วัดศิลาอาสน์ (จังหวัดชัยภูมิ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดศิลาอาสน์
แผนที่
ชื่อสามัญวัดศิลาอาสน์, ภูพระ
ที่ตั้งตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายมหานิกาย
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดศิลาอาสน์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

วัดศิลาอาสน์ตั้งอยู่บริเวณภูพระ กรมศิลปากรได้ประกาศทะเบียนโบราณวัตถุสถาน ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 เป็นต้นมา ภายหลังได้กำหนดขอบเขตที่ดินเป็นเขตโบราณสถาน ภูพระเป็นเนินเขาหินทรายเป็นศาสนสถาน และใช้เพิงผาสลักพระพุทธรูปแบบนูนสูง 9 องค์ ประทับนั่งปางมารวิชัย 3 องค์ และปางสมาธิ 6 องค์ องค์ที่มีขนาดใหญ่สุด คือ พระเจ้าองค์ตื้อ สันนิษฐานว่าอาจจะสร้างในสมัยรุ่นราวคราวเดียวกับปรางค์กู่ พระพุทธรูปเหล่านี้มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 ถึง 19 (ราว พ.ศ. 1701–1900) ทุกปีมีงานนมัสการพระพุทธรูปที่ 3 ปีละ 2 ครัั้ง ครั้งละ 3 วัน คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 และวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 5[1]

พ.ศ. 2483 พระวิบูลนิโรธกิจ อดีตเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ได้ขอตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อ ศิลาอาสน์ และแผ้วถางบริเวณให้เตียน ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2483[2] ในปีถัดไปได้สร้างเป็นกุฏิ

พระพุทธรูปที่ภูพระ เป็นศิลปะที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะท้องถิ่น คือ ศิลปะทวารวดี ได้แก่ พระพักตร์รูปสี่เหลี่ยม พระขนงรูปปีกกา และศิลปะเขมรที่แพร่หลายเข้ามามาก ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-18 ได้แก่ แนวเส้นพระเกศา และเกตุมาลารูปกรวยคว่ำ สำหรับมงกุฎหรือกระบังหน้าที่ปรากฏบนพระพุทธรูปทรงเครื่องคล้ายกับที่พบจากพระพุทธรูปในศิลปะเขมรนครวัดหรือบายน ในพุทธศตวรรษที่ 17-18 พระเจ้าองค์ตื้อมีขนาดหน้าตักกว้าง 5 ฟุต สูง 7 ฟุต พระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยม พระรัศมีเป็นรูปบัวตูมขนาดเล็ก พระเกศาเป็นเส้นยาว เรียงคล้ายเส้นผม พระขนงมีขนาดเล็กต่อกันเป็นรูปปีกกา พระเนตรเล็กมองตรง พระนาสิกทรงสามเหลี่ยม พระโอษฐเล็ก พระกรรณยาว ครองจีวรห่มคลุม พระอังสายาว มีผ้าสังฆาฏิปลายตัดเป็นเส้นตรงยาวมาจรดพระนาภี ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย ที่มีลักษณะพิเศษ คือ วางพระหัตถ์ซ้ายไว้บนพระเพลาแทนที่จะเป็นพระหัตถ์ขวาตามแบบพระพุทธรูปปางมารวิชัยทั่วไป

อ้างอิง[แก้]

  1. "วัดศิลาอาสน์ ภูพระ". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).
  2. "วัดศิลาอาสน์". สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.