วันชาติ (ประเทศไทย)
วันชาติ | |
---|---|
จัดขึ้นโดย | ประเทศไทย |
ประเภท | วันชาติ, วันหยุดสาธารณะ |
ความสำคัญ | วันพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์[1] |
เริ่ม | 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560[2] |
วันที่ | 5 ธันวาคม ของทุกปี |
วันชาติ เป็นวันสำคัญและวันหยุดราชการในประเทศไทย เคยกำหนดใช้หลายวัน ดังนี้
- ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2463 เป็นอย่างน้อย ใช้วันที่ 6 เมษายน ซึ่งตรงกับวันจักรี[3]
- ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 ใช้วันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475[1]
- ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 ยกเลิกวันชาติ และแทนที่ด้วย วันเฉลิมฉลองของชาติ โดยใช้วันพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์ โดยในที่นี้หมายถึงพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) คือวันที่ 5 ธันวาคม[4]
- ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มีการรื้อฟื้นวันชาติขึ้นอีกครั้ง โดยยังคงกำหนดให้ตรงกับวันพระบรมราชสมภพของรัชกาลที่ 9 คือวันที่ 5 ธันวาคม เช่นเดิม[2]
ประวัติ
[แก้]6 เมษายน
[แก้]ใน พ.ศ. 2463 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤดากร อัครราชทูตสยามในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีโทรเลขลงวันที่ 2 กรกฎาคม สอบถามกระทรวงการต่างประเทศสยามว่า รัฐบาลสเปนขอทราบถึงวันชาติสยาม เพื่อจะลงไว้ในหนังสือทางการทูต และพระองค์เจ้าจรูญฯ ไม่ทราบจะตอบอย่างไรดี เพราะสถานทูตในกรุงปารีสเคยฉลองอยู่ 3 วัน คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันขึ้นปีใหม่ และวันขึ้นครองราชย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น จึงทูลถามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) และหม่อมเจ้าธานีนิวัต ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนราชเลขาธิการ มีหนังสือตอบกลับมาว่า รัชกาลที่ 6 ทรงเห็นว่า "ควรบอกไป วันที่ 6 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่เราเรียกกันว่า 'วันจักรี' (Chakri Day)"[3]
24 มิถุนายน
[แก้]ต่อมาหลังเกิดการปฏิวัติสยามในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ให้ใช้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ[5] เพื่อรำลึกถึงการที่คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยในการปฏิวัติสยามนั้น[1]
ในปีถัดมา จึงมีการจัดงานเฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนายน เป็นครั้งแรก ซึ่งดำเนินไปอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้รัฐบาลอันมีจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี[6]
ในวันชาติ พ.ศ. 2482 จอมพล แปลก ยังประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศจาก "สยาม" เป็น "ไทย"[6] และให้เผยแพร่ "เพลงวันชาติ" เป็นครั้งแรก อันเป็นเพลงที่มนตรี ตราโมท แต่ง และชนะการประกวดซึ่งรัฐบาลจัดขึ้น[1]
จอมพล แปลก ยังออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2482 (ศักราชเก่า) ให้หยุดราชการ 3 วันเนื่องในวันชาติ ได้แก่ วันที่ 23, 24, และ 25 มิถุนายน ของทุกปี[7] ก่อนที่ต่อมาจะออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2491 ให้เปลี่ยนเป็นหยุดวันเดียว คือ 24 มิถุนายน ของทุกปี[8]
5 ธันวาคม
[แก้]ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้แทนที่วันชาติด้วย "วันเฉลิมฉลองของชาติ" ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม วันพระบรมราชสมภพของรัชกาลที่ 9[4] ประกาศดังกล่าวระบุว่า การกำหนดวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาตินั้น "ได้ปรากฎในภายหลังว่า มีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ" คณะรัฐมนตรีจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เป็นประธาน และได้ข้อสรุปว่า ให้กำหนดวันพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติแทน "เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน" ทำให้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันพระบรมราชสมภพของรัชกาลที่ 9 เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา[4]
ในโอกาสเดียวกัน จอมพล สฤษดิ์ ยังออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2503 ให้ยกเลิกการหยุดราชการในวันชาติเดิมด้วย[9]
ต่อมาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ (รัชกาลที่ 10) มีพระราชโองการให้กำหนดวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของประเทศ 3 วัน คือ "วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา" ของรัชกาลที่ 9, วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปีดังกล่าว[2] โดยระบุเหตุผลว่า จากการสวรรคตของรัชกาลที่ 9 ที่ทำให้ประชาชนเศร้าสลดอย่างยิ่ง และด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประเทศและประชาชน "ปวงชนชาวไทยทั้งปวงจึงน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและตระหนักถึงความสำคัญของวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา"[2]
พลเอก ประยุทธ์ ยังออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 กำหนดให้วันชาติ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันหยุดราชการตามเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปีดังกล่าว เป็นต้นไป[10]
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 รัชกาลที่ 10 ทรงออกประกาศซึ่งปรับเนื้อความจากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับก่อนหน้าเล็กน้อย โดยกำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็น "วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ" ของรัชกาลที่ 9 โดยยังคงเป็นวันชาติและวันพ่อแห่งชาติเช่นเดิม[11]
กิจกรรม
[แก้]ในวันชาติ 24 มิถุนายน นั้น กิจกรรมในกรุงเทพฯ มีขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ทั้งกลางวันและกลางคืน มีการยิงปืนใหญ่ทั้งทางบกและทางเรือเพื่อเป็นสลุต มีเครื่องบินโปรยกระดาษสีธงชาติในเวลากลางวันและโปรยพลุในเวลากลางคืน มีการแสดงโขน มีพิธีกรรมทางศาสนา มีการออกตราไปรษณียากรเป็นที่ระลึก มีการเชิญชวนให้ยานพาหนะต่าง ๆ ร่วมกันเปล่งเสียงแตรหรือหวูดพร้อมกันในเวลาเที่ยงวัน เว้นแต่ในบริเวณโรงพยาบาล และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนในจังหวัดอื่นนั้น มีการประชุมนักเรียนเพื่ออธิบายความสำคัญของวันชาติ มีการประกวดประพันธ์กวีนิพนธ์และบทเพลงเกี่ยวกับชาติ มีการเฉลิมฉลองและมหรสพครึกครื้น นอกเหนือไปจากกิจกรรมอื่น ๆ[6]
ส่วนในวันชาติ 5 ธันวาคม มีกิจกรรม คือ พิธีวางพานพุ่มดอกไม้และถวายบังคมแด่รัชกาลที่ 9 โดยในช่วงโควิด-19 ระบาด ได้ปรับมาจัดพิธีในรูปแบบออนไลน์[12] และตั้งแต่ พ.ศ. 2566 พิธีนี้ในส่วนกลางจัดขึ้น ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ ภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ[13]
แม้จะมีผู้เห็นว่า วันที่ 24 มิถุนายน กลายเป็น "ความทรงจำอันเลือนราง" ในประวัติศาสตร์ไทย[14] ก็ยังมีผู้จัดกิจกรรมในวันที่ 24 มิถุนายน ของทุกปี เพื่อรักษาความทรงจำนี้ไว้ โดยเรียกว่า "วันชาติราษฎร" แทน[15]
ในวัฒนธรรมประชานิยม
[แก้]งานเฉลิมฉลองวันชาติ พ.ศ. 2482 ได้รับการถ่ายทอดไว้สหัสนิยายเรื่อง พล นิกร กิมหงวน ตอน ตื่นกรุง ของ ป. อินทรปาลิต ซึ่งเผยแพร่ในปีนั้นเอง[6]
ถาวรวัตถุ
[แก้]- สะพานเฉลิมวันชาติ กรุงเทพฯ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี จัดสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2483 เพื่อเป็นที่ระลึกวันชาติ[16]
- อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี กระทำรัฐพิธีเปิดในวันชาติ พ.ศ. 2483[6]
- อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี กระทำรัฐพิธีเปิดในวันชาติ พ.ศ. 2485[17]
-
จอมพล แปลก เปิดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันชาติ พ.ศ. 2483
-
จอมพล แปลก เปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันชาติ พ.ศ. 2485
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 กองบรรณาธิการวอยซ์ทีวี (2012-07-20). "รำลึกเพลงวันชาติ 24 มิถุนายน วันนี้ยังดังอยู่ในใจ". วอยซ์ทีวี.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 . ราชกิจจานุเบกษา. 134 (44 ง): 1. 2017-02-10.
- ↑ 3.0 3.1 กรมศิลปากร (1969). . พระนคร: โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง. p. 37–38.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 . ราชกิจจานุเบกษา. 77 (43 ง): 1452–1453. 1960-05-24.
- ↑ . ราชกิจจานุเบกษา. 55: 322. 1938-08-01.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 นริศ จรัสจรรยาวงศ์ (2022-06-24). "เฉลิมฉลองวันชาติครั้งแรก 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482". The101.world.
- ↑ . ราชกิจจานุเบกษา. 56: 3551–3553. 1940-03-04.
- ↑ . ราชกิจจานุเบกษา. 45 (65): 2312–2314. 1948-08-10.
- ↑ . ราชกิจจานุเบกษา. 77 (49 ง): 1. 1960-06-09.
- ↑ . ราชกิจจานุเบกษา. 134 (44 ง): 2. 2017-02-10.
- ↑ . ราชกิจจานุเบกษา. 136 (129 ง): 1. 2019-05-22.
- ↑ "วันชาติไทย 2564". สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา. 2022-11-30.
- ↑ "วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ร.9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค." กรมประชาสัมพันธ์. 3 ธันวาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 16 ตุลาคม 2024.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ พระจันทร์ เอี่ยมชื่น (2022-06-29). "รู้ไหม 24 มิถุนายน เคยเป็น "วันชาติ" ของประเทศไทย". BrandThink.
- ↑ "รำลึก 91 ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง เปิดเพลงวันชาติ 24 มิถุนา แทน เพลงชาติไทย". ไทยรัฐ. 2023-06-24.
- ↑ "สะพานเฉลิมวันชาติ ย่านขายธงชาติแห่งแรก". ศิลปวัฒนธรรม. 2016-10-13.
- ↑ "วันนี้ในอดีต 24 มิ.ย. 2485 เปิด'อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ'". คมชัดลึก. 2017-06-24.