ข้ามไปเนื้อหา

วัดพระรูป (จังหวัดสุพรรณบุรี)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดพระรูป
อุโบสถวัดพระรูป
พระพุทธไสยาสน์
แผนที่
ชื่อสามัญวัดพระรูป
ที่ตั้ง112/1 ถนนขุนช้าง ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายมหานิกาย
ก่อตั้งราวสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระพุทธรูปสำคัญ- พระพุทธไสยาสน์ ในวิหาร
- พระประธาน ในอุโบสถ
เจ้าอาวาสพระครูสังฆรักษ์ วุฒิพันธุ์ เพ็งสุวรรณ สิริธโร
ความพิเศษ- เป็นโบราณสถาน
- เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
มหามงคล- รูปเหมือนหลวงพ่อเผื่อน (บูรพาจารย์)
- รูปเหมือนหลวงพ่อดี (อดีตเจ้าอาวาส)
จุดสนใจ- เจดีย์ประธาน
- พระพุทธไสยาสน์
- รอยพระพุทธบาทไม้
- มณฑปบูรพาจารย์
- พิพิธภัณฑ์วัดพระรูป
กิจกรรม- ปิดทอง ไหว้พระ
- เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
โทรศัพท์08-6068-4065
08-9109-5650
เว็บไซต์https://watphrarup.com
หมายเหตุ
ชื่อที่ขึ้นทะเบียนวัดพระรูป
ขึ้นเมื่อ25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478
เป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อโบราณสถานในจังหวัดสุพรรณบุรี
เลขอ้างอิง0004885
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

วัดพระรูป เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ในตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี

ประวัติ

[แก้]

วัดพระรูป สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นมาแล้วตั้งแต่ก่อนสมัยอยุธยาเป็นราชธานี อาจเก่าแก่มาแต่สมัยทวารวดี และคงเป็นวัดร้างมาหลายครั้ง แล้วมีการสร้างใหม่ในที่เดิม ดังปรากฏเจดีย์เก่าแก่ทรงแปดเหลี่ยมยอดระฆังกลม ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีรูปแบบศิลปะแบบสุพรรณภูมิหรืออู่ทอง กำหนดอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 เจดีย์ได้พบซากฐานเดิมขององค์เจดีย์ที่สันนิษฐานว่ามีมาก่อนพุทธศตวรรษที่ 19 ส่วนเจดีย์ที่เห็นในปัจจุบันนั้นน่าจะสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 19 บนฐานเจดีย์เดิม แล้วมีการบูรณะซ่อมแซม กรมศิลปากรได้ขุดแต่งและบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2534 โดยการฉาบปูนทับและปั้นลายปูนปั้นใหม่เมื่อราวครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 20[1]

ในโคลงนิราศสุพรรณของสุนทรภู่ บรรยายไว้ว่า "ฝั่งซ้ายฝ่ายฟากโพ้น พิศดาร มีวัดพระรูป บูราณ ท่านสร้าง ที่ถัดวัดประตูสาร สงสู่ อยู่เอย หย่อมหย้านบ้านขุนช้าง ชิดข้างสวนบันลัง"[2]

จากข้อมูลกรมการศาสนา ระบุว่าวัดพระรูปตั้งเมื่อ พ.ศ. 1800 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2512

ลำดับเจ้าอาวาส

[แก้]

ลำดับเจ้าอาวาส และผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระรูป (เท่าที่พบข้อมูล)[3][4][5][6][7]

ลำดับ รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ หมายเหตุ
1 พระมหาเถรศรีราชโมลี (สมณศักดิ์เดิมที่ พระมหาเถรชัยโมลี) - - ไม่ชัดเจนว่าเป็นเจ้าอาวาสหรือไม่, ปรากฏชื่อบนจารึกสุพรรณบัฏ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 บรรจุอยู่ในเจดีย์ประธานของวัด
2 สมภารสาง (พระสางสมภาร) - - ไม่ชัดเจนว่าเป็นเจ้าอาวาสหรือไม่, ปรากฏชื่อบนจารึกระฆังเก่าของวัด ระบุ พ.ศ. 2242
3 สมเด็จ เจ้าง่อย ราวสมัยกรุงธนบุรี ราวสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เจ้าอาวาส, ตามตำนานเชื่อว่าเป็นเชื้อพระวงศ์มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
- - - - เจ้าอาวาสต่อจากสมเด็จฯ เจ้าง่อย ไม่พบข้อมูล
4 สมภารวัน ราวสมัยรัชกาลที่ 3 ราวสมัยรัชกาลที่ 4 เจ้าอาวาส
5 พระอธิการยม ราวสมัยรัชกาลที่ 4 หรือต้นรัชกาลที่ 5 สมัยรัชกาลที่ 5 เจ้าอาวาส, พระอุปัชฌาย์, เป็นพระอุปัชฌาย์ของพระอธิการกาบ พฺรหฺมสโร วัดจรรย์ เมื่อ พ.ศ. 2421
6 พระสมุห์หรุ่น สมัยรัชกาลที่ 5 ราวปลายสมัยรัชกาลที่ 5 หรือต้นรัชกาลที่ 6 เจ้าอาวาส, เจ้าคณะหมวด, ปรากฏชื่อในรายงานตรวจการณ์คณะสงฆ์ ร.ศ. 119 (พ.ศ. 2443) กับทำเนียบคณะสงฆ์ ร.ศ.123 (พ.ศ. 2447)
7 พระอาจารย์ช้าง ราวปลายสมัยรัชกาลที่ 5 หรือต้นรัชกาลที่ 6 สมัยรัชกาลที่ 6 เจ้าอาวาส, พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (ดี ศรีขำสุข จตฺตมโล) เคยติดตามพระพี่ชายมาเรียนหนังสือเมื่อยังเป็นเด็ก
8 พระอาจารย์แทน สมัยรัชกาลที่ 6 สมัยรัชกาลที่ 6 เจ้าอาวาส, ชราภาพ ตามืดมองไม่เห็น พระแจง (พระวินัยธรแจง) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส จึงปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส
9 พระวินัยธรแจง สมัยรัชกาลที่ 6 สมัยรัชกาลที่ 6 เจ้าอาวาส, เป็นผู้นำสร้างมณฑปพระพุทธบาท เมื่อเดือน 4 ปีฉลู (พ.ศ. 2456) แล้วเสร็จ เดือน 7 ปีมะโรง (พ.ศ. 2459)
10 พระครูถาวรสุวรรณคุณ (คำ ถาวโร) พ.ศ. 2466 พ.ศ. 2471 ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส
พ.ศ. 2471 พ.ศ. 2524 เจ้าอาวาส, มรณภาพ
11 พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (ดี ศรีขำสุข จตฺตมโล) พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2551 เจ้าอาวาส, เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. 2488 และปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส, มรณภาพ
12 พระครูอนุกูลสุวรรณากร (สมควร ดวงแก้ว อธิปุญฺโญ) พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2560 เจ้าอาวาส, มรณภาพ
13 พระครูสังฆรักษ์ วุฒิพันธุ์ เพ็งสุวรรณ สิริธโร พ.ศ. 2560 - เจ้าอาวาส, ปัจจุบัน

อัลบั้มภาพ

[แก้]

ปูชนียวัตถุและโบราณวัตถุ

[แก้]

พระพุทธบาทไม้ ศิลปะอู่ทอง มีขนาดกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1 เมตร 80 เซนติเมตร สันนิษฐานได้ว่าถูกนำมาจากที่อื่น ด้านหน้าทำเป็นลวดลายมงคล 108 ในกรอบทรงกลมกลางฝ่าพระบาท และท้าวจตุโลกบาล ด้านหลังสลักเป็นรูปตอนมารผจญ

ยังมีซากเจดีย์ที่ยังไม่ได้รับการขุดแต่งและบูรณะในบริเวณวัดอีกหลายองค์ ซากศาลาแบบเก๋งจีน และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ศิลปะอู่ทอง ซึ่งแต่เดิมเป็นวิหารขนาดเล็กพอดีกับองค์พระ แต่ปัจจุบันมีการซ่อมขยายวิหารให้มีขนาดใหญ่ขึ้น[8] พระพุทธรูปปางไสยาสน์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เณรแก้ว ซึ่งมีพระพักตร์กลมยาวคล้ายผลมะตูม ผินพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าสร้างในราว พ.ศ. 1800–1893 และถือว่าเป็นพระนอนที่มีพระพักตร์งามที่สุดในประเทศไทย[9]

กรุพระ

[แก้]

นอกจากนี้ยังเป็นกรุของพระตระกูลขุนแผนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการพระเครื่องจำนวนมาก ที่พบได้ตามลานดิน กระจัดกระจายอยู่ภายในบริเวณวัดพระรูป เริ่มค้นพบกันมากในปี พ.ศ. 2508 ระหว่างการสร้างอุโบสถใหม่แทนหลังเก่า พระตระกูลขุนแผนที่พบ มีลักษณะเป็นเป็นเนื้อดินเผา โดยมีอยู่ทั้งหมด 5 พิมพ์ คือ พระขุนแผน พระขุนไกร พระพลายงาม พระพันวษา พระกุมารทอง หรือพระยุ่ง[9]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "วัดพระรูป". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม.
  2. admint (2016-06-28). "โคลงนิราศสุพรรณ". vajirayana.org. สืบค้นเมื่อ 2025-04-14.
  3. อำนาจ รักษาสัตย์. (2492). คำทำนายฝันของพระยาปัตเถวนทร์ ที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพ หลวงพ่อกาพย์ พฺรหฺมสโร วัดจรรย์. พระนคร: โรงพิมพ์ศึกษานุกูล.
  4. ประทุม ชุ่มเพ็งพันธุ์. (2535). 80 ปี พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (หลวงปู่ดี) วัดพระรูป สุพรรณบุรี. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: นานาสิ่งพิมพ์.
  5. สิโรตม์ ภินันท์รัชต์ธร, อาสา คำภา และเทียมจิตร พ่วงสมจิตร์. (2565). วัดพระรูป เมืองสุพรรณ คู่มือแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์วัดพระรูป. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นำทองการพิมพ์.
  6. กระทรวงธรรมการ. (2447). ทำเนียบคณะสงฆ์ ลงพิมพ์โดยอนุญาตของเสนาบดีกระทรวงธรรมการ รัตนโกสินทร์ศก 123. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ.
  7. ราชกิจจานุเบกษา, รายงานตรวจจัดการคณะ การพระศาสนา และการศึกษาในมณฑลนครไชยศรี ร.ศ. 119, เล่ม 17, 24 กุมภาพันธ์ 2443, หน้า 2
  8. "วัดพระรูป". สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี.
  9. 9.0 9.1 "วัดพระรูป". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).