ศาสตรา
ศาสตรา คือตำราวิชาการ โดยในภาษาไทยถิ่นใต้บางถิ่นเรียก ตำราสัจจา คือวรรณกรรมประเภทนิทานที่มีเนื้อหาสั่งสอน เช่น วรรณกรรมชาดก วรรณกรรมพื้นบ้าน ต่อมาใช้เรียกวรรณกรรมเสี่ยงทาย ตำราพยากรณ์ชีวิต แต่เดิมทำเป็นสมุดไทยขนาดสั้น ชาวใต้เรียกบุดตีนช้าง
เนื้อหา
[แก้]ในส่วนที่เป็นคำทำนายแต่ละตอนจะมีภาพประกอบอยู่คู่กับคำทำนายด้วย โดยยกเรื่องราวจากวรรณคดี ชาดก หรือนิทานพื้นบ้านต่าง ๆ เช่น รามเกียรติ์ พระเวสสันดร พระสุธน มโนราห์ สังข์ทอง ไกรทอง[1] คำทำนายแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือคำทำนายในทางที่ดี คำทำนายปานกลางคือไม่ดีไม่ร้าย และคำทำนายในทางร้าย ตอนท้ายของคำทำนายจะสรุปชะตาและให้ข้อเสนอแนะ การเขียนคำทำนายมีทั้งเขียนแบบร้อยแก้วและร้อยกรอง ร้อยกรองแต่งเป็นกาพย์และกลอน ส่วนใหญ่แต่เป็นกาพย์ ภาพในศาสตราเขียนแบบจิตรกรรมไทยประเพณี[2]
ที่มา
[แก้]ที่มาของศาสตราน่าจะมาจากศาสตราศาสตร์ในคัมภีร์อาถรรพเวทของศาสนาพราหมณ์ และคงเป็นพราหมณ์ที่เป็นผู้ให้กำเนิดตำราศาสตรานี้[2]
สำหรับผู้ใช้ตำราศาสตราให้คำทำนาย เรียกว่า หมอศาสตรา ที่แต่เดิมเป็นพราหมณ์แต่ต่อมามีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสชายหญิง ส่วนพิธีกรรมเรียก แทงศาสตรา เป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำเล่น
ฉบับ
[แก้]ตำราศาสตราปรากฏในท้องถิ่นภาคใต้หลายฉบับ ได้แก่ฉบับอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ฉบับตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ฉบับตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ฉบับตำบลเทพกษัตรี จังหวัดภูเก็ต[3] นอกจากนี้ยังมีฉบับในประเทศกัมพูชาซึ่งแต่งเป็นร้อยแก้วและไม่มีภาพประกอบ[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ศาสตรา (๒๓ เมษายน ๒๕๕๖)". สำนักงานราชบัณฑิตยสภา.
- 1 2 วัชราภรณ์ ดิษฐป้าน. "วรรณกรรมเสี่ยงทาย "ศาสตรา" ภูมิปัญญาของชาวใต้".
- ↑ "แทงศาสตรา". ไทยรัฐ.
- ↑ สุวชัญ ชาญเชี่ยว. "การเปรียบเทียบ "ศาสตรา" ที่พบในราชอาณาจักรกัมพูชากับจังหวัดนครศรีธรรมราชของไทย".