ยุทธการที่ฌ็องบลู (ค.ศ. 1940)
ยุทธการที่ฌ็องบลู | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ยุทธการที่เบลเยียม, แนวรบด้านตะวันตก ของ สงครามโลกครั้งที่สอง | |||||||
ช่องว่างฌ็องบลู. ส่วนภาคกลางของเบลเยียมระหว่าง Namur และ Wavre เป็นที่ตั้งของเหล่าทหารม้าของฝรั่งเศส (Corps de Cavalerie) (ภายใต้การนำของนายพล René Prioux), เพื่อการป้องกันการบุกเข้าสู่ฝรั่งเศสของเยอรมัน | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
เยอรมนี | |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
René Prioux |
Erich Hoepner Viktor von Schwedler | ||||||
กำลัง | |||||||
3 motorised divisions 3 infantry divisions |
2 panzer divisions 3 infantry divisions | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
AFV unknown ~ 2,000 killed, wounded and missing /III Corps; a few hundred casualties[3] |
unclear 33–37 percent of German tank strength lost 304 killed 413 wounded 29 missing IV Corps, a few hundred casualties.[4] | ||||||
ยุทธการที่ฌ็องบลู (หรือ ยุทธการที่ช่องว่างฌ็องบลู) เป็นการสู้รบกันระหว่างกองทัพฝรั่งเศสและกองทัพเยอรมันในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1940 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 กองทัพเวร์มัคท์ (กองกำลังป้องกัน) แห่งนาซีเยอรมันได้บุกครองลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ภายใต้ปฏิบัติการแผนการกรณีสีเหลือง (Fall Gelb-Case Yellow) กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตอบสนองด้วยแผนการดิล (Dyle Plan) หรือ แผนการดี ด้วยความมุ่งมั่นในการหยุดยั้งเยอรมันในเบลเยียมที่เชื่อว่า เป็นการโจมตีหลักของเยอรมัน ฝ่ายสัมพันธมิตรได้กระทำผิดพลาดอย่างไม่ไตร่ตรองด้วยการสั่งให้กองทัพเคลื่อนทัพเข้าสู่เบลเยียมในวันที่ 10 พฤษภาคม และ 12 พฤษภาคม เยอรมันได้เริ่มส่วนที่สองของแผนการกรณีสีเหลือง แผนการมันชไตน์ ด้วยการเคลื่อนทัพผ่านบริเวณเทือกเขาป่าอาร์แดน ไปจนถึงช่องแคบอังกฤษและทำการตัดกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในเบลเยียม
ด้วยความไม่คาดคิดว่าการรุกรานของเยอรมันในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำเป็นแผนหลอกล่อ กองทัพฝรั่งเศสได้มีความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งการรุกของเยอรมันในการเข้าสู่ใจกลางของเบลเยียมและฝรั่งเศสบนแนวตำแหน่งการป้องกันสองแห่งที่ฮันนัทและฌ็องบลู กองทัพที่หนึ่งของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร จะทำการป้องกันที่แกน ฌ็องบลู-วาฟวร์ เหล่าทหารม้าของฝรั่งเศส (Corps de Cavalerie) ภายใต้การนำของนายพล René Prioux ได้เดินหน้าเข้าสู่ฮันนันเพื่อตรวสอบการแปรขบวนทัพของส่วนที่เหลือของกองทัพที่หนึ่งที่ฌ็องบลู เพื่อการหยุดยั้งการรุกรานของเยอรมัน
ภายหลังจากยุทธการที่ฮันนัทซึ่งอยู่ห่างประมาณ 35 กิโลเมตร(22 ไมล์)ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฝรั่งเศสได้ถอนกำลังออกจากฌ็องบลูและตำแหน่งป้องกันหลักสำหรับฝรั่งเศสบนแนวรบเบลเยียม เป็นเวลาสองวันแล้วที่ฝรั่งเศสได้พ่ายแพ้จากการโจมตีโดยกองทัพที่ 6 การโจมตีอย่างน่าประหลาดใจของเยอรมันในการผ่านบริเวณเทือกเขาป่าอาร์แดนและการก้าวข้ามแม่น้ำเมิซที่ซีดาน ได้บีบบังคับให้กองทัพหนึ่งให้ล่าถอยออกจากเกมบลูซ์ จากนั้นก็ย้อนกลับมาที่ชายแดนฝรั่งเศสไปยังลีล ด้วยการล่าถอยที่ไม่เป็นระเบียบการป้องกันของฝ่ายสัมพันธมิตรในภาคกลางจากแนวรบเบลเยียมและกองทัพเยอรมันได้เข้ายึดครองภาคกลางของเบลเยียม ด้วยกลยุทธ์ทางยุทธ์ศาสตร์ในการรบไม่เป็นผล จึงได้หันเหความสนใจไปยังกองทัพที่หนึ่งที่ซีดานซึ่งจะเป็นการช่วยให้เยอรมันนั้นสามารถบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของแผนการกรณีเหลืองได้ แต่กองทัพที่หนึ่งกลับรอดและในช่วงการปิดล้อมที่ลีลได้ทำให้กองทัพเยอรมันนั้นเกิดเบี่ยงเบนความสนใจจากยุทธการที่ดันเคิร์ก ซึ่งจะช่วยให้กองกำลังปฏิบัติการทางทหารของอังกฤษ (British Expeditionary Forces หรือ B.E.F.) กองกำลังฝรั่งเศสอีกจำนวนมากมายในการอพยพ.
อ้างอิง
[แก้]
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "nb" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="nb"/>
ที่สอดคล้องกัน