ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2565

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2565
แผนที่สรุปฤดูกาล
ขอบเขตฤดูกาล
ระบบแรกก่อตัว5 มิถุนายน พ.ศ. 2565
ระบบสุดท้ายสลายตัว11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565
พายุมีกำลังมากที่สุด
ชื่อฟีโอนา
 • ลมแรงสูงสุด130 ไมล์/ชม. (215 กม./ชม.)
(เฉลี่ย 1 นาที)
 • ความกดอากาศต่ำที่สุด932 มิลลิบาร์ (hPa; 27.52 inHg)
สถิติฤดูกาล
พายุดีเปรสชันทั้งหมด16 ลูก
พายุโซนร้อนทั้งหมด14 ลูก
พายุเฮอริเคน8 ลูก
พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่
(ระดับ 3 ขึ้นไป)
2 ลูก
ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมากกว่า 337 คน
ความเสียหายทั้งหมด> 12.0425 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ค่าเงิน USD ปี 2022)
ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก
2563, 2564, 2565, 2566, 2567

ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2565 คือช่วงของฤดูกาลในอดีตที่เคยมีการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ฤดูกาลอย่างเป็นทางการนั้นเริ่มนับในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 และสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 วันเหล่านี้เป็นขอบระยะเวลาตามประวัติศาสตร์ที่จะมีพายุก่อตัวขึ้นมากที่สุดในแอ่งแอตแลนติก (กว่าร้อยละ 97)[1] ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (NHC) จะออกออกภาพรวมลมฟ้าอากาศเขตร้อนทั่วไปในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[2] ซึ่งนับเป็นช่วงสองอาทิตย์ก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น

พายุ[แก้]

พายุโซนร้อนอเล็กซ์[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 5 – 6 มิถุนายน
ความรุนแรง 70 ไมล์/ชม. (110 กม./ชม.) (1 นาที)
984 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.06 นิ้วปรอท)

พายุโซนร้อนบอนนี[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 1 – 2 กรกฎาคม(ออกนอกแอ่ง)
ความรุนแรง 50 ไมล์/ชม. (85 กม./ชม.) (1 นาที)
997 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.44 นิ้วปรอท)

พายุโซนร้อนคอลิน[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 2 – 3 กรกฎาคม
ความรุนแรง 40 ไมล์/ชม. (65 กม./ชม.) (1 นาที)
1011 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.85 นิ้วปรอท)

พายุโซนร้อนคอลิน[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 2 – 3 กรกฎาคม
ความรุนแรง 40 ไมล์/ชม. (65 กม./ชม.) (1 นาที)
1011 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.85 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนแดเนียลล์[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS)
ระยะเวลา 1 – 8 กันยายน
ความรุนแรง 90 ไมล์/ชม. (150 กม./ชม.) (1 นาที)
972 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.7 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนเอิร์ล[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 2 (SSHWS)
ระยะเวลา 3 – 10 กันยายน
ความรุนแรง 105 ไมล์/ชม. (165 กม./ชม.) (1 นาที)
954 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.17 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนฟีโอนา[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS)
ระยะเวลา 14 – 24 กันยายน
ความรุนแรง 130 ไมล์/ชม. (215 กม./ชม.) (1 นาที)
932 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 27.52 นิ้วปรอท)

พายุโซนร้อนแกสตัน[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 20 – 26 กันยายน
ความรุนแรง 65 ไมล์/ชม. (100 กม./ชม.) (1 นาที)
995 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.38 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนเอียน[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS)
ระยะเวลา 23 – 30 กันยายน
ความรุนแรง 155 ไมล์/ชม. (250 กม./ชม.) (1 นาที)
936 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 27.64 นิ้วปรอท)

พายุโซนร้อนเฮอร์มีน[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 23 – 25 กันยายน
ความรุนแรง 40 ไมล์/ชม. (65 กม./ชม.) (1 นาที)
1002 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.59 นิ้วปรอท)

พายุดีเปรสชันเขตร้อนอีเลฟเวน[แก้]

พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 28 – 29 กันยายน
ความรุนแรง 35 ไมล์/ชม. (55 กม./ชม.) (1 นาที)
1008 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.77 นิ้วปรอท)

ช่วงตันของวันที่ 21 กันยายน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติได้เริ่มติดตามคลื่นอากาศในเขตร้อน (tropical wave) ที่มีความเป็นไปได้ในการพัฒนาตัวซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้เฉตะวันตกของหมู่เกาะกาบูเวร์ดี[3] ต่อมาคลื่นอากาศดังกล่าวได้ก่อตัวขึ้นเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในวันเดียวกันนั้น[4] แต่ความแปรปรวนนั้นยังคงจมตัวอยู่ภายในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้งประกอบกับลมระดับบนที่ไม่เอื้ออำนวย และมีการจัดระบบเล็กน้อยจนถึงไม่มีเลยในช่วงหลายวันต่อมา ขณะที่ระบบอยู่บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกตอนกลาง[5] จนวันที่ 26 กันยายน การพาความร้อนรอบหย่อมความกดอากาศต่ำเริ่มค่อย ๆ แสดงสัญญาณของการจัดระบบขึ้น[6] และในที่สุดก็ได้ก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนในวันที่ 28 กันยายน เวลา 15:00 UTC[7] แต่แม้จะมีการพาความร้อนระดับลึกขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ตัวพายุดีเปรสชันเขตร้อนก็ยังคงมีการจัดระบบที่ย่ำแย่ในวันที่ 29 กันยายน และเริ่มที่จะเสื่อมกำลังลง[8] ต่อมาในเวลา 21:00 UTC พายุได้สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่หลงเหลือนอกเขตร้อน[9]

พายุดีเปรสชันเขตร้อนทเวล์ฟ[แก้]

พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 4 – 7 ตุลาคม
ความรุนแรง 35 ไมล์/ชม. (55 กม./ชม.) (1 นาที)
1006 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.71 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนจูเลีย[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS)
ระยะเวลา 7 – 9 ตุลาคม (ออกนอกแอ่ง)
ความรุนแรง 85 ไมล์/ชม. (140 กม./ชม.) (1 นาที)
982 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29 นิ้วปรอท)

พายุโซนร้อนคาร์ล[แก้]

พายุโซนร้อน (SSHWS)
ระยะเวลา 11 – 15 ตุลาคม
ความรุนแรง 60 ไมล์/ชม. (95 กม./ชม.) (1 นาที)
998 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.47 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนลีซา[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS)
ระยะเวลา 31 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน
ความรุนแรง 85 ไมล์/ชม. (140 กม./ชม.) (1 นาที)
988 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.18 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนมาร์ติน[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS)
ระยะเวลา 1 – 3 พฤศจิกายน
ความรุนแรง 85 ไมล์/ชม. (140 กม./ชม.) (1 นาที)
960 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.35 นิ้วปรอท)

พายุเฮอริเคนนิโคล[แก้]

พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS)
ระยะเวลา 7 – 11 พฤศจิกายน
ความรุนแรง 75 ไมล์/ชม. (120 กม./ชม.) (1 นาที)
980 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.94 นิ้วปรอท)

รายชื่อพายุ[แก้]

ชุดรายชื่อต่อไปนี้ใช้เป็นชื่อสำหรับพายุที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือในปี พ.ศ. 2565 รายชื่อที่ไม่ถูกถอนจากรายการจะถูกนำมาใช้อีกครั้งในฤดูกาล 2571[10] โดยรายการรายชื่อนี้เป็นรายการเดียวกันกับที่เคยใช้ไปในฤดูกาล 2559 เว้นแต่ มาร์ติน และ โอเวน ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกนำมาทดแทน แมตทิว และ ออตโต ซึ่งถูกถอนไปตามลำดับ[11]

  • อเล็กซ์
  • บอนนี
  • คอลิน
  • แดเนียลล์
  • เอิร์ล
  • ฟีโอนา
  • แกสตัน
  • เฮอร์มีน
  • เอียน
  • จูเลีย
  • คาร์ล
  • ลีซา
  • มาร์ติน
  • นิโคล
  • โอเวน (ยังไม่ใช้)
  • เปาลา (ยังไม่ใช้)
  • ริชาร์ด (ยังไม่ใช้)
  • แชรี (ยังไม่ใช้)
  • โทไบอัส (ยังไม่ใช้)
  • วีร์ฌีนี (ยังไม่ใช้)
  • วอลเตอร์ (ยังไม่ใช้)

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Hurricanes Frequently Asked Questions". Miami, Florida: NOAA Atlantic Oceanographic and Meteorological Laboratory. June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ January 30, 2022.
  2. Bevin, Jack (November 30, 2021). Tropical Weather Outlook (Report). Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ January 30, 2022.
  3. Beven, Jack (September 21, 2022). Two-Day Graphical Tropical Weather Outlook (Report). Miami, Florida: National hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 28, 2022.
  4. Brown, Daniel (September 21, 2022). Two-Day Graphical Tropical Weather Outlook (Report). Miami, Florida: National hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 28, 2022.
  5. Latto, Andrew (September 23, 2022). Two-Day Graphical Tropical Weather Outlook (Report). Miami, Florida: National hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 28, 2022.
  6. Papin, Philippe (September 26, 2022). Two-Day Graphical Tropical Weather Outlook (Report). Miami, Florida: National hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 28, 2022.
  7. Papin, Philippe (September 28, 2022). Tropical Depression Eleven Advisory Number 1 (Report) (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 28, 2022.
  8. Papin, Philippe (September 29, 2022). Tropical Depression Eleven Discussion Number 5 (Report) (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 29, 2022.
  9. Papin, Philippe (September 29, 2022). ost-Tropical Cyclone Eleven Advisory Number 6 (Report) (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ September 29, 2022.
  10. "Hurricane Names for the 2022 Hurricane Season". Dublin, New Hampshire: Yankee Publishing. December 6, 2021. สืบค้นเมื่อ February 5, 2022.
  11. "World Meteorological Organization retires storm names Matthew and Otto". Washington, D.C.: National Oceanic and Atmospheric Administration. March 27, 2017. สืบค้นเมื่อ February 5, 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]