วัดพระรูป (จังหวัดสุพรรณบุรี)
วัดพระรูป | |
---|---|
![]() อุโบสถวัดพระรูป | |
พระพุทธไสยาสน์ | |
![]() | |
ชื่อสามัญ | วัดพระรูป |
ที่ตั้ง | 112/1 ถนนขุนช้าง ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
ก่อตั้ง | ราวสมัยกรุงศรีอยุธยา |
พระพุทธรูปสำคัญ | - พระพุทธไสยาสน์ ในวิหาร - พระประธาน ในอุโบสถ |
เจ้าอาวาส | พระครูสังฆรักษ์ วุฒิพันธุ์ เพ็งสุวรรณ สิริธโร |
ความพิเศษ | - เป็นโบราณสถาน - เป็นสถานที่ท่องเที่ยว |
มหามงคล | - รูปเหมือนหลวงพ่อเผื่อน (บูรพาจารย์) - รูปเหมือนหลวงพ่อดี (อดีตเจ้าอาวาส) |
จุดสนใจ | - เจดีย์ประธาน - พระพุทธไสยาสน์ - รอยพระพุทธบาทไม้ - มณฑปบูรพาจารย์ - พิพิธภัณฑ์วัดพระรูป |
กิจกรรม | - ปิดทอง ไหว้พระ - เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ |
โทรศัพท์ | 08-6068-4065 08-9109-5650 |
เว็บไซต์ | https://watphrarup.com |
หมายเหตุ | |
ชื่อที่ขึ้นทะเบียน | วัดพระรูป |
ขึ้นเมื่อ | 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 |
เป็นส่วนหนึ่งของ | รายชื่อโบราณสถานในจังหวัดสุพรรณบุรี |
เลขอ้างอิง | 0004885 |
![]() |
วัดพระรูป เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ในตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ประวัติ
[แก้]วัดพระรูป สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นมาแล้วตั้งแต่ก่อนสมัยอยุธยาเป็นราชธานี อาจเก่าแก่มาแต่สมัยทวารวดี และคงเป็นวัดร้างมาหลายครั้ง แล้วมีการสร้างใหม่ในที่เดิม ดังปรากฏเจดีย์เก่าแก่ทรงแปดเหลี่ยมยอดระฆังกลม ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีรูปแบบศิลปะแบบสุพรรณภูมิหรืออู่ทอง กำหนดอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 เจดีย์ได้พบซากฐานเดิมขององค์เจดีย์ที่สันนิษฐานว่ามีมาก่อนพุทธศตวรรษที่ 19 ส่วนเจดีย์ที่เห็นในปัจจุบันนั้นน่าจะสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 19 บนฐานเจดีย์เดิม แล้วมีการบูรณะซ่อมแซม กรมศิลปากรได้ขุดแต่งและบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2534 โดยการฉาบปูนทับและปั้นลายปูนปั้นใหม่เมื่อราวครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 20[1]
ในโคลงนิราศสุพรรณของสุนทรภู่ บรรยายไว้ว่า "ฝั่งซ้ายฝ่ายฟากโพ้น พิศดาร มีวัดพระรูป บูราณ ท่านสร้าง ที่ถัดวัดประตูสาร สงสู่ อยู่เอย หย่อมหย้านบ้านขุนช้าง ชิดข้างสวนบันลัง"[2]
จากข้อมูลกรมการศาสนา ระบุว่าวัดพระรูปตั้งเมื่อ พ.ศ. 1800 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2512
ลำดับเจ้าอาวาส
[แก้]ลำดับเจ้าอาวาส และผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระรูป (เท่าที่พบข้อมูล)[3][4][5][6][7]
ลำดับ | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | พระมหาเถรศรีราชโมลี (สมณศักดิ์เดิมที่ พระมหาเถรชัยโมลี) | - | - | ไม่ชัดเจนว่าเป็นเจ้าอาวาสหรือไม่, ปรากฏชื่อบนจารึกสุพรรณบัฏ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 บรรจุอยู่ในเจดีย์ประธานของวัด |
2 | สมภารสาง (พระสางสมภาร) | - | - | ไม่ชัดเจนว่าเป็นเจ้าอาวาสหรือไม่, ปรากฏชื่อบนจารึกระฆังเก่าของวัด ระบุ พ.ศ. 2242 |
3 | สมเด็จ เจ้าง่อย | ราวสมัยกรุงธนบุรี | ราวสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น | เจ้าอาวาส, ตามตำนานเชื่อว่าเป็นเชื้อพระวงศ์มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา |
- | - | - | - | เจ้าอาวาสต่อจากสมเด็จฯ เจ้าง่อย ไม่พบข้อมูล |
4 | สมภารวัน | ราวสมัยรัชกาลที่ 3 | ราวสมัยรัชกาลที่ 4 | เจ้าอาวาส |
5 | พระอธิการยม | ราวสมัยรัชกาลที่ 4 หรือต้นรัชกาลที่ 5 | สมัยรัชกาลที่ 5 | เจ้าอาวาส, พระอุปัชฌาย์, เป็นพระอุปัชฌาย์ของพระอธิการกาบ พฺรหฺมสโร วัดจรรย์ เมื่อ พ.ศ. 2421 |
6 | พระสมุห์หรุ่น | สมัยรัชกาลที่ 5 | ราวปลายสมัยรัชกาลที่ 5 หรือต้นรัชกาลที่ 6 | เจ้าอาวาส, เจ้าคณะหมวด, ปรากฏชื่อในรายงานตรวจการณ์คณะสงฆ์ ร.ศ. 119 (พ.ศ. 2443) กับทำเนียบคณะสงฆ์ ร.ศ.123 (พ.ศ. 2447) |
7 | พระอาจารย์ช้าง | ราวปลายสมัยรัชกาลที่ 5 หรือต้นรัชกาลที่ 6 | สมัยรัชกาลที่ 6 | เจ้าอาวาส, พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (ดี ศรีขำสุข จตฺตมโล) เคยติดตามพระพี่ชายมาเรียนหนังสือเมื่อยังเป็นเด็ก |
8 | พระอาจารย์แทน | สมัยรัชกาลที่ 6 | สมัยรัชกาลที่ 6 | เจ้าอาวาส, ชราภาพ ตามืดมองไม่เห็น พระแจง (พระวินัยธรแจง) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส จึงปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส |
9 | พระวินัยธรแจง | สมัยรัชกาลที่ 6 | สมัยรัชกาลที่ 6 | เจ้าอาวาส, เป็นผู้นำสร้างมณฑปพระพุทธบาท เมื่อเดือน 4 ปีฉลู (พ.ศ. 2456) แล้วเสร็จ เดือน 7 ปีมะโรง (พ.ศ. 2459) |
10 | พระครูถาวรสุวรรณคุณ (คำ ถาวโร) | พ.ศ. 2466 | พ.ศ. 2471 | ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส |
พ.ศ. 2471 | พ.ศ. 2524 | เจ้าอาวาส, มรณภาพ | ||
11 | พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (ดี ศรีขำสุข จตฺตมโล) | พ.ศ. 2524 | พ.ศ. 2551 | เจ้าอาวาส, เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. 2488 และปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส, มรณภาพ |
12 | พระครูอนุกูลสุวรรณากร (สมควร ดวงแก้ว อธิปุญฺโญ) | พ.ศ. 2551 | พ.ศ. 2560 | เจ้าอาวาส, มรณภาพ |
13 | พระครูสังฆรักษ์ วุฒิพันธุ์ เพ็งสุวรรณ สิริธโร | พ.ศ. 2560 | - | เจ้าอาวาส, ปัจจุบัน |
อัลบั้มภาพ
[แก้]-
อุโบสถ
-
อุโบสถ
-
อุโบสถ
-
พระประธาน ในอุโบสถ
-
พระประธาน ในอุโบสถ
-
พระพุทธไสยาสน์ ในวิหาร
-
พระพุทธไสยาสน์ ในวิหาร
-
พระพุทธไสยาสน์ ในวิหาร
-
รอยพระพุทธบาทไม้ (ด้านหน้า)
-
รอยพระพุทธบาทไม้ (ด้านหลัง)
-
เจดีย์ประธาน
-
ชิ้นส่วนพระพุทธรูปเก่า
-
วิหารเก๋งจีน ปรักหักพัง
-
วิหารเก๋งจีน ปรักหักพัง
-
วิหารเก๋งจีน ปรักหักพัง
ปูชนียวัตถุและโบราณวัตถุ
[แก้]พระพุทธบาทไม้ ศิลปะอู่ทอง มีขนาดกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1 เมตร 80 เซนติเมตร สันนิษฐานได้ว่าถูกนำมาจากที่อื่น ด้านหน้าทำเป็นลวดลายมงคล 108 ในกรอบทรงกลมกลางฝ่าพระบาท และท้าวจตุโลกบาล ด้านหลังสลักเป็นรูปตอนมารผจญ
ยังมีซากเจดีย์ที่ยังไม่ได้รับการขุดแต่งและบูรณะในบริเวณวัดอีกหลายองค์ ซากศาลาแบบเก๋งจีน และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ศิลปะอู่ทอง ซึ่งแต่เดิมเป็นวิหารขนาดเล็กพอดีกับองค์พระ แต่ปัจจุบันมีการซ่อมขยายวิหารให้มีขนาดใหญ่ขึ้น[8] พระพุทธรูปปางไสยาสน์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เณรแก้ว ซึ่งมีพระพักตร์กลมยาวคล้ายผลมะตูม ผินพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าสร้างในราว พ.ศ. 1800–1893 และถือว่าเป็นพระนอนที่มีพระพักตร์งามที่สุดในประเทศไทย[9]
กรุพระ
[แก้]นอกจากนี้ยังเป็นกรุของพระตระกูลขุนแผนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการพระเครื่องจำนวนมาก ที่พบได้ตามลานดิน กระจัดกระจายอยู่ภายในบริเวณวัดพระรูป เริ่มค้นพบกันมากในปี พ.ศ. 2508 ระหว่างการสร้างอุโบสถใหม่แทนหลังเก่า พระตระกูลขุนแผนที่พบ มีลักษณะเป็นเป็นเนื้อดินเผา โดยมีอยู่ทั้งหมด 5 พิมพ์ คือ พระขุนแผน พระขุนไกร พระพลายงาม พระพันวษา พระกุมารทอง หรือพระยุ่ง[9]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "วัดพระรูป". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม.
- ↑ admint (2016-06-28). "โคลงนิราศสุพรรณ". vajirayana.org. สืบค้นเมื่อ 2025-04-14.
- ↑ อำนาจ รักษาสัตย์. (2492). คำทำนายฝันของพระยาปัตเถวนทร์ ที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพ หลวงพ่อกาพย์ พฺรหฺมสโร วัดจรรย์. พระนคร: โรงพิมพ์ศึกษานุกูล.
- ↑ ประทุม ชุ่มเพ็งพันธุ์. (2535). 80 ปี พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (หลวงปู่ดี) วัดพระรูป สุพรรณบุรี. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: นานาสิ่งพิมพ์.
- ↑ สิโรตม์ ภินันท์รัชต์ธร, อาสา คำภา และเทียมจิตร พ่วงสมจิตร์. (2565). วัดพระรูป เมืองสุพรรณ คู่มือแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์วัดพระรูป. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นำทองการพิมพ์.
- ↑ กระทรวงธรรมการ. (2447). ทำเนียบคณะสงฆ์ ลงพิมพ์โดยอนุญาตของเสนาบดีกระทรวงธรรมการ รัตนโกสินทร์ศก 123. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, รายงานตรวจจัดการคณะ การพระศาสนา และการศึกษาในมณฑลนครไชยศรี ร.ศ. 119, เล่ม 17, 24 กุมภาพันธ์ 2443, หน้า 2
- ↑ "วัดพระรูป". สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี.
- ↑ 9.0 9.1 "วัดพระรูป". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).