ลูกเดือย
ลูกเดือย | |
---|---|
![]() | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Liliopsida |
อันดับ: | Poales |
วงศ์: | Poaceae |
สกุล: | Coix |
สปีชีส์: | C. lacryma-jobi |
ชื่อทวินาม | |
Coix lacryma-jobi L. | |
ชื่อพ้อง | |
Coix agrestis Lour. |
ลูกเดือย พืชในวงศ์ Poaceae เป็นธัญพืชประเภทคาร์โบไฮเดรตเดือยเป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเส้นใยอาหารสูง เป็นพืชตระกูลเดียวกับข้าว โดยมีลักษณะเป็นเม็ดสีขาว เม็ดจะออกกลม ๆ รี ๆ รสชาติออกมันเล็กน้อย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์[แก้]
เดือย เป็นหญ้าที่แตกกอมาก ดอกแยกเพศไม่แยกต้น ใบขนาดใหญ่มีกาบใบ กาบใบสั้น ผิวเกลี้ยง หรือมีขนยาวปกคลุมในส่วนปลาย ลิ้นใบสั้น มีลักษณะเป็นเยื่อบาง ดอกช่อ ผลเทียมอยู่ด้านนอกเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองหรือสีม่วง ผลแท้มีเปลือกหุ้มแข็งสีแดงเข้ม พันธุ์ที่เปลือกอ่อนจะเป็นสีน้ำตาล เดือยมี 4 สายพันธุ์ได้แก่
- var. lacryma-jobi ผลรูปไข่ เปลือกแข็งไม่เป็นริ้ว เมล็ดเป็นเงามัน สีเหลืองอมขาว มีรอยบุ๋ม ด้านล่างเป็นสีน้ำตาล มักพบขึ้นตามธรรมชาติ เมล็ดใช้ทำอาหารหรือเครื่องประดับ ภาษาจีนกลางเรียกอี้อี่เหริน ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกอิกบี๋ยิ้ง
- var. monilifur ผลรูปกลม มีด้านแบน 1 ด้าน เปลือกแข็งไม่เป็นริ้ว พบเฉพาะในพม่าและตะวันออกของอินเดีย ใช้ทำเครื่องประดับ
- var. stenocarpa หรือมะเดือยขี้หนอน ผลคล้ายหลอดหรือขวด เมล็ดมีร่องเว้าเข้าไปตรงกลาง เปลือกแข็ง ไม่เป็นริ้ว เยื่อหุ้มเมล็ดสีน้ำตาลแดง น้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลอ่อน นิยมใช้เป็นไม้ประดับ ผลใช้ประดับเสื้อผ้าของชาวปะกาเกอะญอ ใช้ทำสร้อยหรือเครื่องประดับอื่น ๆ[1]
- var. ma-yuen ผลรูปไข่ หรือทรงลูกแพร์ เปลือกนุ่มเป็นริ้ว เป็นพันธุ์ที่ใช้เป็นอาหาร และยังมีพันธุ์ย่อยอีกมากมาย เช่นในไทยมีพันธุ์เหนียวและไม่เหนียว ส่วนในบราซิลมีพันธุ์ต้นเตี้ยที่ให้ผลผลิตสูง เป็นต้น
การใช้ประโยชน์[แก้]
เดือยพบตามธรรมชาติในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพืชอาหารที่แพร่หลายในจีนก่อนที่จะปลูกข้าวและข้าวโพดกันอย่างแพร่หลาย เมล็ดเดือยนำมาหุงได้เช่นเดียวกับข้าว และใช้รับประทานแทนข้าวได้ ใช้ทำขนมหรือทำเค้กได้ แป้งจากเดือยเมื่อนำไปอบจะไม่ฟูเพราะไม่มีกลูเต็น เมล็ดเดือยดิบมีรสหวาน ในญี่ปุ่นนำเมล็ดเดือยไปคั่วแล้วชงเป็นชา ในฟิลิปปินส์และชาวเขาในอินเดียนำเมล็ดไปตำละเอียดแล้วหมักเป็นเบียร์ ลำต้นใช้เลี้ยงสัตว์ได้ หรือนำมามุงหลังคา เมล็ดที่มีเปลือกแข็งนำมาร้อยเป็นลูกประคำ หรือใช้ในงานฝีมือต่าง ๆ เมล็ดเดือยมีไขมันและโปรตีนสูงกว่าข้าวและข้าวสาลี มีสาร coixol มีฤทธิ์เป็นยาบรรเทาปวด อิกบี๋ยิ้งนี้ตำรายาจีนใช้เป็นยาต้านภูมิแพ้ รักษาสิวและฝีหนอง[2]
คุณค่าทางอาหาร[แก้]
ลูกเดือยมีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะมีปริมาณโปรตีน 13.84% คาร์โบ-ไฮเดรต 70.65% ใยอาหาร 0.23% ไขมัน 5.03% แร่ธาตุต่าง ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงกระดูก มีอยู่ในปริมาณสูง รวมทั้งวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 โดยเฉพาะวิมามินบี 1 มีในปริมาณ มาก (มีมากกว่าข้าวกล้อง) ซึ่งช่วยแก้โรค เหน็บชาด้วย ลูกเดือยยังมีกรดอะมิโนทุกชนิดที่สูงกว่าความต้องการตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ยกเว้นเมทไธโอนีนและไลซีน เช่น มีกรดกลูตามิกในปริมาณมากตามด้วยลูซีน, อลานีน,โปรลีน วาลีน, ฟินิลอลานีน, ไอโซลูซีน และอาร์จีนีนลดหลั่นลงมา มีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัวด้วย เช่น กรดโอเลอิค และกรดลิโนเลอิก รวมแล้วถึง 84% และเป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัว คือ ปาล์มิติก และสเตียริก เพียง 16% เท่านั้น
อ้างอิง[แก้]
- พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ และคณะ. ทรัพยากรพืชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 10: ธัญพืช. กทม. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย. 2544.
- วารสารเกษตร http://www.crdc.kmutt.ac.th/document/download/agr/agr4/413-416.pdf เก็บถาวร 2021-12-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ ขวัญฤทัย คำฝาเชื้อ 2551 พฤกษศาสตร์พื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง ที่ตำบลบ้านจันทร์และแจ่มหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ วิทยานิพนธ์ (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่271 หน้า ดูฉบับเต็ม เก็บถาวร 2021-06-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ ภาสกิจ วัณณาวิบูล. รู้เลือกรู้ใช้ 100 ยาจีน. กทม. ทองเกษม. 2555