วิกเตอร์ ซอย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วิกเตอร์ ซอย
วิกเตอร์ ซอย ในปี 1986
วิกเตอร์ ซอย ในปี 1986
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดวิกเตอร์ โรเบิร์ตโตวิช ซอย
เกิด21 มิถุนายน ค.ศ. 1962(1962-06-21)
เลนินกราด สหภาพโซเวียต
เสียชีวิต15 สิงหาคม ค.ศ. 1990(1990-08-15) (28 ปี)
ตูกูมส์ ลัตเวีย สหภาพโซเวียต
แนวเพลงโพสต์พังก์ กอทิกร็อก นิวเวฟ
อาชีพนักร้อง-นักแต่งเพลง นักดนตรี
เครื่องดนตรีกีตาร์ เสียงร้อง กีตาร์เบส คีย์บอร์ด
ช่วงปี1978–1990
ค่ายเพลงAnTrop, Melodiya

วิกเตอร์ โรเบิร์ตโตวิช ซอย (รัสเซีย: Ви́ктор Ро́бертович Цой; อังกฤษ: Viktor Robertovich Tsoi) เป็นนักดนตรี นักร้อง-นักแต่งเพลงชาวรัสเซียเชื้อสายเกาหลี เขาเป็นหัวหน้าของวงโพสต์พังค์ที่ชื่อ คิโน (รัสเซีย: Кино; อังกฤษ: Kino)

เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกดนตรีร็อกในรัสเซีย มีแฟนเพลงจำนวนมากจากอดีตประเทศของสหภาพโซเวียตในปัจจุบัน เขาเป็นนักดนตรีไม่กี่คนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของดนตรีรัสเซีย วิกเตอร์ ซอย เสียชีวิตเมื่อวัย 28 ปี จากอุบัติเหตุรถยนต์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1990[1][2][3]

ชีวิตในวัยเด็ก[แก้]

วิกเตอร์ ซอย เกิดวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ.1962 เกิดที่โรงพยาบาลแถบถนนคุซเนตซอฟสกายาที่เลนินกราด เป็นลูกคนเดียวของวาเลนติน่า วาซิลเยฟน่า ซอย เป็นครูพละและโรเบิร์ต มักซิโมวิช ซอย วิศวกรชาวโซเวียตจากเมืองเคอเซิลออร์ดา ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งพ่อเเม่ของโรเบิร์ต ซอยถูกเนรเทศด้วยนโยบายการเนรเทศชาวเกาหลีในสหภาพโซเวียตตามมติที่1428-326ของสตาลิน บรรพบุรุษของวิกเตอร์ ซอยของครอบครัวสามารถสืบย้อนไปถึงเมืองซองจิน, ฮัมกยอง เกาหลี (ปัจจุบันคือคิมแชกเมืองของจังหวัดฮัมกย็องเหนือ , เกาหลีเหนือ) วิกเตอร์โตในบริเวณมอสคอฟสกี วิคตอรี พาร์ค เรียนโรงเรียนใกล้กับถนนฟรุนเซ่ที่แม่เขาทำงานอยู่ ในปี1974ถึง1977 เข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะระดับมัธยม ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของวง Palata No. 6 (รัสเซีย: Палата № 6อังกฤษ: "Ward No. 6").[4] ในปี1977วิกเตอร์ได้เข้าโรงเรียนทาวิเชสกายาเป็นโรงเรียนศิลปะในเลนินกราด แต่ในปี1979วิกเตอร์ได้ถูกไล่ออกเพราะผลการเรียนย่ำแย่จึงต้องเข้าโรงเรียนช่างฝีมือ SGPTU-61 เข้าเรียนสาขาช่างแกสลักไม้ เขาชื่นชอบมิคาอิล โบยาร์สกี้และวลาดิเมียร์ วิสซอตสกี้ ต่อมาเขาชื่นชอบบรูซ ลีหลังจากนั้นเขาก็เริ่มแกะสลักแบบจำลองตัวของเขา วิกเตอร์ชอบศิลปะการต่อสู้และมักจะซ้อม "เป็นภาษาจีน" กับเพื่อนร่วมวงยูริ คาสปาเรียน

อาชีพนักร้อง[แก้]

วิกเตอร์เริ่มเขียนเพลงเมื่ออายุ 17 ปี ในปี 1970 และ 1980 ดนตรีร็อคเป็นการเคลื่อนไหวใต้ดินที่จำกัดเฉพาะในเลนินกราดเป็นส่วนใหญ่ เพลงป๊อปสไตล์มอสโก ครองชาร์ตและได้รับการเปิดเผยจากสื่อมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ดนตรีร็อคไม่ได้รับความนิยมจากรัฐบาลโซเวียต และวงร็อคได้รับเงินทุนเพียงน้อยนิดหรือไม่มีเลย และได้รับความสนใจจากสื่อเพียงเล็กน้อย เลนินกราดร็อคคลับ เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งที่อนุญาตให้วงดนตรีร็อคขึ้นร้องเพลงได้ ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 วิกเตอร์ได้มีเพื่อนที่ชื่อว่า อเล็กซี่ ไรบิน สมาชิกวงฮาร์ดร็อก Piligrimy(รัสเซีย: Пилигримы, แปลตรงตัว'Pilgrims') และวิกเตอร์มือเบสวงPalata # 6(รัสเซีย: Палата № 6, แปลตรงตัว'Chamber # 6') พบกันที่บ้านของ Andrei "Svin" Panov ซึ่งผู้คนในอพาร์ทเมนต์และนักดนตรีมักมารวมตัวกัน มาซ้อมเพลงกัน วิกเตอร์ และ ไรบิน ในฐานะสมาชิกของ Автоматические удовлетворители (Avtomaticheskie udovletvoriteli) ไปมอสโกและแสดงร็อกเมทัลที่คอนเสิร์ตใต้ดินที่อาร์เทมี ทรอยต์สกี้จัดแสดง ในที่วันแสดงเหมือนกับที่เลนินกราด แต่วันนั้นวิกเตอร์ และ ไรบินได้เจอกับบอริส เกรเบนชิคอฟ(เป็นบุคคลที่ได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาดนตรีร็อกรัสเซีย) เขาได้ฟังเพลงของวิกเตอร์เขารู้สึกประทับใจในความสามารถเลยช่วยในการก่อตั้งวงของวิกเตอร์เอง

จุดเริ่มของวงKino[แก้]

ที่เลนินกราดร็อคคลับวิกเตอร์เล่นเป็นศิลปินเดี่ยว และได้รับการสนับสนุนจากวงAquarium เพราะเนื้อเพลงและดนตรีสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟัง ในปี1981 ช่วงฤดูร้อน วิกเตอร์,ไรบิน และโอเล็ก วาลินสกี้ ได้ก่อตั้งวง Garin i giperboloydy(รัสเซีย: Гарин и Гиперболоиды, อักษรโรมัน: Garin and the hyperboloids) ชื่อนี้เป็นการเองมาจากนวนิยายรัสเซียคลาสสิกเรื่องThe Garin Death Rayของอเล็กซี่ ตอลสตอย และเป็นได้สมากชิกเลนินกราดร็อคคลับ แต่ไม่นานวาลินสกี้โดนเรียกเกณฑ์ทหารไปรบในสงครามโซเวียต–อัฟกานิสถาน เหลือเพียงวิกเตอร์และไรบิน และในปี1982ได้เปลี่ยนชื่อวงเป็นKino เริ่มอัดอัลบั้มในฤดูใบไม้ผลิในปีเดียวกัน

อัลบั้มแรก[แก้]

Kinoได้อัดอัลบั้ม45ในปั1982 ที่สตูดิโอของ Andrei Tropillo วงAquariumได้ช่วยกันอัดอัลบั้มเพลง โดยบอริส เกรเบนชิคอฟเป็นผู้กำกับอัลบั้ม ในช่วงฤดูร้อนก็ได้เสร็จสิ้น อัลบั้มมีความยาว45นาทีจึงได้ตั้งชื่ออัลบั้มว่า45อัลบั้มได้จำหน่ายและ Kino ได้แสดงคอนเสิร์ตในอพาร์ตเมนต์หลายแห่งในมอสโกและเลนินกราด ในวันที่19 กุมภาพันธ์ 1983 มีการจัดคอนเสิร์ตร่วมกับKinoและAquarium หลังจากคอนเสิร์ตยูริ คาสปาเรียน ได้เข้าร่วมวงKinoในฐานนะมือกีตาร์ ในฤดูใบไม้ผลิไรบินได้ออกจากวงเพราะไม่พอใจวิกเตอร์และคาสปาเรียน ช่วงฤดูร้อนในการซ้อมร่วมกัน จึงได้อัดอัลบั้ม46ซึ่งในช่วงแรกเป็นการอัดทดลองอัลบั้ม'Nachalnik Kamchatki (รัสเซีย: Начальник Камчатки, แปลตรงตัว'Chief of Kamchatka') 46ได้ปล่อยอัลบั้มทำให้ได้รับความนิยม ในปี1983 ฤดูใบไม้ร่วงวิกเตอร์ได้เข้าโรงพยาบาลจิตเวชใกล้แม่น้ำ พริซก้า ที่เลนินกราด ใช้เวลารักษา1เดือนครึ่ง ทำให้ไม่ได้รับการเกณฑ์ทหาร หลังจากออกจากโรงพยาบาลจิตเวช วิกเตอร์เขียนเพลง Trankvilizator" (รัสเซีย: Транквилизатор, แปลตรงตัว'Tranquilizer')

"Peremen!/"My zhdyom peremen" ("Changes!"/"We are waiting for changes")ได้ร้องครั้งแรกในปี1986 กลายเป็นเพลงการเมืองที่สำคัญเป็นสัญลักษณ์ของนโยบายเปเรสตรอยคาของมีฮาอิล กอร์บาชอฟ ยังคงเป็นเพลงการเมืองที่อิทธิพลหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เห็นได้ชัดใน การประท้วงในประเทศเบลารุส ในปี2020-2021

การขึ้นมามีชื่อเสียง[แก้]

ปี 1987 เป็นปีแห่งความถึงจุดสูงสุดของวงKino Kinoได้ปล่อยอัลบั้ม ที่6 อัลบั้ม Gruppa Krovi (รัสเซีย: Группа крови, แปลตรงตัว'Blood Type')ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "Kinomania" บรรยากาศทางการเมืองที่เปิดกว้างภายใต้ม่อนเหล็กสหภาพโซเวียตทำให้วิกเตอร์สร้างGruppa Kroviซึ่งเป็นอัลบั้มที่เกี่ยวกับการเมืองมากที่สุดของวิกเตอร์ แต่มันยังทำให้เขาสามารถบันทึกเสียงดนตรีที่ไม่มีใครมาก่อนเขาสามารถเล่นได้ แทร็กส่วนใหญ่ในอัลบั้มมุ่งเป้าไปที่เยาวชนของสหภาพโซเวียต โดยบอกให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ บางเพลงพูดถึงปัญหาสังคมที่ทำให้ประเทศชาติพิการ เสียงและเนื้อเพลงของอัลบั้มทำให้ วิกเตอร์ เป็นฮีโร่ในหมู่เยาวชนโซเวียตและ Kino เป็นวงร็อคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในสหภาพโซเวียตที่หลากหลาย แฟนๆ ได้แปลเนื้อเพลงต้นฉบับภาษารัสเซียของวิกเตอร์เป็นภาษาท้องถิ่น ในไม่กี่ปี วิกเตอร์ ปรากฏตัวในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จหลายเรื่องและเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อโปรโมตภาพยนตร์ของเขาในเทศกาลภาพยนตร์ ออกอัลบั้มอีกหลายชุด ธีมของวงส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเมืองอีกครั้ง เติมพลังให้วงได้รับความนิยมมากขึ้น แม้ว่า วิกเตอร์ จะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง แต่เขาก็ยังมีชีวิตที่ค่อนข้างชีวิตเรียบง่าย ห้องต้มน้ำของอาคารอพาร์ตเมนต์ชื่อคัมชัตกา ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์/คลับที่อุทิศให้กับนักร้อง ความจริงที่ว่าวิกเตอร์ทำงานในโรงงานหม้อไอน้ำทำให้หลายคนประหลาดใจ วิกเตอร์กล่าวว่าเขาสนุกกับงานและต้องการเงินสนับสนุนวงด้วย เนื่องจากพวกเขายังไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และอัลบั้มของพวกเขาก็ถูกก็อปและส่งต่อไปผ่านMagnitizdat(เป็นเครื่องบันทึกเทปที่หลบการเซ็นเซอร์ในสหภาพโซเวียต) เป็นสิ่งที่ทำให้วิกเตอร์ได้รับความนิยมในผู้คน นอกจากนี้วงKinoยังไปทัวร์ในปี 1988-1989 ที่อิตาลี ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก จุดสูงสุดที่สุดของ Kino เกิดขึ้นใน ปี1990 ด้วยคอนเสิร์ตที่มอสโกมีผู้ชม62,000คน เพื่อฉลองของกลุ่มร็อกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหภาพโซเวียต

การแสดงภาพยนตร์[แก้]

ในปี 1988 วง Kino ร่วมกับวงร็อกอื่นๆในสหภาพโซเวียต ในการแสดงภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า'The Needle (รัสเซีย: Игла, อักษรโรมัน: Igla) โดยเรื่องมีโครงเรื่องว่า Alika ( Tatyana Drubich ) พยาบาลสาวที่อาศัยอยู่ในยัลตา(เมืองในไครเมีย)กับคนไข้และ Krymov คนรักของเธอ ( Stanislav Govorukhin ) ซึ่งมีอายุมากกว่าเธอมาก Krymov เป็นหัวหน้ากลุ่มอาชญากรและกำลังถูกจับตามองโดย เจ้าหน้าที่ KGB แต่ Alika ไม่รู้ตัวเลย ในยัลตา Alika พบกับ Bananan ( Sergei "Afrika" Bugaev) นักดนตรีร็อคใต้ดินอายุน้อยและแปลกประหลาด Banananแนะนำให้เธอต่อต้านแนวคิดสหภาพโซเวียต อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้โดยรวมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดนตรีร็อค และKinoก็ปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญในตอนท้าย

ในปี 1988 วิกเตอร์ แสดงเป็นตัวเอกใน The Needle (รัสเซีย: Игла, อักษรโรมัน: Igla)วิกเตอร์ได้แสดงเป็นคนพเนจรลึกลับที่รู้จักกันในนามMoroถึงอัลมาเตอเพื่อทวงหนี้จากอาชญากรต่ำต้อยที่รู้จักกันในนามSpartak เขาตามหาDinaแฟนเก่าของเขาที่ปล่อยให้เขาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเธอ Moroได้พบลูกหนี้ของเขาในร้านกาแฟ ต่อมา เขาพบว่านายจ้างของDina ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ กำลังทำให้เธอติดยาและใช้อพาร์ตเมนต์ของเธอเพื่อเก็บมอร์ฟีน Moroต้องพยายามช่วยเหลือDina

เพลงประกอบ รวมถึงเพลงต้นฉบับโดยวง Kino ของ วิกเตอร์มีส่วนสร้างความรู้สึกโดยรวมของภาพยนตร์ นอกเหนือไปจากการใช้ฉากหักมุมยุคหลังสมัยใหม่และฉากเหนือจริงของภาพยนตร์

ภาพยนตร์ออกฉายอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ในสหภาพโซเวียต

อุบัติเหตุและการเสียชีวิต[แก้]

แฟนเพลงของวิกเตอร์ไว้อาลัยวิกเตอร์ที่เลนินกราด

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม1990 ในลัตเวีย วิกเตอร์ กำลังขับรถบนทางหลวง Tukums - Riga เวลา 12:28 น. วิกเตอร์ เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ การสืบสวนสรุปได้ว่า วิกเตอร์ หลับในขณะขับรถอาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้า เขาไม่มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนเสียชีวิต ในการสันนิษฐานบอกว่าวิกเตอร์ขับรถด้วยความเร็ว130กม.ต่อชม. ได้หลับในและเลี้ยวเข้าเลนสวนทางและชนกับรถบัส คนขับรถบัสได้รับบาดเจ็บ รถของวิกเตอร์เสียหายทั้งคัน การเสียชีวิตของ วิกเตอร์ สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนๆ หลายคน บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย วันที่ 19 สิงหาคม วิกเตอร์ถูกฝังที่สุสาน Bogoslovskoeในเมืองเลนินกราด ผู้คนนับพันมาร่วมงานศพ ก่อนเกิดอุบัติเหตุ โดยมีเทปที่มีการบันทึกเสียงร้องของ Tsoi เพียงชุดเดียวสำหรับอัลบั้มถัดไปของวง สมาชิกที่เหลือของ Kino ออกอัลบั้ม อัมบั้มBlackในเดือนธันวาคม ต่อมากลายเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมสูงสุดของวง

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

วิกเตอร์ อาศัยอยู่กับ มาเรียนา ซอย ภรรยาของเขา และ อเล็กซานเดอร์ ลูกชายของเขา (เกิดปี 1985) วิกเตอร์ มีชีวิตที่ยากจน โดย มาเรียน เล่าว่าไม่สามารถแม้แต่จะซื้อชุดแต่งงานที่เหมาะสมได้ ห้องหม้อไอน้ำในอาคารอพาร์ตเมนต์ที่เขาทำงานมีชื่อเล่นว่า "คัมชัตกา" และปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์และคลับร็อคที่อุทิศให้กับ วิกเตอร์ก่อนหน้านี้เขายังเคยทำงานในเคียฟ ประเทศยูเครน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางการพบว่าเขาทำงานอย่างผิดกฎหมาย เขาก็ถูกส่งตัวไปมอสโก

ในระหว่างการถ่ายทำAssa วิกเตอร์ ได้พบกับ นาตาเลีย ราซโลโกวา ผู้ช่วยผู้กำกับ ต่อมา วิกเตอร์ ตกหลุมรัก ราซโลโกวา และแยกทางกับ มาเรียนา แต่พวกเขาไม่ได้หย่าร้างกันเพื่อเห็นแก่ลูกชายของพวกเขา

วัฒนธรรมนิยม[แก้]

Cyberpunk 2077 มีกราฟฟิตี "цой жив" (ซอย มีชีวิต) สามารถพบได้ในสถานที่ต่างๆ

Metro Exodusเพลงหลายเพลงของ Kino สามารถฟังได้ทางวิทยุ ขณะที่รถไฟกำลังเดินทางข้ามประเทศรัสเซีย

อ้างอิง[แก้]

  1. http://jordanrussiacenter.org/news/spies-house-rock/#.VaomeqTtmko
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-02. สืบค้นเมื่อ 2016-11-28.
  3. http://www.dispatchbox.net/index.php/2013/07/14/retour-en-urss-gloire-du-soviet-rock-et-de-viktor-tsoi/
  4. Zhitinsky, p. 50

[[1]]

  • Zhitinsky, A. N. (2012). Tsoi Forever. St. Petersburg: Amphora. ISBN 978-5-699-37227-0.
  • (ในภาษารัสเซีย) "Виктор Цой, Звезда по Имени Солнце: Стихи, Песни, Воспоминания", Eksmo, 2001.
  • Tsoi, Marianna; Aleksandr Zhitinsky (1991). Viktor Tsoi: stikhi, dokumenty, vospominaniya (ภาษารัสเซีย). St. Peterburg: Novy Gelikon. ISBN 5-85395-018-5. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-25. สืบค้นเมื่อ 2023-04-10.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

  • วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Viktor Tsoi

แม่แบบ:Kino (band)

แม่แบบ:ค่าเริ่มต้น:Tsoi, Viktor