วันเดอร์ วูแมน 1984

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วันเดอร์ วูแมน 1984
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับแพตตี เจนคินส์
บทภาพยนตร์
เนื้อเรื่อง
  • แพตตี เจนคินส์
  • เจฟฟ์ จอห์น
สร้างจากตัวละคร จาก ดีซี
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพแมตทิว เจนเซน
ตัดต่อริชาร์ด เพียร์สัน
ดนตรีประกอบฮันส์ ซิมเมอร์
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอร์เนอร์บราเธอส์พิกเจอร์ส
วันฉาย16 ธันวาคม ค.ศ. 2020 (2020-12-16)(สหราชอาณาจักร)
25 ธันวาคม ค.ศ. 2020 (2020-12-25)(สหรัฐ)
ความยาว151 นาที[1]
ประเทศสหรัฐ
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]
ทำเงิน166.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3][4]

วันเดอร์ วูแมน 1984 (อังกฤษ: Wonder Woman 1984) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวซูเปอร์ฮีโร ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2020 สร้างจากตัวละครวันเดอร์วูแมนของดีซีคอมิกส์ เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง วันเดอร์ วูแมน ในปี ค.ศ. 2017 และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่เก้าในจักรวาลขยายดีซี กำกับโดย แพตตี เจนคินส์ โดยเธอเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับ เจฟฟ์ จอห์นและเดฟ คัลลาแฮม จากเนื้อเรื่องโดยเจนคินส์และจอห์น แสดงนำโดย กัล กาด็อต เป็น ไดแอนา พรินซ์ / วันเดอร์ วูแมน ร่วมกับ คริส ไพน์, คริสเตน วิก, เปโดร ปาสกาล, รอบิน ไรต์ และคอนนี นีลเซนในบทสมทบ ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งเป็นช่วงสงครามเย็น โดยไดแอนาและสตีฟ เทรเวอร์ อดีตคนรักของเธอ ต้องเผชิญหน้ากับ แม็กเวลล์ ลอร์ดและชีตาห์

มีการพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างภาคต่อหลังการฉายของภาพยนตร์เรื่องแรกในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017 ไม่นานนัก และภาพยนตร์ภาคต่อก็ได้รับการยืนยันให้สร้างในเดือนถัดมา การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 2018 โดยถ่ายทำที่วอร์เนอร์บราเธอส์สตูดิโอส์, ลีฟส์เด็น ในอังกฤษ, วอชิงตัน ดี.ซี. และนอร์เทิร์นเวอร์จิเนียในสหรัฐ, ลอนดอนและดักซ์ฟอร์ดในอังกฤษ, เกาะเตเนริเฟและเกาะฟูเอร์เตเบนตูราในแคว้นกานาเรียส และอัลเมริอาในแคว้นอันดาลูซิอา สเปน การถ่ายทำสิ้นสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มีการถ่ายทำเพิ่มเติมในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019

แต่เดิม วันเดอร์ วูแมน 1984 กำหนดฉายในอเมริกาเหนือวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2020 แต่ถูกเลื่อนหลายครั้งและในที่สุดก็ยกเลิก เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ภาพยนตร์ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ผ่านแพลตฟอร์มเสมือน ดีซีแฟนโดม ภาพยนตร์ฉายในโรงภาพยนตร์สหรัฐสิบวันให้หลังโดยวอร์เนอร์บราเธอส์และเปิดให้สตรีมแบบดิจิทัลบน เอชบีโอแมกซ์ เป็นเวลาหนึ่งเดือน ก่อนจะย้ายไปเป็นแบบวีดิทัศน์ตามคำขอแบบพรีเมียม ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ โดยชมในเรื่องของ "คุณสมบัติผู้หลบหนี" ของภาพยนตร์, การกำกับของเจนคินส์และการแสดงของกาด็อต, ไพน์, วิกและปาสกาล แต่ติในเรื่อง "การตามใจมากเกินไปและเนื้อเรื่องที่จำเจ" ภาพยนตร์ทำเงิน 166 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ส่งผลให้ภาพยนตร์ขาดทุน เพราะการจำกัดฉายในโรงภาพยนตร์เนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19 แต่กลายเป็นภาพยนตร์ที่ส่งตรงสู่สตรีมมิงที่มีผู้ชมมากที่สุดในปี ค.ศ. 2020

ภาพยนตร์ภาคต่ออีกสองเรื่องกำลังอยู่ในการพัฒนา โดยแบ่งเป็นภาพยนตร์ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีเจนคินส์และกาด็อต กลับมาทำหน้าที่เดิม และภาพยนตร์ภาคแยกที่อำนวยการสร้างโดยเจนคินส์ โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชาวแอมะซอนแห่งเทอมิสกีรา

เรื่องย่อ[แก้]

ในปี 1984 ช่วงสงครามเย็น ไดอานาเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขามสองคน ได้แก่ แม็กซ์เวลล์ ลอร์ด นักธุรกิจสื่อ และ บาร์บารา มิเนอร์วา / ชีตาห์ เพื่อนที่กลายเป็นศัตรู และได้พบกับสตีฟ เทรเวอร์ คนรักของเธออีกครั้ง[5][6]

นักแสดง[แก้]

นอกจากนี้ยังมีนาทาชา รอทเวลล์ รับบทแคโรล เจ้านายของบาร์บาราที่สถาบันสมิธโซเนียน, ราวี พาเทล รับบท Baba Jide ชายผู้เก็บรักษาเอกสารประวัติของดรีมสโตน (Dreamstone), กาบรีเอลลา ไวลด์ รับบทราเควล ผู้ช่วยของแม็กซ์เวลล์, โอลิเวอร์ คอตตัน รับบท ไซมอน สแต็ก นักลงทุนของบริษัทแม็กซ์เวลล์ และสจวต มิลลิแกน รับบทประธานาธิบดีสหรัฐ[8][9][10][11]

อ้างอิง[แก้]

  1. "[Overseas Movies] Wonder Woman 1984". Korea Media Rating Board. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 17, 2020. สืบค้นเมื่อ August 31, 2020.
  2. "Warner Bros Debates Whether Wonder Woman 1984 Should Skip Theaters for Streaming (Exclusive)". TheWrap. March 20, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2020. สืบค้นเมื่อ March 20, 2020.
  3. "Wonder Woman 1984". The Numbers. Nash Information Services, LLC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 20, 2020. สืบค้นเมื่อ May 11, 2021.
  4. "Wonder Woman 1984". Box Office Mojo. IMDb. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 23, 2020. สืบค้นเมื่อ May 11, 2021.
  5. "Report: Wonder Woman 2 Set During the Cold War, Chris Pine to Return". Paste Magazine. July 11, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2019. สืบค้นเมื่อ June 26, 2019.
  6. Betancourt, David (March 9, 2018). "Kristen Wiig will star in Wonder Woman sequel as the Cheetah, Patty Jenkins confirms". The Washington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 10, 2018. สืบค้นเมื่อ June 11, 2018.
  7. 7.0 7.1 "The Good Fight with Robin Wright". Net-A-Porter. August 31, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 31, 2018. สืบค้นเมื่อ September 1, 2018.
  8. Galuppo, Mia (July 24, 2018). "Insecure Star Natasha Rothwell Joins Wonder Woman Sequel". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 25, 2018. สืบค้นเมื่อ July 29, 2018.
  9. D'Alessandro, Anthony (July 27, 2018). "Ravi Patel & Gabriella Wilde Boarding Wonder Woman 1984". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 29, 2018. สืบค้นเมื่อ July 29, 2018.
  10. Waked, Amr (November 16, 2019). "انتظروا ظهوري في فيلم المرأة الخارقة ١٩٨٤ (الجزء الثاني) إخراج باتي جينكينز والمتوقع نزوله في يونيو ٢٠٢٠. يا رب يعجبكم الفيلم".
  11. Fernández, Alexia (August 21, 2020). "Wonder Woman 1984 Director Says Trump Is 'One' of the Influences for Pedro Pascal's Villain". People. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 28, 2020. สืบค้นเมื่อ December 28, 2020. I've gone out of my way not to make it look like Ronald Reagan

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]