มิลาเรปะ

เจจุน มีลาราปา (ทิเบต: རྗེ་བཙུན་མི་ལ་རས་པ, ไวลี: rje btsun mi la ras pa, Jetsun Milarepa) หรือ มิลาเรปะ[1][2] (อักษรโรมัน: Milarepa, 1028/40–1111/23)[3] เป็นสิทธาชาวทิเบต ที่เป็นที่รู้จักในฐานฆาตกรเมื่อเป็นเด็กก่อนจะหันเข้าสู่พุทธศาสนาและเป็นนักบวชรูปสำคัญในเวลาต่อมา ถือเป็นโยคีและคุรุนักประพันธ์ในศาสนาพุทธรูปที่มีชื่อเสียงที่สุดรูปหนึ่งของทิเบตและมีคำสอนเป็นที่รู้จักในหลายสำนักของศาสนาพุทธแบบทิเบต ท่านเป็นศิษย์ของมาร์ปาลตซาวา และเป็นบุคคลสำคัญในศาสนาพุทธทิเบตสำนักคักยู (Kagyu)[3] รวมถึงเป็นผู้พิชิตขึ้นเขาไกรลาศได้สำเร็จ
เรื่องราวชีวิตของมิลาเรปะเป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมทิเบต โดยชีวประวัติเล่มที่มีชื่อเสียงที่สุด The Life of Milarepa ผลงานเขียนโดยจังโยน เฮรูกา (ทิเบต: གཙང་སྨྱོན་ཧེ་རུ་ཀ; 1452–1507) ในศตวรรษที่ 15 ยังคงได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบัน[3][4][5] เรื่องเล่าของมิลาเรปะที่เล่าขานกันในปัจจุบันมีที่มาจากหนังสือดังกล่าว ประกอบกับธรรมเนียมมุขปาฐะและหลักฐานที่เป็นวัตถุบูชาที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ผ้าคลุมหนังหมีของท่าน[5] ในขณะที่เป็นที่ทราบกัน "น้อยมากเกี่ยวกับท่านในฐานะบุคคลในประวัติศาสตร์" มิลาเรปะยังควได้รับการเคารพบูชาในทุกสำนักทิเบตในฐานะ "ตัวอย่างของการทุ่มเทและกลายเป็นผู้ชำนาญทางศาสนา" เรื่องราวชีวิตของมิลาเรปะยังนำไปสู่การตั้งสำนักคักยูและบุคคลสำคัญในสำนัก[5]
นักวิชาการดอนัลด์ เอส โลเปซ จูเนียร์ (Donal S. Lopez Jr.) ชี้ให้เห็นว่าในหนังสือของจังโยน เฮรูกา ใช้องค์ประกอบเชิงรูปแบบจากพุทธประวัติของพระโคตมพุทธเจ้ามาแสดงออกให้มิลาเรปะมีลักษณะประดุจพระพุทธเจ้าของทิเบต ในฐานะบุคคลที่ "เกิดและตรัสรู้ในทิเบต ไม่เคนเดินทางไปอินเดียหรือเป็นศิษย์ของคุรุอินเดียท่านใด ๆ"[4] และแสดงให้เห็นถึง "วิธีอย่างรวดเร็วในแนวทางแบบตันตระ" ที่ซึ่งการหลุดพ้นสามารถทำได้ในช่วงชีวิตเดียว[4] ในคำสอนที่มิลาเรปะให้ไว้ มีการเน้นย้ำถึงคำสอนพุทธที่ว่าด้วย "ความไม่เป็นนิรันดร์, ความทรมานใน สังสารวัฏ, ความตายอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ และความไม่แน่นอนของการมาถึงซึ่งความตาย, การต้องเกิดใหม่อันน่าสยองขวัญ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากความไม่รู้" ในขณะเดียวกัน ชีวิตของมิลาเรปะยังเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้ฆาตกรก็กลับกลายมาเป็นพุทธะได้[4] และในหนังสือของจังโยน เฮรูกา ยังเป็นภาพสะท้อนของสองโลกที่อยู่คู่ขนานกัน โลกฆราวาส และโลกอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ซึ่งท้ายที่สุดคือโลกเดียวกัน บ่งบอกว่าโลกใบนี้เป็นโลกที่ศักดิ์สิทธิ์ในตัวมันเอง[4]
บทกวีเชิงจิตวิญญาณของมิลาเรปะที่ได้รับการยอมรับคือ ธรรมสังคีตแสนโศลก[2] (The Hundred Thousand Songs) ชีวประวัติต่าง ๆ ของมิลาเรปะมีรายละเอียดมากขึ้นด้วยธรรมสังคีตเหล่านี้ ซึ่งเมื่อรวมแล้วจะทำให้ชีวประวัติของท่านยาวขึ้นเป็นสองเท่า หนังสือนี้รวบรวมและแปลเป็นอังกฤษโดยมูลนิธิบูรพคดีศึกษา (Oriental Studies Foundation) ในปี 1962 และตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งในปี 1999 เป็นตอนแยกในชื่อ ธรรมสังคีตแสนโศลกของมิลาเรปะ[2] (The Hundred Thousand Songs of Milarepa) แปลและเสริมข้อมูลโดย Garma C.C. Chang และอีกครั้งในปี 2017 คริสตอเฟอร์ สตัก (Christopher Stag) จากเครือข่ายแปลนิตารถะ (Nitartha Translation Network) นำมาแปลใหม่และรวมธรรมสังคีตเหล่านี้อยู่ในตอนที่ 11 ของหนังสือ[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ลอบซัง พี. ลาลุงปะ (2544). ชีวประวัติของมิลาเรปะ. แปลโดย เชน นคร. ส่องศยาม. ISBN 9789749004654.
- 1 2 3 ชื่อแปลไทยจาก Garma C.C. Chang (2549). ธรรมสังคีตแสนโศลกของมิลาเรปะ. แปลโดย สมพร พึ่งอุดม. ส่องศยาม. ISBN 9789742602437.
- 1 2 3 Quintman 2004, p. 536.
- 1 2 3 4 5 Lopez 2010.
- 1 2 3 4 Quintman 2010.
บรรณานุกรม
[แก้]- Lopez, Donald S. Jr (2010), "Introduction", Tsangnyön Heruka. The Life of Milarepa, Penguin Books
- Quintman, Andrew (2004), "MI LA RAS PA (MILAREPA)", ใน Buswell, Robert E. (บ.ก.), Encyclopedia of Buddhism, MacMillan
- Quintman, Andrew (2010), "Translator's Introduction", Tsangnyön Heruka. The Life of Milarepa, Penguin Books
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- A Reader's Guide to Milarepa
- Biography on Kagyu website เก็บถาวร 2020-01-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The sixty songs of Milarepa
- Text, The Essential Songs of Milarepa in English
- Inviting the demon. (Milarepa, Tibetan Buddhism)(The Shadowissue) Judith Simmer-Brown, Parabola Vol.22 No.2 (Summer 1997) pp. 12–18
- Original Tibetan text of the biography of Milarepa at the Internet Archive
- Bronze sculpture of Yogi Milarepa at the University of Michigan Museum of Art[ลิงก์เสีย]