วิกิพีเดีย:การอนุญาโตตุลาการ/คู่มือการอนุญาโตตุลาการ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การอนุญาโตตุลาการ เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการระงับข้อพิพาทของวิกิพีเดีย คณะอนุญาโตตุลาการ (คอต.) พิจารณาคำร้องเปิดคดีการอนุญาโตตุลาการใหม่ และพิจารณาทบทวนคำตัดสินครั้งก่อน ๆ ดังที่ได้อธิบายในนโยบายการอนุญาโตตุลาการ โดยองค์คณะผู้ใช้มากประสบการณ์จะพิจารณาหลักฐานและประกาศคำตัดสินที่มีผลผูกพันต่อทุกฝ่าย

หากคุณต้องการเปิดคดีอนุญาโตตุลาการใหม่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่อยู่ในระหว่างพิจารณา กรุณาอ่านหน้านี้ให้เข้าใจ การอนุญาโตตุลาการเป็นขั้นตอนพิเศษในข้อพิพาทและมีบรรทัดฐานอันเป็นโครงสร้างหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับบรรทัดฐานของการระงับข้อพิพาทขั้นตอนอื่น หากคุณไม่เข้าใจว่าการอนุญาโตตุลาการมีส่วนจัดการกับข้อพิพาทของคุณอย่างไร คุณอาจเกิดความเครียด มีข้อถกเถียงตามมา หรืออาจมีข้อกังวลในคดีได้

ลักษณะสำคัญบางประการของกระบวนการอนุญาโตตุลาการของวิกิพีเดียมีดังนี้

  • การอนุญาโตตุลาการมีความมุ่งหมายเพื่อทำให้ข้อพิพาท "ยุติลง" เมื่อข้อพิพาทมาสู่การอนุญาโตตุลาการครั้งแรก ข้อพิพาทนั้นอาจกินเวลาหลายเดือนหรือหลายปี และอาจดูพ้นวิสัยและยืดเยื้อไม่จบสิ้น ผู้ใช้หลายคนอาจโกรธและบ่อยครั้งที่มีข้อโต้เถียงและการกล่าวหามากมาย อนุญาโตตุลาการจะมุ่งเพื่ออธิบายปัญหาระหว่างคู่กรณีและกำหนดประวัติของคดี เพื่อวัตถุประสงค์ว่าหากข้อพิพาทกรณีเดียวกันหรือคล้ายกันเกิดขึ้นซ้ำอีก จะสามารถขจัดข้อพิพาทนั้นได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทครั้งแรกย่อมเป็นการพิจารณาที่พิจารณานานที่สุดและยากที่สุด
  • การอนุญาโตตุลาการมิใช่คดีความในศาล การอนุญาโตตุลาการมิใช่กระบวนการทางกฎหมายที่จัดการปัญหาด้วยวิธีเดิม ๆ การกระทำและพฤติกรรมทั่วไปทั้งหมดอาจถูกนำมาพิจารณาประกอบด้วย แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาโดยตรงก็ตาม นิสัยทั่วไปของบุคคล การกระทำหรือเหตุการณ์ในอดีต ตลอดจนความประทับใจส่วนบุคคลซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและความเหมาะสม ต่างเป็นข้อพิจารณาที่อนุญาโตตุลาการย่อมนำมาพิจารณาได้ทั้งสิ้น
  • การอนุญาโตตุลาการมีขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของโครงการ อนุญาโตตุลาการให้ความสนใจกับความเสี่ยงและประโยชน์เพื่ออนาคต (risk and benefits for the future) มิใช่ปัญหาในอดีต การอนุญาโตตุลาการมีความมุ่งหมายเพื่อหาทางที่ดีที่สุดในการนำผู้ใช้ข้ามผ่านข้อพิพาทไป ด้วยเหตุผลนี้ การอนุญาโตตุลาการจึงเสมือนเป็นการถามว่าผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแปลง หรือการจำกัดใดจะมีผลหรือไม่ มากกว่าการถามว่าใครเคยพูดหรือเคยทำอะไรในอดีต

หลังพิจารณาคำร้องการอนุญาโตตุลาการและความเห็นผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องแล้ว คอต. จะออกเสียงว่าจะรับคดีหรือไม่ หากรับคดี คู่กรณีที่เกี่ยวข้องและสมาชิกของชุมชนจะมีโอกาสนำเสนอหลักฐานและความเห็นที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทนั้น หลังพิจารณาหลักฐานแล้ว อนุญาโตตุลาการจะบรรลุคำตัดสินผูกพันซึ่งรวมไปถึงการเยียวยา (remedy) หลายประการ ตั้งแต่การตำหนิโทษ (reprimand) สถานเบาไปจนถึงการลงโทษอย่างรุนแรง

ก่อนร้องการอนุญาโตตุลาการ

หนทางอื่น

โดยทั่วไป หากมีหนทางยุติข้อพิพาทอื่น ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้อนุญาโตตุลาการ ควรใช้หนทางเหล่านั้นแทนก่อน หนทางดังกล่าว เช่น

  • กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ จัดการกับสถานการณ์อย่างรวดเร็วและพยายามหลีกเลี่ยงการไกล่เกลี่ยหรือการอนุญาโตตุลาการเสีย
  • ขอให้ผู้ใช้คนอื่นช่วย ขอความเห็นที่สามหรือการแสดงความคิดเห็นจากประชาคม
  • หากคุณต้องการให้แน่ใจว่าคุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง ลองสอบถามผู้อื่นถึงกฎที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และควรอภิปรายเพื่อหาทางระงับข้อพิพาท (หากมี) เพื่อที่ว่าคุณจะไม่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในข้อพิพาทที่เกิดขึ้นหรือจะเกิดขึ้น และสามารถเน้นการเขียนบทความต่อไปได้
  • ในบางกรณี ผู้ดูแลระบบอาจจำเป็นต้องเข้าระงับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นได้ โดยหากจำเป็นต้องระงับข้อพิพาทที่จำเป็นต้องใช้ความสามารถของผู้ดูแล สามารถแจ้งได้ที่ วิกิพีเดีย:แจ้งผู้ดูแลระบบ
  • คอต. อาจระงับข้อพิพาทโดยการระงับสิทธิ์ของผู้ใช้ที่อาจก่อความรำคาญในกรณีที่ปรากฏในคดี ซึ่งอาจนับรวมผู้ร้องด้วย ดังนั้นผู้ใช้ควรปฏิบัติตนให้เหมาะสมต่อการพิจารณาของ คอต.

โดยปกติ ประชาคมคาดหวังว่าคุณได้ใช้หนทางอื่นในการระงับข้อพิพาทอื่นแล้ว เช่น กระบวนการขอความเห็นต่อพฤติกรรมผู้ใช้ หรือความพยายามอย่างจริงจังอื่นในการระงับปัญหา หากผู้ร้องการอนุญาโตตุลาการไม่พยายามดำเนินการขั้นตอนอื่นก่อนร้องการอนุญาโตตุลาการ ผู้ร้องต้องอธิบายว่าเหตุใดขั้นตอนอื่นจึงใช้ไม่ได้ผล หรือเหตุใดจึงไม่ใช้กระบวนการอื่นในการระงับข้อพิพาท

ข้อยกเว้น

คอต. มักจะพิจารณายอมรับคดีร้ายแรงบางคดีโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการระงับข้อพิพาทอื่นก่อน เช่น

  • มาตรการฉุกเฉินเพื่อระงับสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ
  • ข้อพิพาทอันก่อให้เกิดความแตกแยกผิดปกติ (unusually divisive dispute) ในหมู่ผู้ดูแลระบบ

ในคดีร้ายแรงบางคดี อาจเป็นการดีที่สุดหากอีเมลขอคำแนะนำเป็นการส่วนตัว อาทิ

  • หุ่นเชิดผู้ดูแลระบบ
  • ปัญหาละเอียดอ่อนหรือเรื่องโต้เถียงยืดเยื้อ (drama prone) ซึ่งต้องการคำแนะนำในการจัดการ
  • ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิส่วนบุคคล และสิทธิส่วนบุคคลนั้นเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณา

คอต. และนายทะเบียน

คอต.

คอต. เป็นองค์คณะผู้เขียนซึ่งรับผิดชอบต่อกระบวนการการอนุญาโตตุลาการวิกิพีเดีย มีอำนาจกำหนดทางระงับซึ่งมีผลผูกพันแก่ข้อพิพาทระหว่างผู้เขียน นโยบายการอนุญาโตตุลาการอธิบายบทบาทและความรับผิดชอบของ คอต. ในรายละเอียด

นอกเหนือไปจากบทบาทของ คอต. ในการระงับข้อพิพาทแล้ว คอต. ยังตัดสินการขออนุมัติการเข้าถึงการตรวจสอบบัญชีผู้ใช้ (CheckUser) และ Oversight ตลอดจนพิจารณาข้อพิพาทต่าง ๆ อันมีปัจจัยพิเศษ เช่น ความเป็นส่วนตัว อันไม่พึงอภิปรายกันในที่สาธารณะ

อนุญาโตตุลาการมิใช่ทั้งลูกจ้าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิวิกิมีเดีย หรือผู้บริหารวิกิพีเดียทั้งนั้น หากเป็นผู้ใช้ที่มีใจสมัคร โดยมักเป็นผู้เขียนมากประสบการณ์และผู้ดูแลระบบ ซึ่งชุมชนผู้เขียนส่วนใหญ่เลือกตั้งมาเพื่อระงับข้อพิพาทที่ซับซ้อนหรือควบคุมยากที่สุดซึ่งอาจเกิดขึ้นในชุมชน และเพื่อตรวจตราบางท้องที่ที่การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีก่อน

คอต. พึงไม่ตัดสินข้อพิพาทด้านเนื้อหา และผู้ใช้ไม่ควรร้องขอให้ คอต. ตัดสินเรื่องดังกล่าว

นายทะเบียน คอต.

คอต. ได้แต่งตั้งกลุ่มนายทะเบียนเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ นายทะเบียนดำเนินการคำร้อง การเปิดและปิดคดี (ออกคำประกาศที่จำเป็น) และดำเนินภาระเก็บกวาดและจัดรูปแบบอื่นในหน้าที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาโตตุลาการ นายทะเบียนยังรับหน้าที่เป็นผู้รู้แก่คู่กรณีผู้ปรารถนาความช่วยเหลือหรือคำแนะนำในการเติมหรือสนองต่อคำร้องการอนุญาโตตุลาการ หรือช่วยเหลือในการเพิ่มหลักฐานแก่คดีเมื่อคดีเปิดแล้ว กิจของนายทะเบียนนั้นประสานงานกันผ่านกระดานประกาศนายทะเบียน

คำร้องการอนุญาโตตุลาการ

ประเภทคำร้องการอนุญาโตตุลาการ

กระบวนอนุญาโตตุลาการนั้นริเริ่มโดยผู้ใช้วิกิพีเดียผู้เสนอคำร้องการอนุญาโตตุลาการ คำร้องเหล่านั้นอาจเพื่อเปิดคดีใหม่หรือรื้อฟื้นคดีเก่าเป็นขอความกระจ่าง การแปรญัตติหรือการขยายความคุ้มครอง อนุญาโตตุลาการที่ได้รับเลือกของวิกิพีเดียยังอาจริเริ่มญัตติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีและคำตัดสินอย่างง่ายภายใน คอต.

คำร้องใหม่ ประเด็นที่ต้องเปิดคดีการอนุญาโตตุลาการเต็มใหม่ โดยแบบคือ
  • เป็นประเด็นใหม่ หรือ
  • เป็นคดีเก่าที่มีการเปลี่ยนแปลงจุดสนใจหลักซึ่งต้องอาศัยการไต่สวนเต็มใหม่
ประเด็นเก่า การขอความกระจ่าง คำร้องขอคำแนะนำหรือการขอความกระจ่างคำตัดสินในอดีตเพิ่มเติม โดยแบบคือ เมื่อคำตัดสินนั้นอาจตีความผิด หรือสำคัญจะต้องทำให้เจตนาและการจำกัดของคำตัดสินกระจ่าง
การแปรญัตติ
  1. เหตุการณ์เนื่องจากคดีแสดงว่า มาตรการเยียวยาและบังคับใช้ต้องการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้มีตามผลที่ตั้งใจ (หรือเหมาะสม) โดยหลักคือ ประเด็นที่เกิดขึ้นมาซึ่งไม่จำเป็นต้องเปิดคดีใหม่หรือไต่สวนอีกครั้ง แต่มีคำกังวลว่า การตัดสินบนหลักฐานนั้นไม่เพียงพออย่างสมบูรณ์แก่สถานการณ์เป็นผลตามมา
  2. เหตุการณ์เนื่องจากคดีหมายความว่า การเยียวยานั้นไม่เหมาะสมหรือจำเป็นอีกต่อไป หรือบกพร่อง และควรพิจารณาใหม่
  3. การอุทธรณ์ต่อการลงโทษหรือคำสั่งห้าม (ban) คำร้องให้ยกเลิกหรือผ่อนปรนทัณฑ์บน (parole) และภาคทัณฑ์ (probation) เป็นต้น
ญัตติ
(เฉพาะอนุญาโตตุลาการ)
อนุญาโตตุลาการสามารถเสนอการตัดสินเรียบง่ายเป็นญัตติได้ โดยเหล่านี้มักเป็นประเด็นซึ่งข้อเท็จจริงซึ่งไม่มีข้อพิพาท คดีค่อนข้างตรงไปตรงมา และต้องการคำตัดสิน ตัวอย่างตรงแบบคือ ประเด็นที่ง่ายต่อการพิจารณา อาทิ ข้อเสนอการถอดถอนสิทธิผู้ดูแลระบบ (desysop) และประเด็นอื่นอันต้องการการลงคะแนนสาธารณะของ คอต.

คำร้องการอนุญาโตตุลาการสาธารณะหรือส่วนบุคคล

โดยแบบ คดีอันเกี่ยวข้องกับการอุทธรณ์คำสั่งห้ามนั้นจะมีการสืบพยานทางอีเมลมากกว่าเป็นการโพสต์สาธารณะ เพราะธรรมชาติของคำสั่งห้ามนั้นคือ การนำผู้ใช้ที่ถูกห้ามออกจากชุมชน ในบางคดี ผู้ใช้อาจถูกปลดบล็อกเพื่อความมุ่งหมายแห่งการอุทธรณ์ ภายใต้ความเข้าใจว่า จะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ให้เขาแก้ไขได้เฉพาะไม่กี่หน้าที่จำเป็นต่อความมุ่งหมายนั้น และจะไม่แก้ไขด้วยเหตุผลอื่นใด

บางคดีเล็กน้อยยังอาจมีการสืบพยานกันเป็นส่วนบุคคล ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และโดยปกติมักเป็นปัญหาความเป็นส่วนตัวพิเศษ

ผู้ใช้อาจเสนอหลักฐานแก่ คอต. โดยอีเมลในทุกคดี อย่างไรก็ดี จะเป็นการดีกว่าหากหลักฐานนั้นนำมาแสดงบนวิกิ เว้นเสียจะมีเหตุผลที่ดี หากคุณข้องใจเกี่ยวกับการโพสต์หลักฐานหรือปัญหาความเป็นส่วนตัวใด ๆ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับการอภิปรายสาธารณะ โปรดสอบถามคำแนะนำอนุญาโตตุลาการทางอีเมล

ในการอีเมลถึง คอต. ดูหน้านี้

คำแถลง

ในคำร้องขอการอนุญาโตตุลาการ ผู้ใช้พยายามแสดงให้อนุญาโตตุลาการเห็นว่า มีข้อพิพาทที่ต้องการการแทรกแซงของพวกเขา เช่นเดียวกับมีครรลองอื่นที่พยายามระงับข้อพิพาทนั้นแล้ว ควรเขียนคำแถลงสั้นและเป็นข้อเท็จจริงยาวไม่เกิน 500 คำ รวมทั้งความแตกต่างระหว่างรุ่น (diff) ตามความเหมาะสม เพื่ออธิบายแสดงกรณีตัวอย่างเฉพาะของปัญหา

คำร้องนั้นตั้งใจให้เป็นการสรุปหลักฐานที่มี ทั้งข้อมูลที่เพียงพอ เพื่อแสดงว่าเหตุใดการอนุญาโตตุลาการจึงจำเป็น คุณมิได้กำลังพยายามพิสูจน์คดีของคุณ ณ เวลานี้ หากอนุญาโตตุลาการยอมรับคดีของคุณ หน้าหลักฐานจะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คุณสามารถใช้เพิ่มเติมรายละเอียด

การสนองต่อคำร้องการอนุญาโตตุลาการ

หากคุณถูกออกชื่อเป็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคำร้องการอนุญาโตตุลาการ หรือคุณรู้สึกว่าคุณต้องสนองต่อคำร้องการอนุญาโตตุลาการของผู้อื่นหรือการออกความเห็นของผู้อื่นเกี่ยวกับคำร้องการอนุญาโตตุลาการ พึงระลึกว่าคดีการอนุญาโตตุลาการหาใช่หน้าโต้วาทีไม่ หน้าเหล่านั้นมีความมุ่งหมายเพื่อจัดระบบข้อสรุปกะทัดรัดแก่ข้อพิพาท และหากได้รับการยินยอม ใช้เพื่อแสดงหลักฐานประกอบข้อพิพาทนั้น

ในการสนองต่อการออกความเห็นของผู้อื่น อนุโลมให้ใช้วิธีย่อหน้าลำดับขั้นเช่นเดียวกับหน้าพูดคุยได้ แต่ให้อ้างว่า ได้มีการตอบความเห็นของใคร โดยแจ้งทำนองว่า "ตอบ/อ้างถึงความเห็นของ [[ผู้ใช้:วิกิพีเดีย]] หรือคำอื่นที่มีความหมายทำนองเดียวกัน เมื่อ "ผู้ใช้:วิกิพีเดีย" คือ บุคคลที่คุณกำลังสนองตอบ ไว้ในความเห็นด้วย หากมีการแสดงความเห็นที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบนี้ อาจมีผู้ย้ายความเห็นของคุณออก และแก้ไขใหม่ตามความจำเป็น

หากนายทะเบียนหรืออนุญาโตตุลาการย้ายหรือแก้ไขข้อความบางส่วนของคุณ กรุณาอย่าย้อนโดยอัตโนมัติ เพราะบทบาทส่วนหนึ่งของนายทะเบียนคือ การจัดการหน้าอนุญาโตตุลาการให้ถูกต้อง แทนที่จะทำเช่นนั้น ควรยกประเด็นขึ้นพูดคุยกับผู้ใช้นั้นต่างหาก หรือตรวจสอบหน้าอภิปรายที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินคำร้อง

หลังเสนอคำร้องแล้ว อนุญาโตตุลาการที่ทำงานอยู่ (active) จะออกคะแนนเสียงว่าจะไต่สวนคดีหรือไม่ โดยแบ่งเป็นยอมรับ, ยก/ปฏิเสธ, ถอนตัว หรือ "อื่น ๆ" นายทะเบียนบันทึกคะแนนเสียงของ คอต. ในรูปแบบ 0/0/0/0

การถอนตัว (recuse) หมายความว่า อนุญาโตตุลาการนั้นถอนตัวเองออกจากคดี เพราะเป็นไปได้หรือเป็นที่เข้าใจว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน "อื่น ๆ" หมายถึง คะแนนเสียงหรือข้อเสนอแนะที่ไม่เข้ากับหนึ่งในสามหมวดหมู่ที่เหลือ อาทิ ความเห็นที่ไม่ถูกนับว่าเป็นคะแนนเสียงยอมรับหรือยกอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจแสดงนัยว่าอนุญาโตตุลาการนั้นตั้งใจ โน้มเอียงไปยังผลลัพธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง อนุญาโตตุลาการมักทิ้งความเห็นหรือออกเสียง "อื่น ๆ" แล้วค่อยเปลี่ยนไปออกเสียงยอมรับหรือยก โดยทิ้งให้ความเห็นนั้นคงอยู่ ในกรณีเช่นนั้น ความเห็นยังคงอยู่ในส่วนความเห็น แต่บันทึกคะแนนนั้นนายทะเบียนจะอัปเดตเพื่อสะท้อนคะแนนเสียงใหม่ (ตัวอย่างเช่น ความเห็นหรือ "อื่น ๆ" เมื่อเปลี่ยนไปยอมรับ จะเปลี่ยนบันทึกคะแนนจาก 0/0/0/1 เป็น 1/0/0/0)

คดีที่ร้องยังคงอยู่ในหน้าคำร้องการอนุญาโตตุลาการเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังยื่นคำร้อง โดยไม่คำนึงถึงการออกคะแนนเสียงของอนุญาโตตุลาการ เมื่อเปิดคดีแล้ว ประกาศจะเชื่อมโยงไปยังข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งลิงก์ไปยังหน้า "หลักฐาน" และ "ห้องประชุม" ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ จะถูกโพสต์ไปยังหน้าพูดคุยของผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องทุกคน

คดีที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์การรับคดีหลัง 10 วันจะถูกนำออกจากหน้าคำร้อง

หลังรับคดี

เมื่อเปิดคดีการอนุญาโตตุลาการ ผู้ใช้จะสามารถโพสต์ อัปเดต และแก้ไขหลักฐานของตนอีกประการหนึ่ง เช่นเดียวกับการเพิ่มหมายเหตุ (note) ต่อความเห็นของผู้อื่น พวกเขายังอาจมีส่วนในห้องประชุม การพิจารณาคดีอย่างเป็นโครงสร้างที่เปิดเผยต่อชุมชน รวมทั้งคู่กรณีที่เกี่ยวข้องและอนุญาโตตุลาการ ท้ายสุด พวกเขาอาจเสนอคำถามบนหน้าอภิปรายที่เกี่ยวข้องได้

เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การจัดการคดีอย่างมีประสิทธิภาพ คอต. มักกำหนดให้อนุญาโตตุลาการคนหนึ่งเป็นอนุญาโตตุลาการร่างหรือผู้ร่างของคคี อนุญาโตตุลาการนี้จะเขียนร่างคำตัดสินสำหรับคดีนั้นเมื่อถึงกำหนดเวลา สมาชิกคนอื่นของ คอต. จะออกคะแนนเสียงต่อข้อเสนอ และ หากพวกเขาต้องการ เสนอทางเลือกหรือเพิ่มเติมคำตัดสินนั้น

ผู้ร่างมีอำนาจเฉกเช่นอนุญาโตตุลาการคนอื่นที่มีส่วนในคดีนั้น ตำแหน่งนี้จัดให้มีขึ้นเพียงเพื่อให้การจัดการปริมาณงานเป็นไปง่ายขึ้น

หลักฐาน

คู่กรณีและผู้เขียนอื่นที่สนใจได้รับการสนับสนุนให้เสนอหลักฐานในหน้าย่อยหลักฐานของคดี ในรูปแบบความแตกต่างระหว่างรุ่นซึ่งอธิบายแสดงพฤติกรรมที่มีการคัดค้าน พร้อมกับคำอธิบายและบริบท เขียนให้ชัดเจนและสั้นกระชับได้ใจความ โดยทั่วไป การเสนอไม่ควรเกิน 500 คำ และความแตกต่างระหว่างรุ่นไม่ควรเกิน 50 แห่ง แม้อาจยืดหยุ่นได้ในบางครั้ง คู่กรณีควรทราบว่าการโต้เถียงนั้นมิใช่หลักฐาน และความแตกต่างระหว่างรุ่นที่เลือกมาเป็นอย่างดี 5 แห่งอาจถ่ายทอดเป็นคำพูดคมคายกว่าคำด่ายาว 500 คำ

เป็นที่คาดว่าผู้เขียนจะแก้ไขเฉพาะหน้าหลักฐานในส่วนของตนเท่านั้น การสอนงต่อหลักฐานของผู้เขียนคนอื่นควรวางไว้ในหัวเรื่องย่อยในส่วนของคุณเพื่อโต้แย้งข้อกล่าวหา หรือไว้ในหน้าอภิปราย หมายเหตุว่า การโต้เถียงที่ยืดยาวไปว่าด้วยความสมบูรณ์และการตีความหลักฐานนั้นมีประโยชน์ต่ออนุญาโตตุลาการน้อยมาก

ห้องประชุม

หน้าย่อยห้องประชุมเปิดให้คู่กรณี ประชาคมและอนุญาโตตุลาการวิเคราะห์หลักฐาน เสนอแนวทางคำตัดสินถึงที่สุดที่เป็นไปได้ และได้การตอบรับ คู่กรณีและผู้เขียนควรระลึกบางสิ่งไว้ในใจระหว่างเขียนแนวทางในห้องประชุมดังนี้

  1. พึงตระหนักว่าประเภทแนวทางที่เสนอนั้นเป็นไปในทำนองเดียวกันกับในคดีก่อน ๆ ตัวอย่างเช่น คอต. ไม่ตัดสินด้านเนื้อหา ดังนั้น แนวทางที่ว่า "บทความ xxx จะถูกย้อนกลับไปยังรุ่นของฉันเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 " จึงไม่ถูกตั้งแต่ต้น
  2. หลักการที่เสนอนั้นควรตั้งอยู่บนพื้นฐานนโยบายและแนวปฏิบัติวิกิพีเดีย อย่าเสนอข้อเสนอเช่น "ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องควรได้รับการอนุโลมเป็นพิเศษ" หรือ "ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องอ้างแหล่งอ้างอิงเมื่อเขียนเรื่องตัวเอง"
  3. การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่เสนอนั้นควรได้รับการสนับสนุนโดยหลักฐานในหน้าหลักฐาน การเชื่อมโยงไปยังหน้าหลักฐานหรือความแตกต่างระหว่างรุ่นบางจุดเพื่ออธิบายประเด็นของคุณนั้นช่วยได้มาก
  4. การเยียวยาที่เสนอนั้นควรได้รับการสนับสนุนโดยการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ข้อเสนอเพื่อสั่งห้ามผู้ใช้คนหนึ่งจากการแก้ไขควรมีหลักฐานอย่างเพียงพอว่าเขาได้ละเมิดบรรทัดฐานการแก้ไขของประชาคม

แม้ข้อเสนอแต่ละส่วนจะรวมที่ว่างสำหรับความเห็นโดยอนุญาโตตุลาการ คู่กรณีและบุคคลอื่น แต่ห้องประชุมมิใช่ที่ลงคะแนนเสียง หรือที่โต้วาที การออกเสียง "ลงมติ" เห็นชอบคำเสนอที่คุณชื่นชอบนั้นเป็นสาระประโยชน์น้อยกว่าการสรุปรวบยอดสาเหตุว่าเหตุใดคุณจึงคิดว่าข้อเสนอนั้นดี ขณะที่การเข้าไปโต้เถียงกับคู่กรณีคนอื่นในคดีนั้นเป็นประโยชน์แก่อนุญาโตตุลาการน้อยกว่าการอธิบายสั้นกระชับได้ใจความว่า เหตุใดคุณจึงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น การอภิปรายยืดเยื้อควรนำไปไว้ในหน้าอภิปราย

ในคดีซับซ้อนบางคดี การเยียวยาครั้งแรกอาจดูเบาอย่างหลอกตา และในบางคดี การลงโทษนั้นอาจรุนแรงกว่ามาก อนุญาโตตุลาการจะพยายามเลือกใช้การจำกัดการแก้ไขอย่างระมัดระวัง อนุญาโตตุลาการจะประกอบประสบการณ์ของตนว่าการเยียวยาอย่างใดอย่างหนึ่งมีผลต่อพฤติกรรมนั้นได้อย่างไร และในการอนุญาโตตุลาการที่เกิดขึ้นซ้ำ ผลของคดีก่อนหน้าเต็ม

ในหลายคดี คอต. เพียงแต่จะบอกกล่าวแก่คู่กรณีที่เกี่ยวข้องว่าความขัดแย้งต้องยุติ และจะรอดูว่ามีความจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีซับซ้อนซึ่งคำตัดสินคาบเส้นอาจก่อให้เกิดความแตกแยกมาก "ตัวแสดงที่เลว" (bad actor) มีแนวโน้มพยายามและย้ำวาระของตน และมักจะถูกนำออกหรือลงโทษ ณ จุดนั้น เป็นการยากยิ่งแม้แต่กับผู้ใช้ก่อปัญหาเลวร้ายที่สุดในอันที่จะก่อปัญหาหลังการอนุญาโตตุลาการ มีเพียงส่วนน้อยผู้กลับมากระทำความผิด หรือต้องการมาตรการใช้บังคับที่รุนแรงขึ้น และกรณีนี้มักได้รับการระงับอย่างรวดเร็ว

คำสั่งห้ามชั่วคราว

ในบางคดี อนุญาโตตุลาการอาจเข้าใจว่า ประโยชน์จะตกแก่สารานุกรมมากที่สุด เพื่อป้องกันการรบกวนเพิ่มเติมและเพื่อรักษามารยาท หากห้ามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องชั่วคราวมิให้ดำเนินพฤติกรรมอันเป็นข้อพิพาทนั้นจนกว่าคดีจะมีข้อสรุป คำสั่งห้ามชั่วคราวนั้นมิใช่การพยากรณ์ผลของคดีล่วงหน้า

คำสั่งห้ามชั่วคราวจะผ่านเมื่ออนุญาโตตุลาการออกเสียงเห็นชอบพอสมควร ตามแบบคำสั่งห้ามจะมีผล 24 ชั่วโมงหลังการเห็นชอบสุดท้าย เพื่อเปิดให้อนุญาโตตุลาการที่เหลือมีสิทธิออกเสียงต่อ คำสั่งห้ามจะสิ้นสุดลงเมื่อปิดคดีและมีการเผยแพร่คำตัดสินถึงที่สุด

แนวปฏิบัติในการนำเสนอหลักฐานและข้อเท็จจริง

แนวปฏิบัติเหล่านี้ตั้งใจเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในการนำเสนอหลักฐานและข้อเท็จจริงของตนต่อ คอต. และ ตามนายทะเบียนการอนุญาโตตุลาการ ขึ้นอยู่กับการสังเกตเชิงประสบการณ์ว่าข้อเท็จจริงใดที่มีผลต่อ คอต. และข้อเท็จจริงใดไม่มีผล เช่นเดียวกับการอภิปรายกับอนุญาโตตุลาการว่าสิ่งใดที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญ

มีสองสิ่งสำคัญยิ่งที่จะต้องตระหนักเกี่ยวกับ คอต. และสมาชิก คือ

  1. พวกเขามีเวลาไม่มาก และ
  2. พวกเขาสนใจกับผลมากกว่ากระบวนการ

เกือบทั้งหมดด้านล่างนี้เป็นบทเทียบแนวทั้งสองข้างต้น

ทำให้กระชับ

หน้าหลักฐานมีความยาวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อนุญาโตตุลาการไม่มีเวลามานั่งอ่านหน้าหลักฐานยาว 100 กิโลไบต์และอ่านซ้ำอีก ดังนั้น พยายามคงให้หลักฐานของคุณกระชับ ตรงประเด็นและชัดเจน

การพยายามแสดงกรณีทั้งหมดที่ผู้ใช้คนนั้นเป็นปัญหานั้นอาจมีประโยชน์น้อยกว่าการเลือกตัวอย่างที่ชัดเจนและเห็นได้ชัดซึ่งต้องการเพียงคำอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยและนำเสนอโดยออกความเห็นน้อยที่สุด

อธิบายบริบท

มีความเป็นไปได้น้อยที่สมาชิก คอต. จะเคยอ่านข้อพิพาทของคุณด้วยคาดว่าจะมีการร้องการอนุญาโตตุลาการ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่ค่อยทราบประวัติความเป็นมาของข้อพิพาท, ใครสนับสนุนมุมมองส่วนใด, ใครมีประวัติป้องกันผู้ใช้ที่เป็นปัญหา, หรือว่าทุกคนผู้เคยรับมือกับผู้ใช้นี้ล้วนเห็นว่าเขาวิกลจริตอย่างสมบูรณ์

ชี้ประเด็นเหล่านี้ให้แก่ คอต.

อธิบายบริบทแก่หลักฐานของคุณ หากคุณชี้ไปยังการแก้ไขซึ่งเกิดขึ้นหลังการอภิปรายอย่างดุเดือดนานร่วมเดือน อาจไม่สมเหตุสมผลแก่บางคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หากมีหลักฐานที่ดีกว่าสำหรับประเด็นนี้ ให้ใช้หลักฐานนั้น หลักฐานที่ต้องการคำอธิบายน้อยกว่ามีแนวโน้มจะถูกอ่านมากกว่าและเป็นประโยชน์แก่อนุญาโตตุลาการ

เมื่อจัดทำถ้อยแถลงและข้อเท็จจริงต่อ คอต. อธิบายสาเหตุการแก้ไขที่คุณอ้างนั้นเป็นหลักฐานการชี้ชัดของคุณ เช่น "การแก้ไข X แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้ Y กำลังละเมิดขั้นตอนการสร้างมติมหาชนเพราะ ..."

ใช้การเตือนความจำ

ณ ขณะใดขณะหนึ่งอาจเป็นไปได้ที่มีสิบถึงยี่สิบประเด็นกำลังอยู่ในระหว่างการอนุญาโตตุลาการ (รวมทั้งคดีเปิด คำร้องการอนุญาโตตุลาการ และคำร้องแปรญัตติคดีก่อนหน้า) และคดีที่ปิดไปแล้วทั้งหลาย อนุญาโตตุลาการแต่ละคนไม่สามารถติดตามคดีต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด

หากคุณกล่าวถึงผู้ใช้ที่ คอต. เคยลงโทษ พวกเขาอาจจำชื่อได้ แต่อาจจำรายละเอียดเฉพาะของการตัดสินนั้นไม่ได้ หรือมุมมองที่ผู้ใช้นั้นสนับสนุน ดังนั้น เขียนหลักฐานของคุณและข้อเสนอเพื่อช่วยกระตุ้นความจำของพวกเขา และไม่สันนิษฐานว่าทุกครั้งที่อนุญาโตตุลาการดึงหน้าหลักฐานขึ้นมา พวกเขาจะมีความจำเป็นเลิศในคำตัดสินที่ผ่านมาแล้วของพวกเขา

หลีกเลี่ยงการโต้เถียงหลักการวิกิพีเดีย

คอต. ตามแบบแล้วเป็นผู้นิยมวิกิพีเดีย โดยทั่วไปพิจารณาว่าวิธีการวิกิพีเดียได้ผล และวิกิพีเดียนั้นเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จโดยรวม และผู้ดูแลระบบนั้นโดยทั่วไปแล้วน่าไว้ใจ พวกเขาเลือกผลใด ๆ ที่จะเป็นผลให้วิกิพีเดียทำงานดีขึ้น

ดังนั้น การโต้เถียงขัดต่อหลักการพื้นฐานของวิกิพีเดีย การเสนอกลุ่มซ่องสุมผู้ดูแลระบบอันธพาลขนาดใหญ่ หรือการถือกระบวนการเป็นจุดจบในตัวมันเองจะไม่ได้ผล

การโต้เถียงเกี่ยวกับข้อบกพร่องในกระบวนการอนุญาโตตุลาการมักเป็นการเสียเวลาเปล่าและจะทำให้อนุญาโตตุลาการมองว่าคุณโง่

อย่าขวิดคณะตุลาการ

คู่กรณีควรแสดงพฤติกรรมดีที่สุดระหว่างเพิ่มหลักฐานหรือออกความเห็นในหน้าห้องประชุมหรือหน้าอภิปราย แม้ข้อเท็จจริงนี้ควรจะเป็นที่ทราบกันดี ผู้มีส่วนร่วมจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งเคยถูกกล่าวหาก้าวร้าว ไร้มารยาทหรือแก้ไขมุมมอง ยังคงพฤติกรรมของตนต่อคดีเลยทีเดียว ความเห็นโดยคู่กรณีระหว่างคดีการอนุญาโตตุลาการ คอต. อาจนำไปพิจารณาในการกำหนดการเยียวยาใด ๆ และคงหลักฐานของพฤติกรรมอันเป็นข้อพิพาทมักถูกมองเป็นหลักฐานว่า การเยียวยาอย่างอ่อน (การเตือนหรือภาคทัณฑ์) จะไม่มีผลกระทบตามต้องการ นำไปสู่การสั่งห้ามเฉพาะเรื่องหรือทั่วไป ระลึกว่าหากคุณกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ก็มักมิใช่ความคิดที่ดีที่จะเริ่มชกต่อยพยานในศาลเปิดเผย

อย่าพึ่งพาทักษะวาทศิลป์หรือการอภิปราย

การนำเสนอหลักฐานอย่างชัดเจนและโน้มน้าวจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการโต้วาทีหรือการโต้แย้งใด ๆ แทบทุกครั้ง แทบไม่มีประโยชน์อะไรจากการโต้แย้งระหว่างบรรดาคู่กรณีในหน้าห้องประชุม หน้าหลักฐาน หรือหน้าอภิปราย และยิ่งการโต้เถียงยืดยาวขึ้นมากเท่าใด โอกาสที่ทุกสิ่งจะได้รับความสนใจหรือให้คุณค่าโดยอนุญาโตตุลาการจะยิ่งลดลงเท่านั้น หากคุณต้องเข้าไปมีส่วนในการอภิปราย คำถามสั้นและเรียยง่ายต่ออนุญาโตตุลาการเป็นไปได้ว่าอาจเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ร่างคำตัดสินและการปิดคดี

หลังพิจารณาหน้าหลักฐานและห้องประชุมแล้ว และการอภิปรายส่วนตัวใด ๆ ในบรรดา คอต. อนุญาโตตุลาการหนึ่งคนหรือมากกว่าจะเขียนร่างคำตัดสินและส่งคดีให้ออกเสียง อนุญาโตตุตาการอาจออกเสียงสนับสนุนหรือคัดค้านร่าง หรืออาจงดออกเสียงก็ได้ สำหรับคำตัดสินถึงที่สุด เสียงจะถูกนับตามเสียงข้างมากของอนุญาโตตุลาการที่ทำงานอยู่ (ตัวอย่างเช่น ถ้ามีอนุญาโตตุลาการทำงานอยู่ 11 คน ข้อเสนอใดมีเสียงสนับสนุนตั้งแต่ 6 เสียงขึ้นไปจะถูกพิจารณาว่าผ่าน) "การงดออกเสียง" ถูกตีความว่า อนุญาโตตุลาการผู้นั้นไม่มีความเห็นหนักแน่นและตั้งใจเปิดให้หลักการนั้นตัดสินใจโดยมติมหาชนของอนุญาโตตุลาการคนอื่น เพื่อลดจำนวนอนุญาโตตุลาการที่มีส่วนในข้อเสนอนั้น และอาจลดเสียงข้างมากที่จำเป็นต้องผ่านข้อเสนอนั้น

บ่อยครั้ง คดีที่มีคำตัดสินตรงไปตรงมาและไม่เป็นที่โต้เถียงจะปิดลงเร็วทันทีเมื่อถึงเสียงข้างมากต่อหลักสำคัญ การวินิจฉัยและการเยียวยาที่ร่าง เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าเมื่อการออกเสียงภายหลังจะไม่เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์

จำนวนเสียงคัดค้านโดยปกติมักไม่มีบทบาท เว้นแต่ในกรณี การออกเสียงอย่างมีเงื่อนไข (Conditional voting)

การออกเสียงอย่างมีเงื่อนไข

บางครั้ง อนุญาโตตุลาการจะเสนอข้อเสนอทางเลือก และอาจออกเสียงอย่างมีเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น หากมีข้อเสนอสั่งห้ามหนึ่งเดือนกับหกเดือนเป็นการเยียวยาพร้อมกัน อนุญาโตตุลาการอาจออกเสียงเลือกอย่างหนึ่งเป็น "ทางเลือกที่หนึ่ง" และอีกอย่างหนึ่งเป็น "ทางเลือกที่สอง" ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอนุญาโตตุลาการผู้นั้นเห็นว่าทางเลือกหนึ่งดีกว่าอีกทางหนึ่ง แต่ทั้งสองแนวทางยอมรับได้

อนุญาโตตุลาการยังอาจออกเสียง "สนับสนุน-ไม่นิยมสักทาง" เลือกข้อเสนอทางเลือกหรืออาจออกเสียงสรุปขั้นสุดท้าย (เช่น "สนับสนุนการสั่งห้ามหนึ่งเดือนแต่คัดค้านการสั่งห้ามหกเดือนเพราะนานเกินไป" หรือ "สนับสนุนการสั่งห้ามหกเดือนเว้นเสียแต่การสั่งห้ามหนึ่งเดือนก็ผ่านในอันซึ่งคดีคัดค้านการสั่งห้ามหกเดือน")

เมื่อคดีมีข้อเสนอทางเลือกหลายทาง

  • เสียง "ทางเลือกที่หนึ่ง" และ "ไม่นิยม" จะถูกนับคะแนน และข้อเสนอใดที่ได้เสียงข้างมากผ่าน
  • หากไม่มีทางเลือกใดผ่าน จากนั้นเสียงทางเลือกที่สองจะถูกนับเพิ่มขึ้นมา ตามด้วยทางเลือกที่สาม ฯลฯ

ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง หากทางเลือกมากกว่าหนึ่งทางผ่าน ทุกทางจะถูกรวมไว้ในคำตัดสินถึงที่สุดเว้นเสียแต่ทางเลือกเหล่านั้นขัดแย้งกันเอง มักไม่ค่อยเป็นปัญหาในการผ่านหลักการและการวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่เป็นทางเลือกหลายทาง มันอาจเป็นปัญหาสำคัญหากการเยียวยาที่ขัดแย้งกันเองผ่าน

หากข้อเสนอที่ขัดแย้งกันไม่อาจระงับได้โดยพิจารณาจากการออกเสียงอย่างมีเงื่อนไข เช่นนั้นนายทะเบียนจะพยายามพิจารณามติมหาชนของ คอต. โดยพิจารณาเสียงในกรณีคัดค้าน เช่น หากเสียงขางมากเป็น 6 ข้อเสนอที่ได้รับเสียง 7-0 จะผ่าน ส่วนทางเลือกที่ได้รับเสียง 6-3 จะตกไป

อนุญาโตตุลาการควรออกเสียงให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนนายทะเบียนจะหยิบยกการตีความที่กำกวมหรือยากให้อนุญาโตตุลาการสนใจ โดยออกความเห็นในส่วนหมายเหตุการนำไปปฏิบัติในหน้าร่างคำตัดสิน

การปิดคดี

เมื่อเสียงในร่างคำตัดสินมีเสียงข้างมากแล้ว นายทะเบียนมักทิ้งควาเห็นไว้ในส่วนหมายเหตุการนำไปปฏิบัติของหน้าร่างคำตัดสิน ชี้ว่าข้อเสนอนั้นผ่านและไม่ผ่าน และการตีความการออกเสียงอย่างมีเงือ่นไขใด ๆ บนข้อเสนอทางเลือก

หากอนุญาโตตุลาการพอใจกับคำตัดสินถึงที่สุดซึ่งสะท้อนมติมหาชนของ คอต. อนุญาโตตุลาการคนหนึ่งจะสร้างญัตติเพื่อปิดคดี ระยะมติเพื่อปิดคดีนั้นเปิดโอกาสสุดท้ายให้อนุญาโตตุลาการทบทวนคดีและการออกเสียง เพื่อประกันว่าการออกเสียงอย่างมีเงื่อนไขทั้งหมดถูกตีความอย่างถูกต้อง และผลลัพธ์ของคดีนั้นสะท้อนเจตนาของตน อนุญาโตตุลาการอาจคัดค้านการปิดคดี หากพวกเขารู้สึกว่าคำตัดสินนั้นยังไม่ชัดเจน การตีความไม่ถูกต้อง หรือเพื่อขยายเวลาให้อนุญาโตตุลาการคนอื่นออกเสียง

คดีจะเปิดโดยนายทะเบียน หลังมีการออกเสียงให้ปิดคดีบ้าง แต่ไม่ก่อนหน้า 24 ชั่วโมงหลังมีญัตติให้ปิดคดี

ตำตัดสินจะถูกเผยแพร่ในหน้าพูดคุยของผู้มีส่วนทุกคนและในกระดานประกาศผู้ดูแลระบบ และการเยียวยาใด ๆ (การสกัด การสั่งห้าม การจำกัดบความหรือการแก้ไข) จะมีผลนับแต่นั้น

การบังคับคดีและหลังคดี

คดีส่วนใหญ่จะส่งผลให้เกิดคำตัดสินในรูปของมาตรการการเยียวยาและการใช้บังคับ ซึ่งประชาคมสามารถบังคับได้ ซึ่งสามารถบังคับได้ในหลายวิธี โดยส่วนใหญ่เป็นมาตรการผู้ดูแลระบบ

หากปัญหาพฤติกรรมดำเนินต่อไปหลังคดีสิ้นสุด ให้ผู้ใช้คนใดก็ได้ร้องการบังคับคดีที่กระดานประกาศการบังคับการอนุญาโตตุลาการ โดยอ้างคดีการอนุญาโตตุลาการและหลักฐานของปัญหา หรือสำหรับปัญหาอื่น ๆ ที่แจ้งผู้ดูแลระบบ (ตัวอย่างเช่น หากผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหุ่นเชิดเริ่มดำเนินการแก้ไขรูปแบบเดียวกัน หรือหากผู้ใช้ที่ถูกลงโทษมีพฤติกรรมใหม่และเลวมหันต์ ซึ่งต้องอาศัยการพิจารณาผู้ดูและรรบบถึงการลงโทษและการเยียวยาที่ต้องกำหนดเพิ่มในระดับประชาคม)

หากกฎเกณฑ์การเยียวยาหรือการบังคับพิสูจน์แล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพ หรือต้องการเพิ่มหรือขยายเวลา หรือไม่มีประโยชน์ดังที่คาดหวังไว้ แล้ว คอต. จะไต่สวนคำร้องแปร (หรือขยาย) การเยียวยา ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อการเยียวยานั้นไม่ได้คาดเหตุการ๊์ภายหลังที่เกิดขึ้นหลังคดี เช่น ผู้ใช้แก้ไขบทความอื่นในหัวเรื่องที่ถูกจำกัด หรือการโกงระบบในทางอื่น

ผู้ใช้ที่สนองต่อคำตัดสินการอนุญาโตตุลาการโดยพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้อย่างโจ่งแจ้ง (เช่น การเพิกเฉยต่อข้อกำหนดและพยายามหลีกเลี่ยงคำตัดสินโดยใช้หุ่นเชิด) อาจเจอกรณีร้ายแรงที่ข้อกำหนดการอนุญาโตตุลาการ คือ การสกัดของผู้ดูแลระบบหรือการสั่งห้ามจากประชาคม

การจำกัดการแก้ไขผู้ใช้หรือการลงโทษตั้งใจเพื่อป้องกันพฤติกรรมบางรูปแบบ และมาตรการป้องกันเหล่านี้อาจมีผลเป็นเวลานาน การอุทธรณ์สามารถทำได้เพื่อให้มีการพิจารณาใหม่ แต่โดยปกติมักต้องมีบันทึกติดตามสำคัญ และการทำผิดซ้ำซากเกิดขึ้นอย่างรุนแรงมาก