มิตซูบิชิ เอคลิปส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มิตซูบิชิ เอคลิปส์
Fourth generation Mitsubishi Eclipse GS coupe
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตMitsubishi Motors
เริ่มผลิตเมื่อ1989–2011 (906,876 คัน)
รุ่นปี1990–2012
แหล่งผลิตUnited States: Normal, Illinois (Diamond-Star Motors/MMNA)
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทSport compact
รูปแบบตัวถัง3-door liftback coupé (1989–2011)
2-door convertible (1994–2011)
โครงสร้างFront-engine, front-wheel-drive
Front-engine, four-wheel-drive (เฉพาะรุ่นแรกและรุ่นที่ 2)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้ามิตซูบิชิ คอร์เดีย
มิตซูบิชิ สตาเรียน (US-spec)

มิตซูบิชิ เอคลิปส์ (Mitsubishi Eclipse) เป็นรถรุ่นหนึ่ง ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) เป็นรถสปอร์ต ในตลาดรถสปอร์ต รถรุ่นเอคลิปส์ จะมีรุ่นที่ใกล้เคียงเช่น โตโยต้า เซลิก้า , ฮอนด้า พรีลูด และ ฟอร์ด มัสแตง ฯลฯ

มิตซูบิชิ เอคลิปส์ เริ่มผลิตครั้งแรกในรุ่นปี พ.ศ. 2533 จนถึงปี พ.ศ. 2554 แบ่งออกเป็น 4 เจเนอเรชั่น (โฉม) ตามช่วงเวลาได้ดังนี้

และล่าสุดในปี พ.ศ. 2560 หลายๆ คนที่ติดตามข่าวสารรถยนต์ เมื่อเห็นการเปิดตัว Mitsubishi Eclipse Cross ออกมาเมื่อปี 2017 แล้ว อาจจะรู้สึกชื่นชอบรถคอมแพกต์เอสยูวีที่มีรูปทรงสปอร์ตรุ่นนี้ รวมทั้งชื่อ Eclipse ยังชวนให้คิดถึงรถสปอร์ตในอดีตของ Mitsubishi จึงอาจเกิดคำถามว่ามีโอกาสแค่ไหนที่รถเอสยูวีจาก Mitsubishi รุ่นนี้จะเข้ามาสัมผัสถนนในเมืองไทยซึ่งรถเอสยูวีแป็นหนึ่งในประเภทรถที่ได้รับความนิยม

Generation ที่ 1 (รุ่นปี พ.ศ. 2533-2537)[แก้]

มิตซูบิชิ เอคลิปส์ โฉมที่ 1

เจนเนอเรชั่นแรกของ Mitsubishi Eclipse ถูกออกแบบในสหรัฐอเมริกาที่ Mitsubishi Motors North America Design Studio โดยมี 6 เกรดคือ Eclispe รุ่นมาตรฐาน, GS, GS DOHC, GS DOHC AWD, GS-T (Turbo) และ GSX ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้ในรถมีตั้งแต่ SOHC 1.8 ลิตรไร้ระบบอัดอากาศ 92 แรงม้า ไปจนถึง DOHC 2.0 ลิตร เทอร์โบ 195 แรงม้า โดย GSX ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐาน

โฉมนี้ เอคลิปส์เป็นที่รู้จักมากที่สุดในฐานะรถสปอร์ต hatchback 3 ประตู แบ่งออกเป็น 5 เกรด

  • เกรดมาตรฐาน ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า 92 แรงม้า ลูกสูบ 1.8 ลิตร 8 วาล์ว SOHC 4G37
  • ทริม GS ใช้เครื่องประเภทเดียวกับเกรดมาตรฐาน แต่เครื่องยนต์ที่ใช้ ทันสมัยกว่า แรงกว่า ชุดแต่งดีกว่า
  • ทริม GS DOHC ใช้เครื่อง 136 แรงม้า ลูกสูบ 2 ลิตร 16 วาล์ว DOHC 4G63
  • ทริม GS-T ใช้เครื่องเทอร์โบ ขับเคลื่อนล้อหน้า 195 แรงม้า ลูกสูบ 2 ลิตร 16 วาล์ว DOHC 4G63T
  • ทริม GSX ใช้เครื่องคล้ายกับทริม GS-T แต่ขับเคลื่อนสี่ล้อ

ระบบเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

Generation ที่ 2 (รุ่นปี พ.ศ. 2537-2542)[แก้]

มิตซูบิชิ เอคลิปส์ โฉมที่ 2

ในเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ Eclipse ทาง Mitsubishi ได้เพิ่มรุ่นเปิดประทุนหรือ Spyder เข้ามาเป็นทางเลือกนอกจากรุ่นคูเป้ โดยยังคงมีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ารวมทั้งขับเคลื่อน 4 ล้อ และมี 6 เกรดให้เลือกคือ RS, GS, GS Spyder, GS-T, GS-T Spyder และ GSX สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้กับรถในเจนเนอเรชั่นนี้มีแต่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แต่มีทั้งแบบไร้ระบบอัดอากาศกำลัง 140 แรงม้าและมีเทอร์โบชาร์จช่วยโดยเกรดสูงสุด GSX มีกำลัง 210 แรงม้า

Mitsubishi Eclipse เจนเนอเรชั่น 2 เป็นรถที่ปรากฏใน Fast & Furious โดยเป็นรถคันแรกที่ไบรอัน โอคอนเนอร์ใช้แข่ง

โฉมที่ เอคลิปส์มีบอดี้มาตรฐาน คือ hatchback 3 ประตู มี 7 เกรด

  • เกรดมาตรฐาน ใช้เครื่องหัวฉีดขับเคลื่อนล้อหน้า 140 แรงม้า ลูกสูบ 2.0 ลิตร 16-วาล์ว DOHC Chrysler 420A
  • ทริม RS ใช้เครื่องประเภทเดียวกันกับเกรดมาตรฐาน แต่ชุดแต่งดีกว่าเกรดมาตรฐาน
  • ทริม GS ใช้เครื่องประเภทเดียวกัน แต่ชุดแต่งดีกว่าเกรด RS
  • ทริม GS Spyder บอดี้รถเป็นแบบพิเศษ คือ convertible ขับเคลื่อนล้อหน้า 141 แรงม้า ลูกสูบ 2.4 ลิตร 16-วาล์ว SOHC Mitsubishi 4G64
  • ทริม GS-T เครื่องเทอร์โบ 210 แรงม้า ลูกสูบ 2.0 ลิตร 16-วาล์ม DOHC Mitsubishi 4G63
  • ทริม GS-T Spyder เป็นบอดี้ convertible เครื่องยนต์ประเภทเดียวกับเกรด GS-T
  • ทริม GSX เครื่องยนต์ประเภทเดียวกับเกรด GS-T แต่เป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ระบบเกียร์ 2 แบบ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และ ธรรมดา 5 สปีด

Generation ที่ 3 (รุ่นปี พ.ศ. 2542-2548)[แก้]

มิตซูบิชิ เอคลิปส์ โฉมที่ 3

Mitsubishi Eclipse เจนเนอเรชั่นที่ 3 เป็นรุ่นที่ถูกปรับการออกแบบมาจากรถคอนเซ็ปต์ Mitsubishi SST โดยใช้แพลตฟอร์มเกียวกับ Chrysler Sebring และ Dodge Status ในการผลิตซึ่งยังคงเป็นความร่วมมือกับ Chrysler อยู่ .o-ในขณะที่เครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 2 เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า เริ่มต้นตั้งแต่เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.4 ลิต 150 แรงม้าไปจนถึงเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร 210 แรงม้า โดยเป็นเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศทั้งหมด อย่างไรก็ตามเจนเนอเรชั่นนี้จะมีเฉพาะข้บเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น Eclipse เจนเนอเรชั่น 3 มี 7 เกรดให้เลือกคือ RS, GS, GS Spyder, GT, GT Spyder, GTS และ GTS Spyder

บอดี้มาตรฐานคือ hatchback 3 ประตู มี 7 เกรด

  • ทริม RS เครื่อง 152 แรงม้า 2.4 ลิตร 16-วาล์ว SOHC Mitsubishi 4G64
  • ทริม GS เหมือนทริม RS
  • ทริม GS-Spyder เหมือนทริม GS แต่เป็นบอดี้แบบ convertible 2 ประตู
  • ทริม GT เป็นเครื่อง 200 แรงม้า 3.0 ลิตร 24-วาล์ว SOHC 6G72
  • ทริม GT Spyder เครื่องเดียวกับ GT แต่เป็น convertible 2 ประตู
  • ทริม GTS เครื่อง 210 แรงม้า MVIM
  • ทริม GTS Spyder เครื่องเดียวกับ GTS แต่บอดี้เป็น convertible

ระบบเกียร์ 2 แบบ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และ ธรรมดา 5 สปีด

Generation ที่ 4 (รุ่นปี พ.ศ. 2548-2555)[แก้]

มิตซูบิชิ เอคลิปส์ โฉมที่ 4

เจนเนอเรชั่นสุดท้ายของ Eclipse ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม PS ของ Mitsubishi เองโดยเป็นการใช้แพลตฟอร์มร่วมกับรถของ Mitsubishi Endeavor และ Galant มี 5 เกรดคือ GS, GS Sport Spyder, SE, GT และ GT Spyder ส่วนเครื่องยนต์ที่ถูกใช้กับรถมี 2 ความจุและความแรงคือ 4 สูบ 2.4 ลิตร 162 แรงม้า และ V6 3.8 ลิตร 263 แรงม้า

บอดี้มาตรฐานยังเป็น hatchback 3 ประตู

  • ทริม GS เครื่องขับเคลื่อนล้อหน้า 162 แรงม้า 2.4 ลิตร 16-วาล์ว SOHC Mitsubishi 4G69
  • ทริม GS Spyder เครื่องเดียวกับ GS แต่บอดี้เป็น convertible และชุดแต่งดีกว่า
  • ทริม GT เครื่องขับเคลื่อนล้อหน้า 263 แรงม้า 3.8 ลิตร 24-วาล์ว SOHC 6G75
  • ทริม GT Spyder เครื่องเดียวกับ GT แต่บอดี้เป็น convertible และชุดแต่งรถดีกว่า

ระบบเกียร์ 4 แบบ คือ อัตโนมัติ 4 และ 5 สปีด กับ ธรรมดา 5 กับ 6 สปีด

Eclipse คันสุดท้ายออกมาจากสายการผลิตในวันที่ 16 สิงหาคม 2011 และในอีกปีหนึ่งต่อมาก็ถูกนำไปประมูลเพื่อนำเงินที่ได้มอบให้กาชาดญี่ปุ่นสำหรับช่วยเหลือเหยื่อจากแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดในปี 2011 ซึ่งเมื่อรวมทั้ง 4 เจนเนอเรชั่น Mitsubishi Eclipse ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 906,876 คัน