ศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่ง

ศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่ง (จีนตัวย่อ: 北京展览馆; จีนตัวเต็ม: 北京展覽館; พินอิน: Běijīng Zhǎnlǎnguǎn) ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1954 เพื่อเป็นสถานที่จัดนิทรรศการที่ครอบคลุมในปักกิ่ง ประเทศจีน^[1] สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมจีน-โซเวียตที่ได้รับความนิยมในทศวรรษ 1950 ศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่งประกอบด้วยห้องจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ 3 ห้อง รวมถึงพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง^[1]

ศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่งมีโรงละคร (北京展览馆剧场) ขนาด 1,000 ที่นั่ง โดยมีการแสดงที่หลากหลาย ทั้งละครเวทีจีน โอเปร่าและบัลเลต์ทั้งแบบตะวันตกและแบบจีน รวมถึงละครเพลงและคอนเสิร์ตร็อก นอกจากนี้ยังมีภัตตาคารมอสโก ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารตะวันตกแห่งแรกในประเทศจีน

ประวัติศาสตร์

มิตรภาพจีน-โซเวียต

เดิมสถานที่แห่งนี้เคยรู้จักกันในชื่อศูนย์แสดงสินค้าโซเวียต สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวโซเวียตเพื่อส่งเสริมมิตรภาพระหว่างจีน-โซเวียต^[2]^[3] แนวคิดนี้ถูกเสนอขึ้นเป็นครั้งแรกโดยหลี่ ฟู่ชุน นักการเมืองชาวจีน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยของสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ ยังมีการสร้างศูนย์แสดงสินค้าอีกสามแห่งขึ้นในเซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และอู่ฮั่น ภายในงาน นอกจากจะมีการจัดแสดงหอแสดงเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของโซเวียตแล้ว ยังมีการจัดแสดงภาพวาด บัลเลต์ และอาหารของโซเวียตอีกด้วย นักการเมืองชาวจีนอย่างเหมา เจ๋อตงและหลิว เช่าฉีต่างรู้สึกยินดีกับนิทรรศการนี้ โดยมองว่าเป็นคำมั่นสัญญาว่าประเทศจีนที่ยังคงเป็นชนบทจะได้รับอุตสาหกรรมวิวัฒน์ในระดับเดียวกับสหภาพโซเวียต

สำหรับชาวจีนจำนวนมาก ศูนย์แสดงสินค้าเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเทคโนโลยีสมัยใหม่และวัฒนธรรมตะวันตกนอกเหนือจากที่เคยเห็นในสื่อ และในปีแรกของการจัดนิทรรศการทั้งหมด มีผู้เข้าชมมากกว่า 11 ล้านคนจากสถานที่จัดงานสี่แห่ง^[2] ในช่วงทศวรรษ 1950 ผู้คนจะมารวมตัวกันที่ศูนย์แสดงสินค้าเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ เช่น การสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยหรืองานแต่งงาน ในช่วงเวลาที่นักศึกษาจำนวนมากต้องการศึกษาต่อในสหภาพโซเวียต ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศจะเดินทางมาที่ศูนย์นิทรรศการเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการเริ่มต้นการเดินทางของพวกเขา ใจกลางศูนย์นิทรรศการมีโรงละครกลางแจ้งซึ่งคณะนักแสดงจากสหภาพโซเวียตจะมาแสดงสวอนเลก ซึ่งเป็นการแสดงบัลเลต์ครั้งแรกสำหรับชาวจีนจำนวนมาก และรูปแบบของบัลเลต์โซเวียตก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อวงการบัลเลต์ของจีน ในช่วงที่ความสัมพันธ์จีน-โซเวียตแน่นแฟ้นที่สุดในทศวรรษ 1950 การร้องเพลงรัสเซีย เช่น เพลง Moscow Nights และ Katyusha การเรียนหีบเพลงรัสเซีย การไปเล่นสเกตน้ำแข็งที่ลานสเกตฉือช่าไห่ และการเล่นหมากรุกถือเป็นแฟชั่น^[2] ผู้คนมองว่านี่เป็นหนทางที่จะส่งเสริมมิตรภาพและความเข้าใจกับสหภาพโซเวียต โดยมีความฝันที่จะบรรลุความเป็นปึกแผ่นของคอมมิวนิสต์สากล

ตามภารกิจของศูนย์ที่ต้องการแนะนำวัฒนธรรมโซเวียตให้คนจีนได้รู้จัก ภัตตาคารมอสโกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ได้ให้บริการอาหารรัสเซียทั่วไป เช่น ซุปบอชช์และโซลยันกา ด้วยราคาที่สูงและอาหารที่แปลกใหม่ การรับประทานอาหารที่นี่จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะสำหรับหนุ่มสาวหลายคน ซึ่งพวกเขาจะเก็บเงินเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อพาคู่รักไปออกเดตที่นั่น^[3] ภัตตาคารยังเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงของรัฐหลายงาน และยังจัดเลี้ยงสำหรับงานส่วนใหญ่ของสถานทูตโซเวียตอีกด้วย

ความแตกแยกจีน-โซเวียตและการปฏิวัติวัฒนธรรม

ด้วยความแตกแยกระหว่างจีน-โซเวียตและการปฏิวัติวัฒนธรรม ศูนย์แสดงสินค้าโซเวียตจึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่ง ภัตตาคารมอสโกถูกเปลี่ยนชื่อเป็นภัตตาคารปักกิ่งและถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นโรงอาหารที่ให้บริการเฉพาะอาหารจีน^[2]^[3] การนำเข้าวัฒนธรรมรัสเซียถูกสั่งห้าม ความพยายามทางสถาปัตยกรรมของชาติ เช่น สิบมหาอาคาร ได้พัฒนาสไตล์ที่ทันสมัยโดยมีลักษณะจีนดั้งเดิมแทน และอาคารที่สร้างโดยโซเวียตหลายแห่งก็ถูกรื้อถอนออกไปซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่งรอดพ้นจากชะตากรรมของการถูกรื้อถอนนี้

ปัจจุบัน

หลังการปฏิรูปและเปิดประเทศ สถานที่จัดงานได้เปิดทำการอีกครั้ง โดยภัตตาคารมอสโกได้กลับมาใช้ชื่อเดิมและเปิดดำเนินการตามปกติ แม้ศูนย์แสดงสินค้าปักกิ่งจะยังคงใช้ชื่อใหม่เดิม ขณะที่ศูนย์แสดงสินค้าแห่งนี้ยังคงเป็นที่รู้จักในเรื่องของประวัติศาสตร์อันน่ารำลึกและประวัติศาสตร์ทางการเมือง แต่ปัจจุบันห้องนิทรรศการได้ถูกใช้จัดงานที่หลากหลายโดยองค์การเอกชน เช่น การจัดแสดงงานศิลปะ^[4]

ดูเพิ่ม

ศูนย์แสดงสินค้าเซี่ยงไฮ้

เชิงอรรถ

1 2 Beijing Discover. Beijing Tourism website
1 2 3 4 Li, Yan (2014). "Building Friendship: Soviet Influence, Socialist Modernity, and Chinese Cityscape in the 1950s". Quarterly Journal of Chinese Studies. 2 (3): 48–67.
1 2 3 Zhang, Jianhua (2022). "From political to cultural symbol: Beijing Moscow Restaurant and the evolution of Sino-Soviet relations". The Russian Revolution in Asia: From Baku to Batavia. Routledge. pp. 171–187. doi:10.4324/9780429352195-13. ISBN 9780429352195. S2CID 243423606.
↑ "Beijing Exhibition Center goes 'back to future' with a crop of artworks". China Daily. 2021-07-08.

แหล่งข้อมูลอื่น

เว็บไซต์ทางการ

39°56′22″N 116°20′16″E / 39.9394°N 116.3379°E / 39.9394; 116.3379

[service-1] 1 2 Beijing Discover. Beijing Tourism website

[li-2] 1 2 3 4 Li, Yan (2014). "Building Friendship: Soviet Influence, Socialist Modernity, and Chinese Cityscape in the 1950s". Quarterly Journal of Chinese Studies. 2 (3): 48–67.

[zhang-3] 1 2 3 Zhang, Jianhua (2022). "From political to cultural symbol: Beijing Moscow Restaurant and the evolution of Sino-Soviet relations". The Russian Revolution in Asia: From Baku to Batavia. Routledge. pp. 171–187. doi:10.4324/9780429352195-13. ISBN 9780429352195. S2CID 243423606.

[4] "Beijing Exhibition Center goes 'back to future' with a crop of artworks". China Daily. 2021-07-08.

[1]

[2]

[3]

[4]