สามารถลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่นได้) และสวิตเซอร์แลนด์ (ซึ่งตั้งแต่ ค.ศ. 1971 ผู้หญิงสามารถลงคะแนนเสียงในระดับรัฐบาลกลาง และระหว่าง ค.ศ. 1959 ถึง ค.ศ. 1990 ผู้หญิงมีสิทธิลงคะแนนเสียงในระดับรัฐในท้องถิ่น) เขตอำนาจศาลยุโรปแห่งสุดท้ายที่ให้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิงคือลีชเทินชไตน์ใน ค.ศ. 1984 และรัฐอัพเพินท์เซ็ลอินเนอร์โรเดินของสวิตเซอร์แลนด์ในระดับท้องถิ่นใน ค.ศ. 1990[15] โดยนครรัฐวาติกันเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์โดยเลือกตั้ง (ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของสันตะสำนักในการประชุมเลือกสันตะปาปา ประกอบด้วยพระคาร์ดินัลชาย แทนที่จะเป็นพลเมืองวาติกัน) ในบางกรณีของระบอบประชาธิปไตยโดยตรง เช่น รัฐของสวิตเซอร์แลนด์ที่ปกครองโดยสภารัฐ (Landsgemeinden) การคัดค้านการขยายการลงคะแนนเสียงถูกกล่าวอ้างว่าข้อจำกัดด้านลอจิสติกส์ และการไม่มีการลงคะแนนเสียงแบบลับทำให้การขยายสิทธิออกเสียงนั้นไม่สามารถทำได้จริงและไม่จำเป็น ในขณะที่บางกรณี เช่น รัฐอัพเพินท์เซ็ลเอาเซอร์โรเดินกลับยกเลิกระบบนี้ทั้งหมดสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายแทน[16][17][18]
กลุ่มต่อต้านสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิงก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เช่น สันนิบาตต่อต้านสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิงแห่งชาติ อ้างว่าผู้หญิงไม่มีประสบการณ์ในกิจการทหาร พวกเขาอ้างว่าเนื่องจากผู้หญิงเป็นคนส่วนใหญ่ของประชากร ผู้หญิงจึงควรลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่เนื่องจากขาดประสบการณ์ในกิจการทหาร พวกเขาจึงยืนยันว่าการอนุญาตให้ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งระดับชาติอาจเป็นอันตราย[19]
การรณรงค์ทางการเมืองที่ขยายวงกว้างโดยผู้หญิงและผู้สนับสนุนเป็นสิ่งจำเป็นในการผลักดันให้มีการออกกฎหมายหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ผู้หญิงมีสิทธิออกเสียง ในหลายประเทศ ผู้หญิงมีสิทธิออกเสียงจำกัดก่อนที่ผู้ชายจะมีสิทธิออกเสียงทั่วไป ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่รู้หนังสือหรือเจ้าของทรัพย์สินจะได้รับสิทธิออกเสียงก่อนที่ผู้ชายทุกคนจะได้รับ สหประชาชาติสนับสนุนสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิงในช่วงหลายปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (ค.ศ. 1979) ระบุว่า สิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานโดยปัจจุบันมี 189 ประเทศที่เป็นภาคีของอนุสัญญานี้
อ้างอิง
[แก้]- ↑ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. ศัพท์รัฐศาสตร์ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่ ๔ (แก้ไขเพิ่มเติม) กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสภา, 2544
- ↑ Karlsson Sjögren, Åsa, Männen, kvinnorna och rösträtten: medborgarskap och representation 1723–1866 [Men, women, and suffrage: citizenship and representation 1723–1866], Carlsson, Stockholm, 2006 (in Swedish).
- ↑ "How Did the Vote Expand? New Jersey's Revolutionary Decade". www.amrevmuseum.org. สืบค้นเมื่อ 2024-08-16.
- ↑ "World suffrage timeline". nzhistory.govt.nz. สืบค้นเมื่อ 2025-03-08.
- ↑ "New Zealand women and the vote – Women and the vote | NZHistory, New Zealand history online".
- ↑ "Constitution (Female Suffrage) Act 1895 (SA)". Documenting a Democracy, Museum of Australian Democracy. สืบค้นเมื่อ 26 August 2024. Note: The South Australian Parliament passed the legislation in December 1894 but the Act did not gain royal assent and become law until February 1895.
{{cite web}}
: CS1 maint: postscript (ลิงก์) - ↑ Fenna, Alan; Robbins, Jane; Summers, John (5 September 2013). Government Politics in Australia. Pearson Higher Education AU. pp. 312–. ISBN 978-1-4860-0138-5.
- ↑ Documenting Democracy: Constitution (Female Suffrage) Act 1895 (SA); National Archives of Australia.
- ↑ Christine, Lindop (2008). Australia and New Zealand. Oxford: Oxford University Press. p. 27. ISBN 978-0-19-423390-3. OCLC 361237847.
- ↑ Brief history of the Finnish Parliament. eduskunta.fi.
- ↑ "Centenary of women's full political rights in Finland". July 20, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 20, 2011.
- ↑ Korpela, Salla (2018-12-31). "Finland's parliament: pioneer of gender equality". Finland.fi. สืบค้นเมื่อ 2021-10-07.
- ↑ Sneider, Allison (2010). "The New Suffrage History: Voting Rights in International Perspective". History Compass. 8 (7): 692–703. doi:10.1111/j.1478-0542.2010.00689.x. ISSN 1478-0542.
- ↑ Temkin, Moshik (2024-01-22). "Essential Elements for Turning a Cause into a Movement : Lessons from the Suffrage Struggle for Today's Activists". The Commons Social Change Library (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). สืบค้นเมื่อ 2024-02-24.
- ↑ "Naked Swiss hikers must cover up". April 27, 2009.
- ↑ "Women's suffrage in Switzerland: 100 years of struggle". Federal Assembly. Federal Assembly.
- ↑ "Appenzell Inner Rhodes: The last Swiss canton to give women the vote". February 2, 2021.
- ↑ "The Landsgemeinde and Direct Democracy – the Swiss Spectator".
- ↑ "Women's National Anti-Suffrage League Manifesto" in Phelps, Edith M. (2013), Selected Articles on Woman Suffrage, London: Forgotten Books, pp. 257–9.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Photo Essay on Women's Suffrage by the International Museum of Women
- Women's Suffrage, "A World Chronology of the Recognition of Women's Rights to Vote and to Stand for Election".
- Suffrage in Canada
- Press release with respect to Qatar and Yemen
- UNCG Special Collections and University Archives selections of American Suffragette manuscripts
- Photographs of U.S. suffragettes, marches, and demonstrations
- Ada James papers and correspondence (1915–1918) – a digital collection presented by the University of Wisconsin Digital Collections Center. Ada James (1876–1952) was a leading a social reformer, humanitarian, and pacifist from Richland Center, Wisconsin and daughter of State Senator David G. James. The Ada James papers document the grass roots organizing and politics required to promote and guarantee the passage of women's suffrage in Wisconsin and beyond.
- Women's suffrage in Germany – January 19, 1919 – first suffrage (active and passive) for women in Germany
- Suffragists vs. Suffragettes – brief article outlining origins of term "suffragette", usage of term and links to other sources.
- Women in Congress – Information about women who have served in the U.S. Congress including historical essays that cover suffrage.
- "Culture Victoria – historical images and videos for the Centenary of Women's Suffrage". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-20.
- Woman suffragist, Mary Ellen Ewing vs the Houston School Board – Collection at the University of Houston Digital Library. เก็บถาวร พฤษภาคม 18, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Women's Suffrage and Equal Rights in the Claremont Colleges Digital Library
- Select "Suffrage" subject, at the Persuasive Cartography, The PJ Mode Collection, Cornell University Library
- Women of Protest: Photographs from the Records of the National Woman's Party
- Detailed Chronology of National Woman's *Digitized items from the National American Women's Suffrage Collection in the Rare Book and Special Collections Division of the Library of Congress
- UP & DOING!, a video re-enactment of the 1894 passage of women's suffrage in South Australia produced by the Parliament of South Australia
- “Let the Women Vote!,” PBS Utah, The Walter J. Brown Media Archives & Peabody Awards Collection at the University of Georgia, American Archive of Public Broadcasting