รายชื่อนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
![]() | |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1955 |
---|---|
ภูมิภาค | ยูฟ่า (ยุโรป) |
จำนวนทีม | 36 (รอบลีก) 2 (นัดชิงชนะเลิศ) |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | ![]() (15 สมัย) |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | ![]() (15 สมัย) |
![]() |
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็นการแข่งขันฟุตบอลประจำปีที่จัดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1955[1] ก่อนฤดูกาล 1992–93 การแข่งขันมีชื่อว่า ยูโรเปียนคัพ[1] ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนั้นเปิดให้แชมป์ลีกจากสมาคมสมาชิกยูฟ่า (สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป) ทั้งหมดเข้าร่วมได้ (ยกเว้น ลีชเทินชไตน์ ซึ่งไม่มีการแข่งขันลีก) เช่นเดียวกับสโมสรที่จบอันดับตั้งแต่รองชนะเลิศถึงอันดับที่สี่ในลีกที่แข็งแกร่งที่สุด[2] แต่เดิม อนุญาตให้เฉพาะแชมป์ของลีกระดับประเทศและแชมป์เก่าของการแข่งขันเท่านั้นที่จะเข้าร่วมได้ อย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 1997 ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าวเพื่อให้รองแชมป์ของลีกที่แข็งแกร่งกว่าสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้เช่นกัน และใน ค.ศ. 1999 ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าวอีกครั้ง โดยทีมที่จบอันดับที่สามและสี่ของลีกดังกล่าวก็มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน[3] ในยุคแชมเปียนส์ลีก ทีมแชมป์เก่าของการแข่งขันไม่ได้ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติจนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงกฎใน ค.ศ. 2005 เพื่อให้แชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้[4]
ทีมที่ชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสามครั้งติดต่อกันหรือห้าครั้ง จะได้รับตราสัญลักษณ์ผู้ชนะเลิศหลายสมัย[5] หกทีมได้รับสิทธิพิเศษนี้ ได้แก่ เรอัลมาดริด, อายักซ์, ไบเอิร์นมิวนิก, เอซี มิลาน, ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลนา[6] ก่อน ค.ศ. 2009 สโมสรที่ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าวจะได้รับอนุญาตให้เก็บถ้วยรางวัลยูโรเปียนแชมเปียนคลับส์คัพไว้ได้ และมีการสั่งทำถ้วยใหม่ขึ้น[7] ตั้งแต่ ค.ศ. 2009 ทีมที่ชนะเลิศในแต่ละปีจะได้รับถ้วยรางวัลจำลองขนาดเท่าจริง ส่วนถ้วยรางวัลดั้งเดิมนั้นจะถูกเก็บรักษาไว้โดยยูฟ่า[8]
มี 23 สโมสรที่เคยชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก/ยูโรเปียนคัพ เรอัลมาดริดครองสถิติชนะเลิศมากที่สุด โดยชนะเลิศ 15 สมัย รวมถึงครั้งแรกด้วย พวกเขาชนะเลิศติดต่อกันมากที่สุดถึงห้าสมัยตั้งแต่ ค.ศ. 1956 ถึง 1960 ยูเวนตุส เป็นรองชนะเลิศมากที่สุด โดยแพ้ในนัดชิงชนะเลิศเจ็ดครั้ง อัตเลติโกเดมาดริด เป็นทีมเดียวที่เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศสามครั้งแต่ไม่ชนะเลิศ ขณะที่ แร็งส์ และบาเลนเซีย เป็นรองชนะเลิศสองครั้ง ทีมจากสเปนชนะเลิศมากที่สุด โดยได้ชนะเลิศถึงยี่สิบครั้งจากสองสโมสร[9] หกสโมสรจากอังกฤษชนะเลิศรวมกันสิบห้าสมัย ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด ส่วนสามสโมสรจากอิตาลีชนะเลิศรวมกันสิบสองสมัย สโมสรจากอังกฤษถูกแบนจากการแข่งขันเป็นเวลาห้าปี หลังเกิดภัยพิบัติเฮย์เซลใน ค.ศ. 1985[10] แชมป์ปัจจุบันคือ เรอัลมาดริด โดยชนะ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 2–0 ในนัดชิงชนะเลิศ 2024[11]
แม้ว่าสถานที่จัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศจะได้รับการเลือกไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่มีสี่ครั้งที่สโมสรเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศแล้วแข่งขันในสนามกีฬาของตนเอง เรอัลมาดริด และอินเตอร์มิลาน ชนะเลิศยูโรเปียนคัพครั้งที่สองของพวกเขาในซานเตียโก เบร์นาเบว เมื่อ ค.ศ. 1957 และซานซีโร เมื่อ ค.ศ. 1965 ตามลำดับ โรมา แพ้การดวลลูกโทษกับลิเวอร์พูลในสตาดีโอโอลิมปีโก เมื่อ ค.ศ. 1984 ไบเอิร์นมิวนิก แพ้การดวลลูกโทษกับเชลซีในอัลลีอันทซ์อาเรนา เมื่อ ค.ศ. 2012
รายชื่อนัดชิงชนะเลิศ
[แก้]† | ชนะการแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษ |
* | ชนะการแข่งขันโดยการดวลลูกโทษ |
& | ชนะการแข่งขันโดยการแข่งใหม่ |
- คอลัมน์ "ฤดูกาล" หมายถึงฤดูกาลที่การแข่งขันจัดขึ้น และวิกิลิงก์ไปยังบทความที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลดังกล่าว
- วิกิลิงก์ในคอลัมน์ "ผลประตู" เชื่อมโยงไปที่บทความเกี่ยวกับนัดชิงชนะเลิศของฤดูกาลดังกล่าว
ผลงาน
[แก้]แบ่งตามสโมสร
[แก้]แบ่งตามชาติ
[แก้]มีสโมสรจากสิบสามชาติที่เข้าถึงนัดชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก และมีสิบชาติที่ชนะเลิศรายการนี้ นับตั้งแต่ฤดูกาล 1995–96 นอกจากชัยชนะของโปร์ตูในฤดูกาล 2003–04 แล้ว ผู้ชนะเลิศมาจากหนึ่งในสี่ชาติเท่านั้น ได้แก่ สเปน (13), อังกฤษ (7), เยอรมนี (4) และอิตาลี (4) และนอกเหนือจากมอนาโกในฤดูกาล 2003–04 และปารีแซ็ง-แฌร์แม็งในฤดูกาล 2019–20 แล้ว รองชนะเลิศทั้งหมดมาจากสี่ชาติเดียวกัน
อังกฤษเป็นประเทศที่มีสโมสรที่ชนะเลิศได้มากที่สุด โดยมีหกสโมสรที่คว้าถ้วยรางวัล อิตาลี, เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์มีชาติละสามสโมสรที่ชนะเลิศ ในขณะที่สเปนและโปรตุเกสมีชาติละสองสโมสรที่ชนะเลิศ สกอตแลนด์, โรมาเนีย, ยูโกสลาเวีย และฝรั่งเศสมีชาติละหนึ่งสโมสรที่ชนะเลิศ
ชาติ | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | รวม |
---|---|---|---|
![]() |
20 | 11 | 31 |
![]() |
15 | 11 | 26 |
![]() |
12 | 17 | 29 |
![]() |
8 | 11 | 19 |
![]() |
6 | 2 | 8 |
![]() |
4 | 5 | 9 |
![]() |
1 | 6 | 7 |
![]() |
1 | 1 | 2 |
![]() |
1 | 1 | 2 |
![]() |
1 | 1 | 2 |
![]() |
0 | 1 | 1 |
![]() |
0 | 1 | 1 |
![]() |
0 | 1 | 1 |
ดูเพิ่มเติม
[แก้]- รายชื่อผู้จัดการทีมที่ชนะเลิศยูโรเปียนคัพและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- รายชื่อนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพและยูโรปาลีก
- รายชื่อนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ
- รายชื่อนัดการแข่งขันยูฟ่าซูเปอร์คัพ
- รายชื่อนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าคอนเฟอเรนซ์ลีก
- รายชื่อผู้ชนะเลิศยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ
- รายชื่อนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าวิมินส์คัพและวิมินส์แชมเปียนส์ลีก
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ผลประตู 1–1 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ ลิเวอร์พูลชนะการดวลลูกโทษ 4–2[16]
- ↑ ผลประตู 0–0 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ สเตอัวบูคูเรสตีชนะการดวลลูกโทษ 2–0[17]
- ↑ ผลประตู 0–0 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟินชนะการดวลลูกโทษ 6–5[18]
- ↑ ผลประตู 0–0 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ เรดสตาร์เบลเกรดชนะการดวลลูกโทษ 5–3[19]
- ↑ ผลประตู 1–1 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ ยูเวนตุสชนะการดวลลูกโทษ 4–2[20]
- ↑ ผลประตู 1–1 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ ไบเอิร์นมิวนิกชนะการดวลลูกโทษ 5–4[21]
- ↑ ผลประตู 0–0 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ มิลานชนะการดวลลูกโทษ 3–2[22]
- ↑ ผลประตู 3–3 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ ลิเวอร์พูลชนะการดวลลูกโทษ 3–2[23]
- ↑ ผลประตู 1–1 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะการดวลลูกโทษ 6–5[24]
- ↑ ผลประตู 1–1 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ เชลซีชนะการดวลลูกโทษ 4–3[25]
- ↑ ผลประตู 1–1 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษ เรอัลมาดริดชนะการดวลลูกโทษ 5–3[26]
- ↑ นัดชิงชนะเลิศ 2020 เล่นโดยไม่มีผู้ชม เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในทวีปยุโรป[27]
- ↑ นัดชิงชนะเลิศ 2021 เล่นโดยมีผู้ชมจำกัด เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในทวีปยุโรป
- ↑ รวมสโมสรที่เป็นตัวแทนจากเยอรมนีตะวันตก และไม่มีสโมสรที่เป็นตัวแทนจากเยอรมนีตะวันออกเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ
- ↑ ตัวแทนจากยูโกสลาเวียทั้งสองสโมสรมาจากสาธารณรัฐสังคมนิยมเซอร์เบีย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "Competition history". UEFA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 November 2017. สืบค้นเมื่อ 13 May 2020.
- ↑ "Access list" (PDF). UEFA. 30 July 2020. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2018. สืบค้นเมื่อ 30 July 2020.
- ↑ "1997/98: Seventh heaven for Madrid". UEFA. 30 April 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 October 2012. สืบค้นเมื่อ 8 July 2010.
- ↑ "Liverpool get in Champions League". BBC Sport. 10 June 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2016. สืบค้นเมื่อ 8 July 2010.
- ↑ "UEFA Champions League Museum" (PDF). UEFA. p. 10. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 6 November 2015. สืบค้นเมื่อ 22 June 2015.
- ↑ "How UEFA honours multiple European Cup winners". UEFA.com (ภาษาอังกฤษ). UEFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 8 February 2025.
- ↑ "Regulations of the UEFA Champions League 2007/08" (PDF). UEFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 12 March 2007. สืบค้นเมื่อ 7 July 2010.
- ↑ "Regulations of the UEFA Champions' League 2009/10" (PDF). UEFA. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 July 2016. สืบค้นเมื่อ 20 October 2012.
- ↑ Haslam, Andrew (27 May 2009). "Spain savour European pre-eminence". UEFA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 June 2011. สืบค้นเมื่อ 7 July 2010.
- ↑ "1985: English teams banned after Heysel". BBC News. 31 May 1985. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 June 2017. สืบค้นเมื่อ 8 August 2006.
- ↑ Pettit, Mark (1 June 2024). "Real Madrid win Champions League: Carvajal and Vinícius Júnior see off Dortmund". UEFA. สืบค้นเมื่อ 2 June 2024.
- ↑ "UEFA Champions League Finals 1956–2021". RSSSF. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 August 2022. สืบค้นเมื่อ 29 May 2022.
- ↑ "European Champions' Cup". RSSSF. 31 May 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 July 2009. สืบค้นเมื่อ 13 July 2012.
- ↑ "UEFA Champions League Statistics Handbook" (PDF). UEFA. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2019. สืบค้นเมื่อ 10 November 2022. See also "2022–23 Season Update" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 August 2023.
- ↑ "UEFA Champions League – Statistics Handbook 2012/13" (PDF). UEFA. p. 141. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2019. สืบค้นเมื่อ 22 September 2013.
- ↑ "1983/84: Kennedy spot on for Liverpool". UEFA. 30 May 1984. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 July 2017. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "Steaua stun Barcelona with spot-kick masterclass". UEFA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 May 2020. สืบค้นเมื่อ 13 May 2020.
- ↑ "1987/88: PSV prosper from Oranje boom". UEFA. 25 May 1988. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 February 2018. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "1990/91: Crvena Zvezda spot on". UEFA. 29 May 1991. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2012. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "1995/96: Juve hold their nerve". UEFA. 22 May 1996. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 February 2012. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "2000/01: Kahn saves day for Bayern". UEFA. 23 May 2001. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 March 2016. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "2002/03: Shevchenko spot on for Milan". UEFA. 28 May 2003. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 February 2012. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "2004/05: Liverpool belief defies Milan". UEFA. 25 May 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 February 2012. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "2007/08: Fate favours triumphant United". UEFA. 21 May 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 February 2012. สืบค้นเมื่อ 28 February 2012.
- ↑ "Shoot-out win ends Chelsea's long wait for glory". UEFA. 19 May 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 May 2012. สืบค้นเมื่อ 19 May 2012.
- ↑ "Spot-on Real Madrid defeat Atlético in final again". UEFA. 28 May 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 January 2018. สืบค้นเมื่อ 29 May 2016.
- ↑ "Venues for Round of 16 matches confirmed" (Press release). UEFA. 9 July 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 July 2020.