สนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต (ค.ศ. 1871)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต
สร้าง10 พฤษภาคม ค.ศ. 1871
ที่ตั้งArchiv der Otto-von-Bismarck-Stiftung ที่ฟรีดริชรูฮ์
วัตถุประสงค์ยุติสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย

สนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต (ฝรั่งเศส: Traité de Francfort; เยอรมัน: Friede von Frankfurt; อังกฤษ: Treaty of Frankfurt) เป็นสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 กับจักรวรรดิเยอรมัน ลงนามเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1871 ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเป็นการยุติสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย

สาระสำคัญ[แก้]

แคว้นอาลซัส-ลอแรนที่ฝรั่งเศสเสียให้แก่เยอรมัน

สาระสำคัญของสนธิสัญญามีดังนี้:

  • รับรองแนวพรมแดนใหม่ของฝรั่งเศส-จักรวรรดิเยอรมัน แนวพรมแดนใหม่นี้ได้ขีดให้ 1,694 หมู่บ้านและเมืองของฝรั่งเศสตกอยู่ในอาณาเขตจักรวรรดิเยอรมัน อันได้แก่:
  • ให้สิทธิแก่พลเมืองอาลซัส-ลอแรนในการย้ายออกจากดินแดนที่ว่านี้ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 1872 หลังจากนั้นจะถือว่าพลเมืองเหล่านี้เป็นพลเมืองเยอรมัน
  • ตั้งแผนให้ถอนกำลังทัพเยอรมันจากบางพื้นที่
  • ค่าปฏิกรรมสงครามที่ฝรั่งเศสต้องจ่ายแก่เยอรมันจำนวนห้าพันล้านฟรังค์ภายในกำหนดห้าปี (ทั้งจำนวนให้จ่ายเป็นทองคำ)
  • ให้การยอมรับนับถือพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 แห่งปรัสเซีย เป็นจักรพรรดิเยอรมัน
  • ทหารเยอรมันจะยังคงประจำการอยู่ในดินแดนที่ว่านี้จนกว่าฝรั่งเศสจะชำระค่าปฏิกรรมสงครามครบถ้วน (ฝรั่งเศสจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเสร็จเร็วกว่าเวลาที่กำหนด)

สนธิสัญญานี้ยังได้กล่าวถึงเงื่อนไขเพิ่มเดิม ดังนี้:

  • การใช้น่านน้ำการเดินเรือเชื่อมเข้ากับอาลซัส-ลอแรน
  • การค้าระหว่างสองประเทศ
  • คืนเชลยศึก

ฝรั่งเศสได้รับอาลซัส-ลอแรนคืนหลังทำสนธิสัญญาแวร์ซายใน ค.ศ. 1919

ปัจจัยที่ส่งผลต่อชายแดน[แก้]

ยุทธวิธี[แก้]

กองทัพเยอรมันพูดถึงการควบคุมภูมิภาคอาลซัลจนถึงโวฌ (เทือกเขา) และพื้นที่ระหว่างตียงวีล (ดีเดินโฮเฟิน) ถึงแม็สต้องได้รับความคุ้มครองจากเยอรมนี และที่สำคัญที่สุด กองทัพเยอรมันถือว่าเส้นทางระหว่างตียงวีลกับแม็สเป็นพื้นที่ควบคุมที่สำคัญที่สุดถ้าเกิดมีสงครามในอนาคตต่อฝรั่งเศส[1]

Jules Favre รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ประทับตราบนสนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต โดยที่บิสมาร์คเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ

เศรษฐกิจ[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Hawthorne, 217

ข้อมูล[แก้]

  • Hartshorne, Richard (Jan, 1950). "The Franco-German Boundary of 1871", World Politics, pp. 209–250.
  • Eckhardt, C.C. (May, 1918). "The Alsace-Lorraine Question", The Scientific Monthly, Vol. 6, No. 5, pp. 431–443.