มัสยิดฮาจิอาลี

พิกัด: 18°59′06″N 72°48′36″E / 18.985°N 72.81°E / 18.985; 72.81
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มัสยิดและสุสานฮาจิอาลี
มัสยิดและสุสานฮาจิอาลี
ศาสนา
ศาสนาศาสนาอิสลาม
เขตมุมไบ
จังหวัดมหาราษฏระ
สถานะองค์กรศาลเจ้าในศาสนาอิสลาม
เจ้าของรัฐบาลรัฐมหาราษฏระ
ที่ตั้ง
ที่ตั้งเกาะเล็ก (Islet) นอกชายฝั่งของย่านวารลี
ประเทศอินเดีย อินเดีย
มัสยิดฮาจิอาลีตั้งอยู่ในมุมไบ
มัสยิดฮาจิอาลี
ที่ตั้งในมุมไบ
พิกัดภูมิศาสตร์18°59′06″N 72°48′36″E / 18.985°N 72.81°E / 18.985; 72.81
สถาปัตยกรรม
สถาปนิกSunni-Al-Jamaat
ประเภทมัสยิด และ สุสานซุนนี (Dargah)
รูปแบบสถาปัตยกรรมอินโด-อิสลาม
เริ่มก่อตั้งศตวรรศที่ 15 Century
เสร็จสมบูรณ์1431
ลักษณะจำเพาะ
ทิศทางด้านหน้าตะวันตก
โดม1
หอคอย1
ศาลเจ้า1

มัสยิดฮาจิอาลี (Haji Ali Dargah) เป็นมัสยิดและสุสานซุนนี (dargah) ที่ฝังศพของ Pir Haji Ali Shah Bukhari ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก (islet) นอกฝั่งของย่านวารลี ทางตอนใต้ของมุมไบ เปียร์ฮาจิอาลี เป็นนักบุญซูฟีจากอุซเบกิสถาน มัสยิดนี้เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงที่สุดของมุมไบ[1][2][3] ตัวมัสยิดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมอินโด-อิสลาม

ประวัติ[แก้]

มัสยิดฮาจิอาลีสร้างขึ้นในปี 1431[4] เพื่อระลึกถึงพ่อค้ามุสลิมผู้มั่งคั่ง นามว่า Sayyed Pir Haji Ali Shah Bukhari ผู้ที่ท้ายที่สุดได้ละทิ้งสมบัติทางโลกและออกเดินทางแสวงบุญไปยังนครเมกกะ เปียร์ฮาจิอาลีเป็นชาวเมืองบูฆอรอ (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอุซเบกิสถาน) เขาเดินทางไปทั่วโลกในช่วงกลางคริสต์ศตวรรศที่ 15 ก่อจะมาตั้งหลักปักฐานอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันเรียกว่า มุมไบ

ตามตำนานแล้ว[5] ครั้งหนึ่งท่านฮาจิอาลีได้เดินทางผ่านสตรียากไร้นางหนึ่งนอนร้องไห้อยู่บนถนน ในมือของเธอถือภาชนะว่างเปล่าใบหนึ่ง ท่านฮาจิอาลีได้สอบถามและทราบความว่าเธอกำลังจะถูกสามีทิ้ง เพราะเธอเผลอสะดุดล้มและทำน้ำมันที่บรรจุมาในภาชนะนั้นหกหมด ท่านฮาจิอาลีได้ขอให้เธอพาไปยังจุดที่เธอทำน้ำมันหก เขาได้นำนิ้วมือจุ่มลงไปในพื้นดินที่ชุ่มน้ำมันนั้น น้ำมันที่ซึมไปในดินต่างก็พรั่งพรูออกมาและบรรจุภาชนะของเธอจนเต็มอย่างน่าอัศจรรย์

ต่อมาเปียร์ฮาจิอาลีถูกรบกวนด้วยฝันร้ายซึ่งเขาฝันอยู่บ่อยครั้งว่าเขาได้ทำร้ายโลกใบนี้ด้วยการกระทำของเขา เขาได้สำนึกผิด ปลงตก และเครียดมาก เขาได้รับอนุญาตจากมารดาให้ออกเดินทางมายังอินเดียกับน้องชายของเขา ก่อนจะขึ้นฝั่งที่มุมไบ ใกล้กับย่านวารลี ตรงข้ามกับมัสยิดในปัจจุบัน เขาได้ตัดสินใจปักหลักอาศัยอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งฝากจดหมายระบุเจตนารมณ์ว่าเขาตั้งใจจะเผยแผ่ศาสนาอิสลามที่อินเดียและเขาสบายดีไปกับน้องชายของเขาซึ่งตัดสินใจเดินทางกลับอุซเบกิสถาน เขาได้เผยแผ่ศาสนาอิสลามมาโดยตลอดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเขา

อ้างอิง[แก้]

  1. Thomas, Amelia (2012). Goa & Mumbai (second ed.). Footscray, Victoria, Australia: Lonely Planet. pp. 87–88. ISBN 978-1-74179-778-7.
  2. Parab, Kanika; Poddar, Mansi (30 January 2010). "World's Greatest City: 50 reasons Mumbai is No.1: 43. The floating mosque". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2009.
  3. Lewis, Clara (11 February 2011). "Dargah devotees against sea link landing". The Times of India. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-20. สืบค้นเมื่อ 2019-04-26.
  4. "Haji Ali dargah was built in 1431 » Haji Ali Dargah, Maryam Mosque in Mumbai". Hajiali.org. 10 December 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-23. สืบค้นเมื่อ 7 February 2012.
  5. "History of Pir Haji Ali Shah Bukhari (R.A.)". Haji Ali Dargah Trust. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 August 2015.