ราชวงศ์วาซา
| พระราชอิสริยยศ |
|
|---|---|
| ปกครอง | |
| สาขา | วาซาบอร์ก (นอกสมรส) |
| ประมุขพระองค์แรก | พระเจ้ากุสตาฟที่ 1 แห่งสวีเดน |
| ประมุขพระองค์สุดท้าย | สวีเดน: สมเด็จพระราชินีนาถคริสตีนาแห่งสวีเดน (1632–1654) โปแลนด์และลิทัวเนีย: พระเจ้ายันที่ 2 กาชีมีแยช วาซา (1648–1668) |
| สิ้นสุด | ค.ศ. 1672 (ในสายบุรุษหลังการเสด็จสวรรคตของพระเจ้ายันที่ 2 กาชีมีแยช วาซา) |
| ล่มสลาย | สวีเดน: ค.ศ. 1654 (สละราชสมบัติ) โปแลนด์และลิทัวเนีย: ค.ศ. 1668 (สละราชสมบัติ) |
ราชวงศ์วาซา (สวีเดน: Vasaätten) เป็นราชวงศ์ที่ก่อตั้งขึ้นในสวีเดนเมื่อปี ค.ศ. 1523 สมาชิกในราชวงศ์นี้ปกครองราชอาณาจักรสวีเดนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1523 ถึง 1654 และยังได้เป็นกษัตริย์ผู้ปกครองเครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนียตั้งแต่ปี ค.ศ. 1587 ถึง 1668 การสืบตระกูลสายบุรุษของราชวงศ์ได้สิ้นสุดลงเมื่อพระเจ้ายันที่ 2 กาชีมีแยช วาซาเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1672
ราชวงศ์วาซาสืบเชื้อสายมาจากตระกูลขุนนางสวีเดนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 โดยสามารถสืบย้อนตระกูลสายบุรุษไปถึงนิลส์ เช็ตติลส์ซอน ขุนนางผู้ล่วงลับในปี ค.ศ. 1378 ซึ่งเคยเป็นผู้ว่าการประจำปราสาทเทรครูเนอร์ในกรุงสต็อกโฮล์ม ตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 15 สมาชิกหลายคนของราชวงศ์วาซาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1523 ภายหลังเหตุการณ์การนองเลือดที่สต็อกโฮล์มและการยกเลิกสหภาพคาลมาร์ กุสตาฟ เอริกส์ซอนจึงได้ขึ้นเป็นพระเจ้ากุสตาฟที่ 1 แห่งสวีเดน และถือเป็นการสถาปนาราชวงศ์นี้ขึ้นอย่างเป็นทางการ รัชสมัยของพระองค์มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นจุดเริ่มต้นของรัฐสวีเดนยุคใหม่ ซึ่งรวมไปถึงการที่กษัตริย์ทรงแยกตัวออกจากคริสตจักรคาทอลิกในช่วงการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ และการก่อตั้งคริสตจักรแห่งสวีเดนด้วย[1]
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าอีริกที่ 14 พระโอรสองค์โตและผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของพระเจ้ากุสตาฟที่ 1 ก็ถูกโค่นล้มโดยพระเจ้าโยฮันที่ 3 ซึ่งเป็นพระโอรสองค์เล็กกว่าของพระเจ้ากุสตาฟ พระเจ้าโยฮันที่ 3 ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงแคทเทอรีน จากีเลียน เจ้าหญิงคาทอลิกแห่งโปแลนด์-ลิทัวเนีย ทำให้ท้ายที่สุด ราชวงศ์วาซาก็ได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองเครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนียด้วย
พระเจ้าซิกมุนด์ที่ 3 วาซา ซึ่งเป็นพระโอรสคาทอลิกของพระเจ้าโยฮัน และเป็นผู้ปกครองสหภาพโปแลนด์-สวีเดนในช่วงสั้น ๆ นั้น ถูกปลดออกจากราชบัลลังก์สวีเดนในปี ค.ศ. 1599 โดยพระเจ้าคาร์ลที่ 9 พระอนุชาโปรเตสแตนต์ของพระเจ้าโยฮัน ในเหตุการณ์สงครามต่อต้านพระเจ้าซิกมุนด์ ด้วยเหตุนี้ ราชวงศ์วาซาจึงแตกออกเป็นสองสาย คือสายโปรเตสแตนต์ในสวีเดน และสายคาทอลิกในโปแลนด์-ลิทัวเนีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ทำสงครามช่วงชิงราชบัลลังก์กันในสงครามครั้งต่อ ๆ มา
การเข้าสู่สงครามสามสิบปีของพระเจ้ากุสตาฟที่ 2 อดอล์ฟแห่งสวีเดน ซึ่งเป็นแม่ทัพและกษัตริย์โปรเตสแตนต์ผู้โด่งดัง ทำให้เกิดคำกล่าวที่ว่าพระองค์คือผู้เป็นดั่ง "สิงโตแห่งยามเที่ยงคืน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกตคือ สมเด็จพระราชินีนาถคริสตีนาแห่งสวีเดน (ค.ศ. 1632–1654) พระราชธิดาและทายาทของพระองค์ ทรงสละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1654 หลังจากที่พระองค์ทรงเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และได้เสด็จอพยพไปประทับที่กรุงโรม โดยมีพระสันตะปาปาให้การต้อนรับ ในเครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนีย พระเจ้ายันที่ 2 กาชีมีแยช วาซาทรงสละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1668 และเมื่อพระองค์สวรรคตในปี ค.ศ. 1672 ราชวงศ์วาซาสายกษัตริย์ก็สิ้นสุดลง ถึงแม้ราชวงศ์จะสิ้นสุดลง แต่พระเจ้าคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ กษัตริย์สวีเดนองค์ปัจจุบัน ก็ยังคงมีเชื้อสายของพระเจ้ากุสตาฟที่ 1 อยู่ โดยสืบเชื้อสายมาจากวิคโทรีอาแห่งบาเดิน พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก (คุณทวดฝ่ายพ่อ) ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าอดอลฟุส เฟรเดอริคที่ 2 ผู้เป็นเหลนของเหลนของพระเจ้ากุสตาฟที่ 1
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Gustav I Vasa | King of Sweden, Reformer & Founder of Modern Sweden | Britannica". www.britannica.com (ภาษาอังกฤษ). 2023-09-25. สืบค้นเมื่อ 2023-10-24.