สำนักเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี
สำนักเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี (เกาหลี: 조선로동당 중앙위원회 비서국; อังกฤษ: Secretariat of the Workers' Party of Korea) เดิมชื่อ กรมนโยบายบริหาร (ค.ศ. 2016–21) ทำหน้าที่จัดการงานของกรมการเมืองพรรคแรงงานเกาหลีและคณะผู้บริหารสูงสุด เลขาธิการใหญ่เป็นผู้นำการดำเนินงานของสำนักเลขาธิการ และหน่วยงานนี้ประกอบด้วยสมาชิกหลายคน (เรียกว่า "เลขาธิการ")
ประวัติศาสตร์
[แก้]สำนักเลขาธิการ หน่วยงานนำร่องของกรมนโยบายบริหาร ถูกก่อตั้งขึ้นในการประชุมผู้แทนพรรคครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1966 และมีความคล้ายคลึงกับหน่วยงานคู่ขนานในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต (CPSU) ในสมัยสตาลิน[1] หัวหน้าสำนักเลขาธิการในขณะนั้นคือเลขาธิการใหญ่[1] จนกระทั่งถึง ค.ศ. 1966 พรรคแรงงานเกาหลียังไม่มีองค์กรใดที่คล้ายคลึงกับสำนักเลขาธิการ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากสำนักเลขาธิการเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอำนาจมากที่สุดในพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองประเทศอื่น ๆ[1] สำนักเลขาธิการถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงที่มีการแย่งชิงอำนาจเพื่อเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างการควบคุมของคิม อิล-ซ็องเหนือองค์กรระดับล่างของพรรค ด้วยเหตุนี้ สมาชิกส่วนใหญ่ของสำนักเลขาธิการชุดแรกจึงเป็นสมาชิกเต็มตัวหรือสมาชิกผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมของกรมการเมืองพรรคแรงงานเกาหลี[1] หลังการแย่งชิงอำนาจสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1967–68 สถานะของสำนักเลขาธิการก็ลดลง ซึ่ง "สะท้อนให้เห็นถึงสถานะที่ต่ำลงของแกนนำพรรคที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสำนักเลขาธิการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 6[1] ในการประชุมใหญ่นั้น มีสมาชิกเพียงสามคน (จากทั้งหมดเก้าคน) ที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกเต็มตัวของกรมการเมืองในขณะนั้น ได้แก่ คิม อิล-ซ็อง, คิม จ็อง-อิล และคิม จุง-ริน (ไม่ใช่สมาชิกในตระกูลคิม)[2]
เกียรติภูมิของสำนักเลขาธิการยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในสมัยการปกครองของคิม จ็อง-อิล โดยมีสมาชิกถึงห้าจากทั้งหมดสิบสองคนเสียชีวิตในช่วงว่างเว้นระหว่างการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 21 ของคณะกรรมาธิการกลางชุดที่ 6 ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1993 และการประชุมผู้แทนครั้งที่ 3 ใน ค.ศ. 2010[3] จากสมาชิกที่เหลืออยู่เจ็ดคน มีสามคนที่เกษียณอายุในการประชุมครั้งที่ 3[3] สมาชิกที่ดำรงตำแหน่งอยู่สี่คนคือ คิม จ็อง-อิล, คิม กี-นัม (หัวหน้ากรมโฆษณาชวนเชื่อและยุยงปลุกปั่น), ชเว แท-บก (หัวหน้ากรมการต่างประเทศ) และฮง ซ็อก-ซย็อง (หัวหน้ากรมการเงินและการวางแผน)[4]
สมาชิกใหม่เจ็ดคนได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ ชเว รย็อง-แฮ เป็นเลขาธิการกิจการทหาร, มุน คย็อง-ด็อก เป็นเลขาธิการกิจการเปียงยาง (ผ่านตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมาธิการพรรคแรงงานเกาหลีประจำนครเปียงยาง), พัก โด-ชุน เป็นเลขาธิการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ, คิม ย็อง-อิล เป็นเลขาธิการกิจการระหว่างประเทศ (รับช่วงต่อจากโช แท็ก-บก), คิม ยัง-ก็อน เป็นเลขาธิการกิจการเกาหลีใต้และหัวหน้ากรมแนวร่วม, คิม พย็อง-แฮ เป็นเลขาธิการฝ่ายบุคคล และแท จ็อง-ซู เป็นเลขาธิการกิจการทั่วไป (ผ่านตำแหน่งหัวหน้ากรมกิจการทั่วไป)[5] ในการประชุมครั้งที่ 4 ไม่มีสมาชิกเกษียณ คิม คย็อง-ฮี (น้องสาวของคิม จ็อง-อิล) และควัก บ็อม-กี ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิก และคิม จ็อง-อึน ได้เข้ามาแทนที่คิม จ็อง-อิลผู้ล่วงลับผ่านตำแหน่งเลขาธิการหมายเลขหนึ่ง[6]
บทบาท
[แก้]นอกเหนือจากกรมการเมืองและคณะกรรมการควบคุมกลางแล้ว สำนักเลขาธิการยังเป็นหนึ่งในสามองค์กรที่มีอำนาจซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมาธิการกลางพรรค นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการยังมีส่วนเกี่ยวข้องในการประสานงานโครงสร้างของพรรค[7] สำนักเลขาธิการมีอำนาจภายในพรรคแรงงานเกาหลี แต่ไม่มีอิทธิพลในการกำหนดนโยบาย กรมการเมืองและผู้บริหารสูงสุดกรมการเมืองสามารถเลือกหรือแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในสำนักเลขาธิการได้ ตามกฎบัตรของพรรคแรงงานเกาหลี "กรมนโยบายบริหารจะอภิปรายและตัดสินปัญหาเกี่ยวกับบุคลากร ปัญหาภายในพรรค และงานอื่น ๆ ของพรรคเป็นระยะ และกำกับดูแลการปฏิบัติตามมติของพรรค"[8][9]
องค์กรนี้เป็นที่รู้จักในชื่อสำนักเลขาธิการตั้งแต่ก่อตั้งในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1966 กระทั่งมีการปรับโครงสร้างเป็นกรมนโยบายบริหารในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016
สมาชิกปัจจุบัน
[แก้]ณ วันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2021 สำนักเลขาธิการประกอบด้วยเลขาธิการใหญ่และเลขาธิการ 7 คน
เลขาธิการใหญ่ | |||
---|---|---|---|
เลขาธิการใหญ่ | ตั้งแต่ | ตำแหน่งอื่น | |
![]() |
คิม จ็อง-อึน 김정은 (เกิด ค.ศ. 1984) |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
|
เลขาธิการ | |||
เลขาธิการ | ตั้งแต่ | ตำแหน่งอื่น | |
โช ยง-ว็อน 조용원 |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
| |
![]() |
พัก แท-ซ็อง 박태성 (เกิด ค.ศ. 1955) |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
|
อี บย็อง-ช็อล 리병철 (เกิด ค.ศ. 1948) |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
| |
![]() |
ช็อง ซัง-ฮัก 정상학 |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
|
![]() |
อี อิล-ฮวัน 리일환 (เกิด ค.ศ. 1960) |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
|
ชเว ซัง-ก็อน 최상건 (เกิด ค.ศ. 1953) |
10 มกราคม ค.ศ. 2021 |
| |
![]() |
โอ ซู-ยง 오수용 (เกิด ค.ศ. 1944) |
11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 |
|
อ้างอิง
[แก้]เชิงอรรถ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Buzo 1999, p. 34.
- ↑ Buzo 1999, p. 35.
- ↑ 3.0 3.1 Gause 2011, p. 158.
- ↑ Gause 2011, p. 162.
- ↑ Gause 2011, pp. 159–162.
- ↑ Gause 2013, pp. 41–42.
- ↑ "Secretariat of the Workers' Party of Korea in NK Leadership Watch
- ↑ Section 26 of Chapter 3 of the WPK Charter
- ↑ Seventh Congress of WPK Closes, KCNA, 9 May 2016.
บรรณานุกรม
[แก้]บทความ หนังสือ และรายการในวารสาร
[แก้]- Haggard, Stephen; Herman, Luke; Ryu, Jaesung (July–August 2014). "Political Change in North Korea: Mapping the Succession". Asian Survey. University of California Press. 54 (4): 773–780. doi:10.1525/as.2014.54.4.773. JSTOR 10.1525/as.2014.54.4.773.
- Kim, Nam-Sik (Spring–Summer 1982). "North Korea's Power Structure and Foreign Relations: an Analysis of the Sixth Congress of the KWP". The Journal of East Asian Affairs. Institute for National Security Strategy. 2 (1): 125–151. JSTOR 23253510.
- Staff writer (2012–2014). Understanding North Korea. Ministry of Unification.
หนังสือ
[แก้]- Buzo, Adrian (1999). The Guerilla Dynasty: Politics and Leadership in North Korea. I.B. Tauris. ISBN 1860644147.
- Gause, Ken E. (2011). North Korea Under Kim Chong-il: Power, Politics, and Prospects for Change. ABC-CLIO. ISBN 978-0313381751.
- — (2013). "The Role and Influence of the Party Apparatus". ใน Park, Kyung-ae; Snyder, Scott (บ.ก.). North Korea in Transition: Politics, Economy, and Society. Rowman & Littlefield. pp. 19–46. ISBN 978-1442218123.
- Kim, Samuel (2000). "North Korean Informal Politics". Informal Politics in East Asia. Cambridge University Press. ISBN 0521645387.
- Lankov, Andrei (2007). Crisis in North Korea: The Failure of De-Stalinization, 1956. University of Hawaii Press. ISBN 978-0824832070.
- Suh, Dae-sook (1988). Kim Il Sung: The North Korean Leader (1st ed.). Columbia University Press. ISBN 0231065736.