สะพานซานฟรานซิสโก-โอ๊กแลนด์เบย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สะพาน
ซานฟรานซิสโก-โอ๊กแลนด์เบย์
San Francisco-Oakland Bay Bridge
สะพานช่วงตะวันตก (สะพานแขวน) ในปี 2022 ส่วนช่วงตะวันออกสามารถมองเห็นได้ใกล้กับเกาะเยอร์บา บวยนา ทางด้านซ้าย
พิกัด37°49′5″N 122°20′48″W / 37.81806°N 122.34667°W / 37.81806; -122.34667พิกัดภูมิศาสตร์: 37°49′5″N 122°20′48″W / 37.81806°N 122.34667°W / 37.81806; -122.34667
เส้นทาง อินเตอร์สเตต 80
ข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก
ที่ตั้งซานฟรานซิสโก และโอ๊กแลนด์, สหรัฐอเมริกา
เจ้าของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ผู้ดูแลกรมการขนส่งแคลิฟอร์เนีย
รหัส
ข้อมูลจำเพาะ
ประเภทสะพานแขวน
วัสดุเหล็ก, คอนกรีต
ความยาวช่วงตะวันตก: 10,304 ฟุต (3,141 เมตร)
ช่วงตะวันออก: 10,176 ฟุต (3,102 เมตร)
รวม: 4.46 ไมล์ (7.18 กิโลเมตร)
ความกว้างช่วงตะวันตก: 57.5 ฟุต (17.5 เมตร)
ช่วงตะวันออก: 258.33 ฟุต (78.74 เมตร)
ความสูงช่วงตะวันตก: 526 ฟุต (160 เมตร)[2]
ช่วงตะวันอก: 525 ฟุต (160 เมตร)
ช่วงยาวที่สุดช่วงตะวันตก: 2,310 ฟุต (704 ม.)
ช่วงตะวันออก: 1,400 ฟุต (430 เมตร)
ขีดจำกัดบรรทุก500,000 ตัน
เคลียร์ตอนบนขาเข้า (ไปทางทิศตะวันตก): 14 ฟุต (4.3 เมตร)
ขาออก (ไปทางทิศตะวันออก): 14.67 ฟุต (4.47 เมตร)
เคลียร์ตอนล่างช่วงตะวันตก: 220 ฟุต (67 เมตร)
ช่วงตะวันออก: 190 ฟุต (58 เมตร)
ประวัติ
ผู้ออกแบบชาร์ลส์ เอช. เพอร์เซลล์ 
วันเริ่มสร้าง8 กรกฎาคม 1933
วันสร้างเสร็จ12 กันยายน 1936
วันเปิด12 พฤศจิกายน 1936; 87 ปีก่อน (1936-11-12)
สถิติ
การจราจรโดยเฉลี่ย260,000[3][4]
ค่าผ่าน
  • East span, westbound only
  • FasTrak or pay-by-plate, cash not accepted
  • Effective 1 มกราคม ค.ศ. 2022 – 31 ธันวาคม ค.ศ. 2024 (2022-01-01 – 2024-12-31):
  • $8.00 (weekday peak hours)
  • $6.00 (weekday non-peak hours)
  • $7.00 (weekends)
  • $3.50 (carpools during weekday peak hours, FasTrak only)
ขึ้นเมื่อ13 สิงหาคม 2001
เลขอ้างอิง00000525[1][5]
ที่ตั้ง
Map

สะพานซานฟรานซิสโก-โอ๊กแลนด์เบย์ (อังกฤษ: San Francisco-Oakland Bay Bridge) หรือที่รู้จักกันในชื่อสะพานเบย์ (Bay Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เชื่อมต่อระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกและเมืองโอ๊กแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงอินเตอร์สเตต 80 (Interstate 80) จึงบรรทุกรถได้ประมาณ 260,000 คันต่อวัน[6][7]และเป็นหนึ่งในสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในสหรัฐอเมริกา

สะพานเบย์ขณะกำลังก่อสร้าง เมื่อปี ค.ศ. 1935

การตื่นทองในแคลิฟอร์เนียในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ทำให้ประชากรในซานฟรานซิสโกเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 30,000 คนในเวลาเพียงไม่กี่ปี เนื่องจากมีชาวอเมริกันและผู้อพยพเข้ามาหลายพันคน แต่ความสำเร็จของทางรถไฟข้ามทวีปแห่งแรกของประเทศทำให้เมืองนี้ขาดการเชื่อมต่อระบบราง (ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่เมืองโอ๊กแลนด์) ดังนั้นในปี ค.ศ. 1872 คณะกรรมการสะพานเบย์จึงประชุมร่วมกับบริษัทรถไฟเพื่อร่วมกันสร้างสะพานและเชื่อมต่อกับรางที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากเนื่องจากอุปสรรคทางการเงินและเทคโนโลยีในสมัยนั้น[8]

สะพานนี้ออกแบบโดยชาร์ลส์ เอช. เพอร์เซลล์ (Charles H. Purcell) [9] [10] และสร้างโดยบริษัทอเมริกันบริดจ์ (American Bridge Company) เริ่มก่อสร้างในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1933 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1936 หกเดือนก่อนสะพานโกลเดนเกตจะสร้างเสร็จ

เดิมสะพานชั้นบนจะใช้เป็นทางสำหรับรถยนต์ ส่วนรถประจำทางและรถไฟโดยสารจะอยู่ชั้นล่าง แต่หลังจากที่เส้นทางรถไฟสายคีย์ (Key Route) หยุดให้บริการในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1958 สะพานชั้นล่างก็ถูกเปลี่ยนเป็นทางรถยนต์ทั้งหมด ต่อมาวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1963 การจราจรได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นการเดินรถทิศทางเดียวในแต่ละชั้น ชั้นบนเป็นขาเข้าเมืองซานฟรานซิสโก ส่วนชั้นล่างเป็นขาออกไปยังเมืองโอ๊กแลนด์ โดยอนุญาตให้รถบรรทุกและรถโดยสารวิ่งบนถนนชั้นบนได้[11]

การออกแบบและวิศวกรรมของสะพานเบย์มีความท้าทายเนื่องจากความลึกและกระแสน้ำที่ไหลแรงของอ่าวซานฟรานซิสโก ตลอดจนการเกิดแผ่นดินไหว สะพานนี้มีสองช่วงหลักและมีความยาวเท่ากันโดยประมาณ แบ่งเป็น:

Panorama, 2007
ภาพพาโรนามาของสะพานช่วงตะวันตก เมื่อปี ค.ศ. 2007
  • ช่วงตะวันตก เป็นสะพานแขวน ชื่ออย่างเป็นทางการคือ สะพานวิลลี่ แอล. บราวน์ จูเนียร์ (Willie L. Brown Jr. Bridge) ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับวิลลี่ แอล. บราวน์ จูเนียร์ อดีตนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก และประธานสมัชชาแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองซานฟรานซิสโกกับเกาะเยอร์บาบเวนา (Yerba Buena Island)
ภาพสะพานช่วงตะวันออกเดิม เมื่อปี ค.ศ. 1998
  • ช่วงตะวันออก เดิมเป็นสะพานโครงเหล็ก เชื่อมต่อร่ะหว่างเกาะเยอร์บา บวยนากับเมืองโอ๊กแลนด์

ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวโลมาพรีเอตา ในปี ค.ศ. 1989 ทำให้ส่วนหนึ่งของพื้นถนนชั้นบนของสะพานช่วงตะวันออกพังลงมาทับถนนชั้นล่าง และถูกปิดปรับปรุงเป็นเวลาหนึ่งเดือน ต่อมาก็ถูกแทนที่ด้วยสะพานแขวนที่ยึดตัวเองได้ (Self-anchored suspension bridge) ซึ่งถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวมากกว่า การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2002 และเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2013 โดยใช้งบประมาณกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ การรื้อถอนสะพานเดิมแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 2018

ภาพสะพานช่วงตะวันออกใหม่ เมื่อปี ค.ศ. 2017

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สะพานแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงหลายครั้ง เพื่อให้มั่นใจถึงความสมบูรณ์ของโครงสร้างและความปลอดภัย และยังคงทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างซานฟรานซิสโกและโอ๊กแลนด์ โดยสนับสนุนการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาค

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "National Register of Historic Places Registration Form". National Park Service – USDoI. สืบค้นเมื่อ July 28, 2012.
  2. San Francisco-Oakland Bay Bridge เก็บถาวร พฤศจิกายน 3, 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  3. "Traffic Census Program". California Department of Transportation. 2015. สืบค้นเมื่อ July 14, 2017. Traffic Volumes: Annual Average Daily Traffic
  4. "San Francisco-Oakland Bay Bridge". Metropolitan Transportation Commission. Bay Area Toll Authority. 2014–15. สืบค้นเมื่อ July 14, 2017. 45.5 million toll-paid vehicles (91.0 million trips) annually
  5. "National Register Information System". National Register of Historic Places. National Park Service. 2009-03-13.
  6. "Traffic Census Program". California Department of Transportation. 2015. Retrieved July 14, 2017. Traffic Volumes: Annual Average Daily Traffic
  7. "San Francisco-Oakland Bay Bridge". Metropolitan Transportation Commission. Bay Area Toll Authority. 2014–15. Retrieved July 14, 2017. 45.5 million toll-paid vehicles (91.0 million trips) annually
  8. https://www.mentalfloss.com/article/84341/13-facts-about-san-francisco-oakland-bay-bridge[ลิงก์เสีย]
  9. "San Francisco Oakland Bay Bridge (West)". Structurae. Nicolas Janberg. May 12, 2006. สืบค้นเมื่อ August 8, 2008.
  10. "San Francisco Oakland Bay Bridge (East)". Structurae. Nicolas Janberg. February 28, 2007. สืบค้นเมื่อ August 8, 2008.
  11. [Bay Bridge Artery, Chris Carlson, "Found SF", orig.2013, updated]