อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
อนุสาวรีย์ปราบกบฏ
อนุสาวรีย์ 17 ทหารและตำรวจ
อนุสาวรีย์หลักสี่
อนุสาวรีย์หลวงอำนวยสงคราม
Pitak Ratthathammanun Monument.JPG
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
ประเภทเสาอนุสรณ์
ที่ตั้งแขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
สร้างเมื่อพ.ศ. 2479 (เริ่มก่อสร้าง)
15 ตุลาคม พ.ศ. 2479 (พิธีเปิด)
สร้างเพื่อระลึกถึงชัยชนะของรัฐบาลคณะราษฎรในเหตุการณ์ปราบกบฏบวรเดช
รื้อถอน27 ธันวาคม พ.ศ. 2561
สถานะถูกรื้อถอน, สูญหาย
สถาปนิกหลวงนฤมิตรเลขการ
สถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
ผู้ดูแลกรมศิลปากร รัฐบาลไทย
ชื่อที่ขึ้นทะเบียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
ขึ้นเมื่อ12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
เป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานคร
เลขอ้างอิง0005462
วงเวียน ทางแยก
ชื่ออักษรไทยอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
ชื่ออักษรโรมันAnusawari Phithak Ratthathammanun
รหัสทางแยกN110
ที่ตั้งแขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ทิศทางการจราจร
ทิศเหนือ
ถนนพหลโยธิน
» สะพานใหม่
ทิศตะวันออก
ถนนรามอินทรา
» แยกลาดปลาเค้า
ทิศใต้
ถนนพหลโยธิน
» แยกเกษตร
ทิศตะวันตก
ถนนแจ้งวัฒนะ
» แยกหลักสี่

อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรือ อนุสาวรีย์ปราบกบฏ เป็นอนุสาวรีย์ที่เคยตั้งอยู่ ณ วงเวียนหลักสี่ จุดตัดระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรา ตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ปราบกบฏบวรเดช และเพื่อรำลึกถึงทหารและตำรวจฝ่ายรัฐบาลที่เสียชีวิต ปัจจุบันมีสถานะสูญหาย ไม่ทราบว่าถูกเคลื่อนย้ายหรือถูกทำลาย

ประวัติ[แก้]

ดูเพิ่มที่: กบฏบวรเดช

ในสมัยพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย ได้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยในปี พ.ศ. 2475 โดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม รวมทั้งนายทหารอื่น ๆ ก่อการรัฐประหารโดยนำกองทหารเพชรบุรี นครราชสีมา และอุดรธานี บุกเข้ายึดพื้นที่ดอนเมืองและบางเขนไว้ ภายหลังการปราบกบฏแล้วนั้น รัฐบาลจึงมีดำริก่อสร้างอนุสาวรีย์เพื่อบรรจุอัฐินายทหารและตำรวจของรัฐบาลที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการดังกล่าว[1] จึงดำเนินการก่อสร้างอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญในราวปี พ.ศ. 2479 โดยหลวงนฤมิตรเลขการเป็นผู้ออกแบบอนุสาวรีย์ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและทำพิธีเปิดในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2479 โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงประกอบพิธีเปิด

รายละเอียด[แก้]

แนวคิดและลักษณะทางสถาปัตยกรรม[แก้]

อนุสาวรีย์ได้รับการออกแบบโดยหลวงนฤมิตรเลขการ อาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยออกแบบลักษณะเป็นเสา และสื่อถึงหลักทางการเมืองของรัฐบาล 5 ประการ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กองทัพ และรัฐธรรมนูญ เสาของอนุสาวรีย์มีลักษณะคล้ายลูกปืน สื่อความหมายถึงกองทัพ ประดับกลีบบัว 8 ซ้อนขึ้นไป 2 ชั้น บนฐานรูปแปดเหลี่ยมซึ่งหมายถึงทิศทั้งแปดตามคติพราหมณ์ ฐานของอนุสาวรีย์มี 4 ทิศ มีบันไดวนรอบฐาน ส่วนบนสุดของเสาอนุสาวรีย์เป็นพานรัฐธรรมนูญซึ่งหมายถึง รัฐธรรมนูญ[2]

ผนังของเสาแต่ละด้านของอนุสาวรีย์มีการจารึกและประดับในเรื่องราวที่ต่างกันไป โดยผนังด้านทิศตะวันตกหรือผนังที่อยู่ด้านหน้าของถนนพหลโยธินมีการจารึกรายนามของทหารและตำรวจ 17 นายที่เสียชีวิต ด้านทิศตะวันออกนั้นเป็นรูปแกะสลักของครอบครัวชาวนาคือ พ่อ แม่ และลูก โดย ผู้ชายถือเคียวเกี่ยวข้าว ผู้หญิงถือรวงข้าว และเด็กถือเชือก ซึ่งสื่อถึงชาติและประชาชนในชาติ ด้านทิศเหนือเป็นรูปธรรมจักรซึ่งหมายถึงศาสนา และด้านทิศใต้เป็นแผ่นทองเหลืองจารึกโคลงสยามานุสติ ซึ่งเป็นโคลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งสื่อถึงพระมหากษัตริย์

ความหมาย[แก้]

โดยมีการบรรจุอัฐิทหารและตำรวจที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ภายในรวม 17 นาย จึงมีชื่อเรียกอื่น ๆ ได้แก่ อนุสาวรีย์ 17 ทหารและตำรวจ อนุสาวรีย์หลักสี่ หรืออนุสาวรีย์หลวงอำนวยสงคราม[3] มีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญอยู่หลายครั้งโดยกรมทางหลวง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดโดยรอบอนุสาวรีย์ อาทิ การปรับภูมิทัศน์เป็นสี่แยกและการขุดอุโมงค์ลอดอนุสาวรีย์ และการก่อสร้างสะพานลอยด้านข้างอนุสาวรีย์เพื่อเชื่อมต่อถนนแจ้งวัฒนะกับถนนรามอินทรา ปัจจุบันบริเวณอนุสาวรีย์มีการก่อสร้างสถานีวัดพระศรีมหาธาตุของทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต - คูคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ส่วนตัวอนุสาวรีย์นั้นถูกย้ายออกและไม่ทราบว่ามีการนำไปไว้ที่ใด

อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญได้รับการออกแบบโดยหลวงนฤมิตรเลขการ อาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยยึดหลักทางการเมืองของรัฐบาล 5 ประการ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กองทัพ และรัฐธรรมนูญ[2] การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2479 มีการทำพิธีเปิดในวันที่ 15 ตุลาคม ปีเดียวกัน โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงประกอบพิธีเปิด

อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เคยใช้เป็นสถานที่เพื่อนัดชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.) ในปี พ.ศ. 2553[4] นอกจากนี้ยังมีประเพณีตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ ณ บริเวณอนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นประจำทุกปี

ปรับปรุงภูมิทัศน์ และสูญหาย[แก้]

สวนหย่อมใต้สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ

การจราจรบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์มีความเนื่องแน่น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2536 กรมทางหลวงได้ปรับปรุงทางจราจรบริเวณอนุสาวรีย์โดยทุบพื้นที่โดยรอบเหลือเพียงแต่เสาอนุสาวรีย์ ทำเป็นสี่แยก ต่อมาได้ยกเลิกการใช้สี่แยกดังกล่าวเนื่องจากได้ขุดอุโมงค์ลอดอนุสาวรีย์แทน ในปี พ.ศ. 2553 กรมทางหลวงได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานลอยในบริเวณวงเวียนหลักสี่ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องเคลื่อนย้ายตัวอนุสาวรีย์ออกไปจากบริเวณเดิม กลุ่มนักอนุรักษ์โบราณคดี และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนชาวบ้านได้รวมตัวกันคัดค้านการเคลื่อนย้ายดังกล่าว[5] หากทว่ากรมทางหลวงได้อ้างว่าได้พูดคุยกับกรมศิลปากรแล้ว แต่กรมศิลปากรปฏิเสธและไม่มีนโยบายที่จะเคลื่อนย้ายโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว[6]

ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ได้ย้ายอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญไปไว้ที่ศูนย์ก่อสร้างหนองบอน กรุงเทพมหานคร[7] แต่นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้นำไปไว้ที่ศูนย์ก่อสร้างหนองบอน และไม่ทราบว่าปัจจุบันตัวอนุสาวรีย์เก็บไว้ที่ใด[8]

สถานที่สำคัญใกล้เคียง[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. พะเยาว์ เขียวชะอุ่ม, ณัฏฐิยา วงศ์สุวรรณ อนุเสาวรีย์ของไทย เก็บถาวร 2011-04-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกข้อมูลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
  2. 2.0 2.1 My First Brain อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เรียกข้อมูลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
  3. ย้ายแล้วเงียบๆ ‘อนุสาวรีย์หลักสี่’ สัญลักษณ์ปราบกบฏบวรเดช มติชนออนไลน์ สืบค้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
  4. http://www.prachatai.com อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เรียกข้อมูลวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
  5. อำมาตย์รื้อย้ายอนุสาวรีย์ปราบกบฏเดือนนี้ เรียกข้อมูลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
  6. กระทรวงวัฒนธรรม m-culture.go.th[ลิงก์เสีย] กรมศิลป์ฯ - โต้กลับ “คุยกับใคร” ย้ายอนุสาวรีย์ปราบกบฏหลักสี่ เรียกข้อมูลวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
  7. สัญลักษณ์ประชาธิปไตยล่องหน จากหมุดคณะราษฎรสู่อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
  8. พบอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญหายไปจากวงเวียนหลักสี่ ไม่ทราบอยู่ไหน

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

พิกัดภูมิศาสตร์: 13°52′31″N 100°35′49″E / 13.875246°N 100.596839°E / 13.875246; 100.596839